The palm oil industry has been expa

The palm oil industry has been expanding rapidly in the last three decades in Malaysia,
with the planted area increasing by more than 11 fold from 291,000 ha in 1970 to
3,313,000 ha in 1999 [1]. Concomitantly, the number of palm oil mills has also grown
from 122 in 1977 to 334 in 1999, having a total processing capacity of 69 million
tonnes fresh fruit bunches (FFB) per year. Currently, Malaysia produces about 57
million tonnes of FFB annually, from which 10.6 million tonnes of crude palm oil and
1.3 million tonnes of palm kernel oil are extracted. In 1999, Malaysia exported 8.9
million tonnes of palm oil, and is currently ranked as the largest producer of palm oil in
the world, accounting for 52% of the total world production. These figures put into
perspective the importance of the palm oil industry in the overall industrial
development of Malaysia.
The process to extract oil from the FFB requires voluminous amount of water, mainly
for sterilising the fruits and for oil clarification, resulting in the discharge of about 2.5
m3
of effluent per tonne of crude oil processed [2]. Thus in 1999, a total of about 26.5
million m3
of effluent was generated from the Malaysian palm oil industry. Fresh palm
oil mill effluent, or POME as it is popularly known, is an acidic brownish colloidal
suspension characterised by high contents of organics and solids, and is discharged at a
temperature of 80-90°C (Table 1). It has been estimated that POME contributes to
about 30% of the total biochemical oxygen demand (BOD) load exerted on the
Malaysian aquatic environment [3]. As one of the major sources of pollution, POME
was among the first waste types to be singled out for statutory control. Table 1 also
shows the regulatory discharge standards currently in force.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

มีการขยายอย่างรวดเร็วในทศวรรษที่สามอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มในมาเลเซียพื้นที่ planted เพิ่ม ด้วยกว่า 11 พับจาก 291,000 ฮา ใน 1970 เพื่อ3,313,000 ฮา ในปี 1999 [1] Concomitantly จำนวนของโรงงานผลิตน้ำมันปาล์มยังมีพัฒนาจาก 122 ใน 1977 ถึง 334 ในปี 1999 มีทั้งหมดประมวลผลกำลัง 69 ล้านตันผลไม้ช่อ (FFB) ต่อปี ปัจจุบัน มาเลเซียผลิตประมาณ 57ล้านตัน FFB ของปี จากที่ 10.6 ล้านตันน้ำมันปาล์มดิบ และ1.3 ล้านตันน้ำมันปาล์มเคอร์เนลที่สกัด ในปี 1999 มาเลเซียส่งออก 8.9 นอกล้านตันน้ำมันปาล์ม และขณะนี้การจัดอันดับเป็นผู้ผลิตที่ใหญ่ที่สุดของปาล์มน้ำมันในโลก บัญชี 52% ของการผลิตโลกรวมกัน ตัวเลขเหล่านี้ใส่ลงในมุมมองความสำคัญของอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันในภาคอุตสาหกรรมโดยรวมการพัฒนาของมาเลเซียกระบวนการสกัดน้ำมันจาก FFB ต้องยอด voluminous ของน้ำ ส่วนใหญ่สำหรับ sterilising ผลไม้ และน้ำมันชี้ แจง เกิดขึ้นในการปล่อยประมาณ 2.5m3 ของน้ำต่อ tonne น้ำมันดิบประมวลผล [2] ดังนั้นในปี 1999 จำนวนประมาณ 26.5m3 ล้าน ของน้ำทิ้งถูกสร้างจากอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มมาเลเซีย ปาล์มสดน้ำทิ้งโรงงานน้ำมัน หรือ POME เป็นรู้จักที่รู้จักกัน เป็นความเปรี้ยวน้ำตาล colloidalระงับโรค โดยเนื้อหาที่สูงของวัตถุอินทรีย์และของแข็ง และออกที่เป็นอุณหภูมิ 80-90 องศาเซลเซียส (ตารางที่ 1) มันมีการประมาณว่า POME สนับสนุนประมาณ 30% ของปริมาณอุปสงค์รวม biochemical ออกซิเจน (BOD) นั่นเองในการมาเลเซียน้ำสภาพแวดล้อม [3] เป็นหนึ่งในแหล่งมาสำคัญของมลภาวะ POMEได้ระหว่างชนิดแรกที่เสียเพื่อจะกลั่นสำหรับการควบคุมตามกฎหมาย ตาราง 1 ยังแสดงมาตรฐานการปฏิบัติกำกับดูแลอยู่ในกองทัพ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

อุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มที่ได้รับการขยายตัวอย่างรวดเร็วในช่วงสามทศวรรษที่ผ่านมาในประเทศมาเลเซีย
ที่มีพื้นที่เพาะปลูกเพิ่มขึ้นกว่า 11 เท่าจาก 291,000 เฮกตาร์ในปี 1970 ที่จะ
3,313,000 ฮ่าในปี 1999 [1] ร่วมกันจำนวนของโรงงานน้ำมันปาล์มยังมีการเติบโต
จาก 122 ใน 1,977-334 ในปี 1999 มีกำลังการผลิตรวม 69 ล้าน
ตันที่อัดแน่นผลไม้สด (FFB) ต่อปี ปัจจุบันมาเลเซียผลิตประมาณ 57
ล้านตันผลปาล์มสดเป็นประจำทุกปีจากการที่ 10,600,000 ตันน้ำมันปาล์มดิบและ
1,300,000 ตันของน้ำมันเมล็ดในปาล์มที่สกัด ในปี 1999 มาเลเซียมีการส่งออก 8.9
ล้านตันจากน้ำมันปาล์มและมีการจัดอันดับในปัจจุบันเป็นผู้ผลิตที่ใหญ่ที่สุดของน้ำมันปาล์มใน
โลกคิดเป็น 52% ของการผลิตทั่วโลกทั้งหมด ตัวเลขเหล่านี้ใส่ลงไปใน
มุมมองของความสำคัญของอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มในภาคอุตสาหกรรมโดยรวม
การพัฒนาของประเทศมาเลเซีย.
กระบวนการในการสกัดน้ำมันจากผลปาล์มสดที่ต้องใช้จำนวนเงินที่มากมายของน้ำส่วนใหญ่
สำหรับการฆ่าเชื้อผลไม้และชี้แจงน้ำมันส่งผลในการปฏิบัติเกี่ยวกับ 2.5
m3
ของน้ำทิ้งตันต่อน้ำมันดิบแปรรูป [2] ดังนั้นในปี 1999 รวมประมาณ 26.5
ล้าน m3
ของน้ำทิ้งถูกสร้างขึ้นจากอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มมาเลเซีย ปาล์มสด
น้ำทิ้งจากโรงงานน้ำมันหรือ POME เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายเป็นคอลลอยด์ที่เป็นกรดน้ำตาล
ระงับโดดเด่นด้วยเนื้อหาที่สูงของสารอินทรีย์และของแข็งและถูกปล่อยออกมาที่
อุณหภูมิ 80-90 องศาเซลเซียส (ตารางที่ 1) มันได้รับการคาดการณ์ว่า POME ก่อให้
ประมาณ 30% ของออกซิเจนทางชีวเคมีรวมความต้องการ (BOD) โหลดกระทำต่อ
สิ่งแวดล้อมทางน้ำมาเลเซีย [3] ในฐานะที่เป็นหนึ่งในแหล่งสำคัญของมลพิษ POME
เป็นหนึ่งในประเภทของเสียครั้งแรกที่จะแยกออกมาสำหรับการควบคุมตามกฎหมาย ตารางที่ 1 นอกจากนี้ยัง
แสดงให้เห็นถึงมาตรฐานการปล่อยกฎระเบียบบังคับอยู่ในปัจจุบัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ปาล์มน้ำมัน อุตสาหกรรมมีการขยายตัวอย่างรวดเร็วในช่วงสามทศวรรษที่ผ่านมาในมาเลเซีย
กับพื้นที่เพาะปลูกเพิ่มขึ้นมากกว่า 11 เท่า จาก 291000 ฮาในปี 1970

3313000 ฮาในปี 1999 [ 1 ] เป็นทีม จํานวนปาล์มน้ำมัน โรงงานยังเติบโต
จาก 122 ใน 1977 ถึง 334 ในปี 1999 มีความสามารถในการประมวลผลรวม 69 ล้าน
ตันพวงผลไม้สด ( เอฟเอฟบี ) ต่อปี ในปัจจุบันมาเลเซียผลิตประมาณ 57
ล้านตันของเอฟเอฟบีทุกปีจากที่ 10.6 ล้านตัน น้ำมันปาล์มดิบและ
1.3 ล้านตันของน้ำมันเมล็ดในปาล์มสกัด ในปี 1999 , มาเลเซียส่งออก 8.9
ล้านตันของน้ำมันปาล์ม และขณะนี้มีการจัดอันดับเป็นผู้ผลิตที่ใหญ่ที่สุดของน้ำมันปาล์มใน
โลก , การบัญชีสำหรับ 52% ของการผลิตของโลกทั้งหมด ตัวเลขเหล่านี้ใส่ลงไปใน
มุมมองความสำคัญของอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มในมาเลเซีย โดยการพัฒนาอุตสาหกรรม
.
กระบวนการแยกน้ำมันจากเอฟเอฟบีต้องการเงินมากมายของน้ำส่วนใหญ่
สำหรับทำให้ผลไม้และชี้แจงน้ำมัน ส่งผลให้มีผู้ป่วยประมาณ 2.5
M3
น้ำทิ้งต่อตันของน้ำมันดิบแปรรูป [ 2 ] . ดังนั้น ในปี 1999 รวมประมาณ 26.5 ล้าน m3