The study has some limitations. Fir

The study has some limitations. Firstly, the questionnaire was developed for the needs of this study and was not tested for validity or reliability. Also, the participants were invited to participate in the study by email in a given time with no reminders, which may limit the number of participants. In addition, the study population was determined at the enterprise level, therefore we could not send the questionnaire to those best aware of the company’s situation. The same person may have different roles in the company and asked about the role he/she has been able to answer this question in multiple sites. This led to heterogenous distribution of the positions of respondents in the companies. Most of participants were women which may reflect gender distribution in occupational health issues in the companies.
Studying enterprises’ practices is challenging because the different structures within and resources available to companies may influence the responses. Contracts with different OHS suppliers can also influence the responses. When assessing practices, different understandings of work-related stress as a concept can also cause variation. The assessment of the situation is based on subjective views that vary from one individual and situation to another. This study involved only those who were willing to participate, who may well be a highly motivated group. However, as the information in the questionnaire was impersonal, we may expect that the respondents reported the situation as accurately as possible.
The OHS alone can’t change the working conditions and the enterprises need more information on work related stress and what they can do about it. The enterprises should be willing need to affect to work-related stress and prioritize preventive actions at enterprise level11, 16, 29, 30). The collaboration between workplace and OHS could be improved increasing active communication between the workplace with regular meeting. No one is the single owner of the problem of work-related stress and actions should be taken in cooperation with OHS, OSH and enterprises.
Future research should to examine this improvement of communication between workplace and OHS.
There is also a need for future studies to evaluate interventions that include workplace prevention activities. Future research should also include economic evaluation, which can assist employers in making decisions about which intervention to implement.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การศึกษามีข้อจำกัดบางอย่าง ประการแรก แบบสอบถามที่ได้รับการพัฒนาความต้องการของการศึกษานี้ และได้รับการทดสอบไม่ถูกต้องหรือความน่าเชื่อถือ ยัง ผู้เข้าร่วมได้รับเชิญเข้าร่วมในการศึกษาทางอีเมล์ในเวลาที่กำหนดไม่เตือน ซึ่งอาจจำกัดจำนวนผู้เรียน ประชากรศึกษากำหนดในระดับองค์กร ดังนั้นเราไม่สามารถส่งแบบสอบถามผู้ที่ทราบดีถึงสถานการณ์ของบริษัท คนเดียวอาจมีบทบาทแตกต่างกันในบริษัท และสอบถามเกี่ยวกับบทบาทเขาได้รับสามารถที่จะตอบคำถามนี้ในหลายไซต์ นี้นำไปกระจาย heterogenous ของตำแหน่งของผู้ตอบในบริษัท ส่วนใหญ่คนมีผู้หญิงซึ่งอาจสะท้อนการกระจายของเพศในปัญหาอาชีวอนามัยในบริษัทศึกษาวิธีปฏิบัติขององค์กรมีความท้าทายเนื่องจากโครงสร้างต่าง ๆ ภายในและทรัพยากรที่มีอยู่กับบริษัทที่อาจมีผลต่อการตอบสนอง สัญญากับผู้ OHS ยังสามารถมีอิทธิพลต่อการตอบสนอง เมื่อการประเมินวิธีปฏิบัติ ความเข้าใจแตกต่างกันของความเครียดที่เกี่ยวข้องกับการทำงานเป็นแนวคิดทำให้เกิดความผันแปร การประเมินสถานการณ์เป็นไปตามเรื่องมุมมองที่แตกต่างจากบุคคลและสถานการณ์อื่น การศึกษานี้เกี่ยวข้องเฉพาะคนที่ยอมเข้าร่วม ดีอาจเป็นกลุ่มแรงจูงใจสูง อย่างไรก็ตาม ตามข้อมูลในแบบสอบถามที่เป็นตัวตน เราอาจคาดว่า ผู้ตอบรายงานสถานการณ์ได้อย่างถูกต้องที่สุดOHS เพียงอย่างเดียวไม่สามารถเปลี่ยนสภาพการทำงาน และองค์กรต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับงานที่เกี่ยวข้องกับความเครียดและสิ่งที่พวกเขาสามารถทำมัน ในองค์กรควรจะต้องเต็มใจที่มีผลต่อการทำงานที่เกี่ยวข้องกับความเครียด และจัดลำดับความสำคัญการดำเนินการเชิงป้องกันที่องค์กร level11, 16, 29, 30) การประสานงานและ OHS สามารถปรับปรุงเพิ่มสื่อสารใช้งานระหว่างทำงานมีการประชุมปกติ เป็นเจ้าเดียวของปัญหาความเครียดที่เกี่ยวข้องกับการทำงาน และการดำเนินการควรดำเนินการร่วมกับ OHS, OSH และวิสาหกิจงานวิจัยในอนาคตควรจะตรวจสอบการปรับปรุงการสื่อสารระหว่างที่ทำงานและ OHSมีความจำเป็นสำหรับการศึกษาในอนาคตเพื่อประเมินกิจกรรมที่รวมกิจกรรมการป้องกันการทำงาน งานวิจัยในอนาคตควรจะมีการประเมินผลทางเศรษฐกิจ ซึ่งสามารถช่วยนายจ้างในการตัดสินใจเกี่ยวกับการแทรกแซงการใช้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การศึกษามีข้อ จำกัด บาง ประการแรกแบบสอบถามได้รับการพัฒนาสำหรับความต้องการของการศึกษาครั้งนี้และไม่ได้ผ่านการทดสอบความถูกต้องหรือความน่าเชื่อถือ นอกจากนี้ผู้เข้าร่วมได้รับเชิญให้เข้าร่วมในการศึกษาทางอีเมลในเวลาที่กำหนดด้วยการแจ้งเตือนไม่ซึ่งอาจจะ จำกัด จำนวนผู้เข้าร่วม นอกจากนี้ประชากรการศึกษาได้กำหนดที่ระดับองค์กรดังนั้นเราจึงไม่สามารถส่งแบบสอบถามไปยังผู้ที่ดีที่สุดตระหนักถึงสถานการณ์ของ บริษัท ฯ คนคนเดียวกันอาจมีบทบาทที่แตกต่างใน บริษัท และถามเกี่ยวกับบทบาทที่เขา / เธอได้รับสามารถที่จะตอบคำถามนี้ในหลายเว็บไซต์ นี้นำไปสู่การกระจาย heterogenous ของตำแหน่งของผู้ตอบแบบสอบถามใน บริษัท ส่วนใหญ่ของผู้เข้าร่วมเป็นผู้หญิงซึ่งอาจสะท้อนให้เห็นถึงการจำแนกเพศในเรื่องอาชีวอนามัยใน บริษัท .
การศึกษาการปฏิบัติขององค์กรเป็นสิ่งที่ท้าทายเพราะโครงสร้างที่แตกต่างกันภายในและทรัพยากรที่มีอยู่ให้กับ บริษัท ที่อาจมีผลต่อการตอบสนอง สัญญากับซัพพลายเออร์ OHS ที่แตกต่างกันนอกจากนี้ยังจะมีผลต่อการตอบสนอง เมื่อมีการประเมินการปฏิบัติความเข้าใจที่แตกต่างกันของความเครียดจากการทำงานที่เกี่ยวข้องกับการเป็นแนวคิดยังสามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง การประเมินสถานการณ์จะขึ้นอยู่กับมุมมองหรือทัศนะที่แตกต่างไปจากของแต่ละบุคคลและสถานการณ์ไปยังอีก การศึกษาครั้งนี้มีส่วนเกี่ยวข้องเฉพาะผู้ที่มีความเต็มใจที่จะมีส่วนร่วมที่ดีอาจจะเป็นกลุ่มที่มีแรงจูงใจสูง แต่เป็นข้อมูลในแบบสอบถามเป็นตัวตนเราอาจคาดหวังว่าผู้ตอบแบบสอบถามที่มีการรายงานสถานการณ์อย่างถูกต้องที่สุด.
OHS เพียงอย่างเดียวไม่สามารถเปลี่ยนสภาพการทำงานและผู้ประกอบการต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับความเครียดจากการทำงานที่เกี่ยวข้องและสิ่งที่พวกเขาสามารถทำได้ เกี่ยวกับมัน. ผู้ประกอบการควรจะจำเป็นที่จะต้องยินดีที่จะส่งผลกระทบต่อการทำงานที่เกี่ยวข้องกับความเครียดและการจัดลำดับความสำคัญการดำเนินการป้องกันที่ level11 องค์กร, 16, 29, 30) ความร่วมมือระหว่างสถานที่ทำงานและ OHS อาจจะดีขึ้นการเพิ่มการสื่อสารระหว่างการใช้งานในสถานที่ทำงานที่มีการประชุมปกติ ไม่มีใครเป็นเจ้าของเดียวของปัญหาที่เกิดจากความเครียดจากการทำงานที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการที่จะต้องดำเนินการในความร่วมมือกับ OHS, OSH และสถานประกอบการ.
การวิจัยในอนาคตควรที่จะตรวจสอบการปรับปรุงการสื่อสารระหว่างสถานที่ทำงานและ OHS นี้.
นอกจากนี้ยังมีความจำเป็นสำหรับการศึกษาในอนาคต เพื่อประเมินการแทรกแซงที่มีกิจกรรมการป้องกันสถานที่ทำงาน การวิจัยในอนาคตควรมีการประเมินผลทางเศรษฐกิจซึ่งสามารถให้ความช่วยเหลือนายจ้างในการตัดสินใจเกี่ยวกับการที่จะดำเนินการแทรกแซง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การศึกษามีข้อจำกัด คือ แบบสอบถามที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของการศึกษาและได้ผ่านการตรวจสอบคุณภาพหรือความน่าเชื่อถือ นอกจากนี้ ผู้ที่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมในการศึกษาทางอีเมล์ในเวลาที่กําหนด ไม่มีการแจ้งเตือน ซึ่งอาจจะ จำกัด จำนวนของผู้เข้าร่วม นอกจากนี้ ประชากรที่ศึกษาเป็นกำหนดระดับองค์กร ดังนั้นเราจึงไม่สามารถส่งแบบสอบถามไปยังผู้ที่ดีที่สุดตระหนักถึงสถานการณ์ของบริษัท คนๆ เดียวกันอาจจะมีบทบาทที่แตกต่างกันในบริษัท และถามเกี่ยวกับบทบาทที่เขา / เธอได้ตอบคำถามนี้ในเว็บไซต์หลาย ทำให้เกิดการกระจายของตำแหน่งของผู้ตอบแบบสอบถามในกลุ่มบริษัท ส่วนใหญ่ของกลุ่มตัวอย่างผู้หญิงซึ่งอาจสะท้อนให้เห็นถึงการกระจายเพศอาชีวอนามัยในประเด็นที่บริษัทการศึกษาและการปฏิบัติเป็นสิ่งที่ท้าทาย เพราะแตกต่างกัน โครงสร้างภายในและทรัพยากรที่มีอยู่ให้กับ บริษัท อาจมีผลต่อการตอบสนอง สัญญากับซัพพลายเออร์ OHS ที่แตกต่างกันยังสามารถมีอิทธิพลต่อการตอบสนอง เมื่อประเมินการปฏิบัติความเข้าใจที่แตกต่างกันของการทำงานที่เกี่ยวข้องกับความเครียดเป็นแนวคิดที่สามารถทำให้เกิดการแปรผัน การประเมินสถานการณ์จากมุมมองที่แตกต่างไปจากกลุ่มบุคคลและสถานการณ์อื่น การศึกษานี้เกี่ยวข้องเฉพาะผู้ที่เต็มใจเข้าร่วม ซึ่งอาจเป็นแรงจูงใจสูงกลุ่ม อย่างไรก็ตาม ข้อมูลในแบบสอบถามที่เราอาจคาดหวังว่า ผู้ตอบแบบสอบถามรายงานสถานการณ์ได้อย่างถูกต้องที่สุดด้าน OHS คนเดียวไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสภาพการทำงาน และ บริษัท ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำงานที่เกี่ยวข้องกับความเครียดและสิ่งที่พวกเขาสามารถทำได้ องค์กรควรจะยินดี จะมีผลต่อการทำงานที่เกี่ยวข้องกับความเครียดและจัดลำดับความสำคัญการกระทำป้องกันที่องค์กร level11 , 16 , 29 , 30 ) ความร่วมมือระหว่างสถานประกอบการ และโรงพยาบาล สามารถปรับปรุงเพิ่มการใช้งานการสื่อสารระหว่างสถานประกอบการกับการประชุมปกติ ไม่มีใครเป็นเจ้าของเดียวของปัญหาของการทำงานที่เกี่ยวข้องกับความเครียด และควรให้ความร่วมมือกับโรงพยาบาลในออช , และองค์กรอนาคตของการวิจัยควรจะตรวจสอบการปรับปรุงการสื่อสารระหว่างการทำงาน และโรงพยาบาล .นอกจากนี้ยังมีความต้องการสำหรับการศึกษาในอนาคตเพื่อส่งเสริมกิจกรรมการป้องกัน ได้แก่ สถานประกอบการ วิจัยในอนาคตควรมีการประเมินผลทางเศรษฐกิจ ซึ่งสามารถช่วยให้นายจ้างในการตัดสินใจเกี่ยวกับโปรแกรมที่ใช้ .