Abstract: Objective: To investigate

Abstract: Objective: To investigate whether there is a relationship between the oral hygiene habits of individuals with severe disability the carer’s personal appearance and interest in oral health. Patients and methods: The study group was formed of 60 disabled persons and their respective carers who came for the first time to consultation in the Special-Needs Dentistry Unit of the University of Santiago de Compostela, Spain. All the carers answered a standardised questionnaire of 28 questions divided into four sections: disabled individual’s demographic data, disabled individual’s general medical details, social aspects of the carer (personal appearance of the carer and interest in oral health), and disabled individual’s oral hygiene habits. The personal appearance of the carers and their interest in the disabled individual’s oral health were evaluated using independent scales designed specifically for the study, with five binary items in each scale. Results: The carer’s personal appearance and interest in the disabled individual’s oral health showed a statistically significant relationship with the individual’s oral hygiene habits, particularly with respect to the frequency and duration of toothbrushing, need for physical restraint during toothbrushing, use of a manual toothbrush and use of toothpaste. Conclusions: The carer’s personal appearance and interest in the disabled individual’s oral health are good indicators of the oral hygiene habits of an individual with severe disability. Consideration should be given to the inclusion of these aspects as a complementary element of the dental record.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บทคัดย่อ: วัตถุประสงค์: เพื่อตรวจสอบว่า มีความสัมพันธ์ระหว่างพฤติกรรมสุขอนามัยในช่องปากของบุคคลที่มีความพิการรุนแรงของคุมออกซิเจนลักษณะส่วนบุคคลและความสนใจในสุขภาพช่องปาก ผู้ป่วยและวิธีการ: กลุ่มการศึกษาก่อตั้ง 60 คนพิการและผู้ดูแลเด็กของพวกเขาเกี่ยวข้องที่มาครั้งแรกเพื่อให้คำปรึกษาในหน่วยทันตกรรมความต้องการพิเศษของมหาวิทยาลัยของโปส สเปน ผู้ดูแลเด็กทั้งหมดที่ตอบแบบสอบถามมาตรฐาน 28 คำถามแบ่งออกเป็นสี่ส่วน: ข้อมูลประชากรของผู้พิการแต่ละ ถูกปิดใช้งานแต่ละรายละเอียดทางการแพทย์ทั่วไป ด้านสังคมของคุมออกซิเจน (ลักษณะส่วนบุคคลของคุมออกซิเจนและสนใจในสุขภาพช่องปาก), และของผู้พิการแต่ละของนิสัยสุขอนามัยในช่องปาก ลักษณะส่วนบุคคลของผู้ที่ดูแลเด็กและความสนใจในสุขภาพช่องปากของแต่ละบุคคลผู้พิการได้ถูกประเมินโดยใช้เครื่องชั่งอิสระโดยเฉพาะสำหรับการศึกษา มีห้าไบนารีรายการในแต่ละระดับ ผลลัพธ์: คุมออกซิเจนในลักษณะส่วนบุคคลและความสนใจในสุขภาพช่องปากของแต่ละบุคคลผู้พิการที่แสดงให้เห็นความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติกับนิสัยสุขอนามัยในช่องปากของแต่ละบุคคล โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับความถี่และระยะเวลาในการแปรงฟัน ต้องการสำหรับยับยั้งชั่งใจทางกายภาพในระหว่างแปรงฟัน ใช้แปรงสีฟันด้วยตนเอง และใช้ยาสีฟัน สรุป: ลักษณะส่วนบุคคลและความสนใจในสุขภาพช่องปากของแต่ละบุคคลผู้พิการของคุมออกซิเจนมีตัวชี้วัดที่ดีของพฤติกรรมสุขอนามัยในช่องปากของคนพิการรุนแรง ควรพิจารณาการรวมด้านนี้เป็นองค์ประกอบเสริมของเรกคอร์ทันตกรรม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บทคัดย่อ: วัตถุประสงค์: เพื่อตรวจสอบว่ามีความสัมพันธ์ระหว่างพฤติกรรมการดูแลอนามัยช่องปากของบุคคลที่มีความพิการรุนแรงลักษณะส่วนบุคคลดูแลและความสนใจในการดูแลสุขภาพช่องปาก ผู้ป่วยและวิธีการ: กลุ่มการศึกษาที่ถูกสร้างขึ้นของคนพิการและผู้ดูแล 60 ของตนที่เข้ามาเป็นครั้งแรกที่จะให้คำปรึกษาในความต้องการพิเศษทันตกรรมหน่วยของมหาวิทยาลัย Santiago de Compostela, สเปน ผู้ดูแลทั้งหมดที่ตอบแบบสอบถามที่เป็นมาตรฐานของ 28 คำถามแบ่งออกเป็นสี่ส่วน: ข้อมูลประชากรของแต่ละบุคคลพิการรายละเอียดทางการแพทย์ทั่วไปบุคคลพิการด้านสังคมของผู้ดูแล (ลักษณะส่วนบุคคลของผู้ดูแลและให้ความสนใจในการดูแลสุขภาพช่องปาก) และพฤติกรรมการดูแลอนามัยช่องปากของแต่ละบุคคลพิการ . ลักษณะส่วนบุคคลของผู้ดูแลและความสนใจในการดูแลสุขภาพช่องปากของแต่ละบุคคลพิการได้รับการประเมินโดยใช้เครื่องชั่งอิสระที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับการศึกษาที่มีห้ารายการไบนารีในแต่ละระดับ ผล: ลักษณะส่วนบุคคลดูแลและความสนใจในการดูแลสุขภาพช่องปากของแต่ละบุคคลพิการมีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติกับพฤติกรรมการดูแลอนามัยช่องปากของแต่ละคนโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวกับความถี่และระยะเวลาของการแปรงฟันที่จำเป็นสำหรับการยับยั้งชั่งใจทางกายภาพในระหว่างการแปรงฟันใช้แปรงสีฟันและ ใช้ยาสีฟัน สรุปลักษณะส่วนบุคคลของผู้ดูแลและความสนใจในสุขภาพช่องปากของบุคคลที่พิการเป็นตัวชี้วัดที่ดีของพฤติกรรมการดูแลอนามัยช่องปากของบุคคลที่มีความพิการรุนแรง ควรพิจารณาการรวมของประเด็นเหล่านี้เป็นองค์ประกอบที่สมบูรณ์ของระเบียนทันตกรรม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

วัตถุประสงค์ : เพื่อศึกษาว่ามีความสัมพันธ์ระหว่างพฤติกรรมอนามัยช่องปากของบุคคลที่มีความพิการรุนแรง เป็นผู้ดูแลส่วนตัวลักษณะและความสนใจในสุขภาพช่องปาก ผู้ป่วยและวิธีการ : กลุ่มศึกษา คือ การเกิดขึ้นของ 60 คนพิการและผู้ดูแลของตนที่มาเป็นครั้งแรก เพื่อปรึกษาหารือในความต้องการพิเศษของหน่วยทันตกรรมมหาวิทยาลัยโทลีโด , สเปน ผู้ดูแลทั้งหมดที่ตอบแบบสอบถามมาตรฐาน 28 คำถามแบ่งออกเป็นสี่ส่วน ได้แก่ ข้อมูลส่วนบุคคลของคนพิการแต่ละคน ผู้พิการแต่ละบุคคลทั่วไปทางการแพทย์รายละเอียด ลักษณะทางสังคมของผู้ดูแล ( ลักษณะส่วนบุคคลของผู้ดูแล และความสนใจในสุขภาพช่องปาก และสุขภาพช่องปากของคนพิการแต่ละคน นิสัย ลักษณะส่วนบุคคลของผู้ดูแลและความสนใจของพวกเขาในของคนพิการแต่ละคน สุขภาพช่องปาก ได้แก่ การใช้เครื่องชั่งแบบที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับการศึกษานี้ไบนารีรายการในแต่ละระดับ ผล : เป็นผู้ดูแลส่วนตัวลักษณะและความสนใจในของคนพิการแต่ละคน สุขภาพช่องปากมีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติกับพฤติกรรมอนามัยช่องปากของแต่ละบุคคล โดยเฉพาะส่วนที่เกี่ยวข้องกับความถี่และระยะเวลาของการแปรงฟัน ต้องการสำหรับความยับยั้งชั่งใจทางกายภาพในการแปรงฟัน การใช้แปรงสีฟันด้วยตนเอง และใช้ยาสีฟัน สรุป : เป็นผู้ดูแลส่วนตัวลักษณะและความสนใจในสุขภาพช่องปากของคนพิการแต่ละคน เป็นตัวบ่งชี้ที่ดีของสุขภาพช่องปาก พฤติกรรมของบุคคลที่มีความพิการรุนแรง การพิจารณาให้รวมของลักษณะต่าง ๆ เหล่านี้เป็นองค์ประกอบที่สมบูรณ์ของประวัติทันตกรรม