When listening to liked music, DC a

When listening to liked music, DC and BC had similar panel
dominance curves compared to MC. When MC was paired with
liked music, sweetness was dominant from the beginning of the
trial towards the end, without any perception of bitterness. DC was
perceived to be dominantly sweet after 45% of the standardized
time, and BC was significantly sweeter when listening to liked
music from the onset of mastication period until 60% standardized
time. Liked music has been shown to enhance sweetness perception
in this study. Platte et al. (2013) reported that participants
induced into positive mind states gave higher sweetness ratings in
sucrose and lower bitterness ratings in quinine solutions compared
to when a negative mood was induced. Here, the final hedonic
judgment of the gelati is not fully influenced by the hedonic valence
of the music but may also be influenced by the hedonic tone of the
gelati itself. For example, MC was rated the most pleasant gelato
(Table 3) when paired with the most liked music sample, and this
may encourage a congruency effect, which enhances desirable
sensory taste attributes (in this case sweetness). This is similar to
the findings of Macht, Roth, and Ellgring (2002), who reported that
after viewing a joyful mood-inducing film, there was not only a
higher tendency to eat more chocolate, but the chocolate also
tasted more pleasant and more “stimulating” than eating it after
watching a sad movie. In addition, Macht and Mueller (2007) reported
that eating chocolate after watching a positive moodinducing
film significantly elevated mood, as compared to drinking
water. Hence, we may conclude that the increase in sweetness
in chocolate gelati might be due to an elevation of mood, which can
be explained by emotion mechanisms (Platte et al., 2013). Pertinently,
positive mood states associated with liked music can
heighten arousal levels, increasing sensitivity and lowering taste
thresholds; thereby amplifying taste perceptions

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ฟังเพลงถูกใจ DC และ BC มีแผงคล้ายเส้นโค้งการปกครองเทียบกับ MC เมื่อ MC ถูกจับคู่กับเพลงที่ชอบ ความหวานเป็นหลักจากจุดเริ่มต้นของการทดลองใช้ในตอนท้าย โดยไม่รับรู้ใด ๆ ของความขมขื่น DC เป็นระวังหวาน dominantly หลังจาก 45% ของการมาตรฐานเวลา และ BC ก็หวานกว่ามากฟังชอบเพลงจากการโจมตีของ mastication ระยะเวลาจนถึง 60% ได้มาตรฐานครั้ง ชอบเพลงที่ได้รับการแสดงเพื่อเพิ่มการรับรู้ความหวานในการศึกษานี้ Platte et al. (2013) รายงานว่า ผู้เข้าร่วมเกิดในใจบวก อเมริกาให้คะแนนความหวานสูงในซูโครสและขมจัดอันดับล่างเปรียบเทียบโซลูชันควินินไปเมื่อถูกทำให้เกิดอารมณ์ที่เป็นลบ ที่นี่ สุดท้ายทุ่มเทประเมินคำพิพากษา gelati มีทั้งอิทธิพล โดยวาเลนซ์ทุ่มเทประเมินของเพลง แต่ยังอาจมีผลมาจากเสียงทุ่มเทประเมินของการgelati เอง ตัวอย่างเช่น MC ได้รับคะแนนเจลาโต้มากที่สุดตัวอย่างเพลง (ตาราง 3) เมื่อจับคู่กับชอบมากที่สุด และนี้อาจสนับสนุนผล congruency ซึ่งช่วยเพิ่มเป็นที่ต้องการคุณลักษณะประสาทสัมผัสรส (ในความหวานนี้กรณี) นี่คือคล้ายกับผลการวิจัยของ Macht, Roth และ Ellgring (2002), ผู้หลังจากดูภาพยนตร์กระตุ้นให้เกิดอารมณ์สนุกสนาน ได้ไม่เท่าแนวโน้มที่สูงขึ้นจะกินเพิ่มเติมช็อคโกแลต ช็อคโกแลแต่ยังลิ้มรสสบายมากขึ้น และมากขึ้น "กระตุ้น" กว่านั้นหลังจากกินดูหนังเศร้า นอกจากนี้ Macht และมึลเลอร์ (2007) รายงานช็อคโกแลตที่กินหลังจากดู moodinducing เป็นบวกฟิล์มมีนัยอารมณ์ เมื่อเทียบกับการดื่มน้ำ ด้วยเหตุนี้ เราอาจสรุปได้ว่าการเพิ่มความหวานในช็อกโกแลต gelati อาจเนื่องจากการยกระดับของอารมณ์ ซึ่งสามารถสามารถอธิบายได้ ด้วยกลไกอารมณ์ (Platte et al. 2013) Pertinentlyสามารถอเมริกาอารมณ์บวกที่เกี่ยวข้องกับเพลงที่ชอบเพิ่มระดับความตื่นตัว เพิ่มความไว และลดรสชาติขีดจำกัด จึงขยายการรับรู้รสชาติ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เมื่อฟังเพลงชอบดีซีและ BC มีแผงคล้าย
เส้นโค้งการปกครองเมื่อเทียบกับ MC เมื่อพิธีกรได้รับการจับคู่กับ
เพลงชอบความหวานเป็นที่โดดเด่นจากจุดเริ่มต้นของ
การพิจารณาคดีในช่วงปลายโดยไม่ต้องรับรู้ของความขมขื่นใด ๆ ดีซีได้รับการ
รับรู้ที่จะครอบครองหวานหลัง 45% ของมาตรฐาน
เวลาและ BC หวานอย่างมีนัยสำคัญเมื่อฟังชอบ
เพลงจากการโจมตีของระยะเวลาเคี้ยวจนมาตรฐาน 60%
เวลา เพลงชอบได้รับการแสดงเพื่อเพิ่มการรับรู้ความหวาน
ในการศึกษานี้ แพลตต์, et al (2013) รายงานว่าผู้เข้าร่วมการ
เหนี่ยวนำให้เกิดเป็นรัฐใจในเชิงบวกให้การจัดอันดับที่สูงขึ้นในความหวาน
น้ำตาลซูโครสและความขมขื่นที่ต่ำกว่าการจัดอันดับในการแก้ปัญหายาควินินเมื่อเทียบกับ
เมื่ออารมณ์เชิงลบถูกชักนำ นี่ความชอบสุดท้าย
ตัดสินของ Gelati จะไม่ได้รับอิทธิพลอย่างเต็มที่โดย Valence ความชอบ
ของเพลง แต่ยังอาจได้รับอิทธิพลจากเสียงความชอบของ
Gelati ตัวเอง ยกตัวอย่างเช่น MC รับการจัดอันดับไอศครีมที่สบายที่สุด
(ตารางที่ 3) เมื่อจับคู่กับตัวอย่างเพลงชอบมากที่สุดและนี้
อาจกระตุ้นให้ผลสอดคล้องซึ่งจะช่วยเพิ่มที่น่าพอใจ
รสชาติประสาทสัมผัสแอตทริบิวต์ (ในกรณีนี้ความหวาน) นี้จะคล้ายกับ
ผลการวิจัยของ Macht โรทและ Ellgring (2002) ที่รายงานว่า
หลังจากที่ได้ดูภาพยนตร์อารมณ์การกระตุ้นให้เกิดความสุขมีไม่เพียง แต่เป็น
แนวโน้มที่สูงขึ้นจะกินช็อคโกแลตมากขึ้น แต่ช็อคโกแลตยัง
ได้ลิ้มรสที่น่าพอใจมากขึ้นและมากขึ้น "กระตุ้น" กว่าการรับประทานอาหารมันหลังจาก
ที่ดูหนังเศร้า นอกจากนี้ Macht และมูลเลอร์ (2007) รายงาน
ว่าการกินช็อคโกแลตหลังจากดู moodinducing บวก
ฟิล์มสูงอย่างมีนัยสำคัญอารมณ์เมื่อเทียบกับการดื่ม
น้ำ ดังนั้นเราอาจสรุปได้ว่าการเพิ่มขึ้นของความหวาน
ใน Gelati ช็อคโกแลตอาจจะเป็นเพราะความสูงของอารมณ์ซึ่งสามารถ
อธิบายได้ด้วยกลไกอารมณ์ (แพลตต์ et al., 2013) กับเรื่อง
อารมณ์ในเชิงบวกที่เกี่ยวข้องกับเพลงชอบสามารถ
ยกระดับเป็นระดับความตื่นตัวเพิ่มขึ้นและลดความไวรสชาติ
เกณฑ์; จึงขยายการรับรู้รสชาติ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เมื่อฟังชอบเพลง DC และ BC มีแผงคล้ายความเด่นของเส้นโค้งเมื่อเทียบกับ MC เมื่อถูกจับคู่กับพิธีกรชอบเพลง ความหวานเด่นจากจุดเริ่มต้นของการทดลองในตอนท้าย โดยปราศจากการรับรู้ของความขมขื่น DC คือรู้สึกจะหวาน โดยหลังจาก 45 % ของมาตรฐานเวลาและ BC มีความหวานเมื่อฟังชอบเพลงจากการโจมตีของระยะเวลาที่เคี้ยวจน 60 % มาตรฐานเวลา ชอบเพลงที่ได้รับการแสดงเพื่อเพิ่มการรับรู้รสหวานในการศึกษานี้ ผืน et al . ( 2013 ) รายงานว่า ผู้เข้าร่วมในสหรัฐอเมริกาและจิตใจบวกให้ค่าความหวานอันดับในซูโครสและลดความขมขื่นในการจัดอันดับควินิน โซลูชั่น เทียบเมื่ออารมณ์ไม่เกิด ที่นี่ สุดท้ายคือการตัดสินใจของเจลาติไม่ได้รับอิทธิพลอย่างเต็มที่โดยระดับที่ 2 คือของเพลง แต่ยังอาจจะมาจากความชอบของโทนสีเจลาตินั่นเอง ตัวอย่างเช่น MC ได้รับไอศครีมที่ถูกใจมากที่สุด( ตารางที่ 3 ) เมื่อจับคู่กับส่วนใหญ่ชอบเพลงตัวอย่างและอาจสนับสนุนให้มีความเท่าเทียมกันของผล ซึ่ง ช่วย เพิ่ม พึงปรารถนาคุณลักษณะทางประสาทสัมผัสรสชาติ ( ในกรณีความหวานนี้ ) นี้คล้ายกับผล macht , Roth และ ellgring ( 2002 ) ที่รายงานว่าหลังจากดูสนุกสนานอารมณ์กระตุ้นภาพยนตร์ มีไม่เพียงแนวโน้มสูงที่จะกินช็อกโกแลตมาก แต่ช็อกโกแลตที่ยังลิ้มรสรื่นรมย์มากขึ้นและมากขึ้น " กระตุ้น " มากกว่าการรับประทาน หลังจากดูหนังเศร้า นอกจากนี้ macht และมูลเลอร์ ( 2007 ) รายงานที่กินช็อกโกแลตหลังจากดู moodinducing บวกภาพยนตร์ทางอารมณ์สูง เทียบกับการดื่มน้ำ ดังนั้นเราอาจจะสรุปได้ว่า การเพิ่มความหวานในช็อกโกแลตเจลาติอาจจะเนื่องจากการยกระดับของอารมณ์ ซึ่งสามารถสามารถอธิบายได้ด้วยกลไกทางอารมณ์ ( ผืน et al . , 2013 ) pertinently ,อารมณ์บวกรัฐเกี่ยวข้องกับชอบเพลงสามารถเพิ่มระดับการกระตุ้น การเพิ่มความไวของการลิ้มรสและธรณีประตู เพื่อขยายการรับรู้รสชาติ