Although the curriculum urges the teachers to let the students to conduct experiment, but there is a research that
shows teachers strongly advocate the use of practical, it has to be noted that there is, as many places in school
education, a gap between policy and practice, between written in the policy and the actual action that teacher
practices, and what do student teacher experience themselves (Dillon, 2008). Lunette et al. (2007) highlight that
even with current change of emphasis towards learning outcome, results show that there is a ‘chasm’ between the
outcome that teacher identify before the class and the actual outcome that their students perceived (Hodson, 1993,
2001; Wilkenson and Ward, 1997). According to Tamir and Lunetta (1981), even with the transformation of
curriculum to improve the quality of experiment, students still waste too much time in experiment by reading and
following the ‘recipes’ or procedures. It results in students’ failure to perceive the conceptual and procedural
understandings that teachers want to achieve for the experiment (Lunetta et al., 2007)
ถึงแม้ว่าหลักสูตรจะให้ครูให้นักเรียนทำการทดลอง แต่ก็มีงานวิจัยที่แสดงให้เห็นว่าครู
ขอสนับสนุน การใช้ประโยชน์ จะต้องสังเกตว่ามีหลายที่ในการศึกษาโรงเรียน
, ช่องว่างระหว่างนโยบายและการปฏิบัติ ระหว่างที่เขียนในนโยบายและการกระทำจริง การปฏิบัติงานของครู
,และสิ่งที่ครูฝึกสอนประสบการณ์ตัวเอง ( ดิลลอน , 2008 ) โค้งพระจันทร์ครึ่งซีก et al . ( 2007 ) เน้น
แม้ว่าปัจจุบันเปลี่ยนจากการเน้นที่มีต่อผลการเรียนรู้ผลลัพธ์ที่แสดงให้เห็นว่ามีช่องว่างระหว่าง
' ' ผลที่อาจารย์บอก ก่อนเรียน และผลที่เกิดขึ้นจริงที่นักเรียนรับรู้ ( ฮ็อดสัน 1993
, 2001 wilkenson และประสบการณ์ , 1997 )และตาม tamir ลูเนตต้า ( 1981 ) , แม้จะมีการเปลี่ยนแปลง
หลักสูตรเพื่อปรับปรุงคุณภาพของการทดลอง นักเรียนยังเสียเวลามากเกินไปในการทดลองโดยการอ่าน
ต่อไปนี้ ' สูตร ' หรือการ . ผลลัพธ์ที่ได้ของนักเรียนล้มเหลวในการรับรู้และความเข้าใจแนวคิดกระบวนการ
ที่ครูต้องการเพื่อให้บรรลุสำหรับการทดลอง ( ลูเนตต้า et al . , 2007 )
การแปล กรุณารอสักครู่..