MAIN ANALYSISA status quo simulatio

MAIN ANALYSIS
A status quo simulation provided a projection of events from coronary heart disease and stroke, costs, and QALYs for the U.S. adult population between the ages of 35 and 74 years during the period from 2014 through 2024, on the assumption that untreated patients would remain untreated. Simulated strategies for hypertension treatments reduced events from coronary heart disease and stroke, reduced costs, and added QALYs. We assumed that hypertension treatment would reduce rates of death from hypertensive heart disease and renal failure, but to be conservative, we assumed no change in future costs associated with these effects. In an analysis of secondary prevention, we simulated treatment to a target blood pressure of 140/90 mm Hg in patients with hypertension who were currently untreated and who had a history of stroke or coronary heart disease (approximately one fifth of patients with chronic cardiovascular disease).8 For primary prevention, we simulated three treatment groups, with each group added to treatment in patients with cardiovascular disease and untreated hypertension: patients with stage 2 hypertension, patients with stage 1 hypertension and diabetes or chronic kidney disease, and patients with stage 1 hypertension but without diabetes or chronic kidney disease. We assessed incremental cost-effectiveness ratios (which were calculated as the incremental change in costs divided by the incremental change in QALYs) as follows: costs of less than $50,000 per QALY gained were considered to be cost-effective, costs ranging from $50,000 to less than $150,000 per QALY gained were considered to be of intermediate value, and costs of $150,000 or more per QALY gained were considered to be of low value.7 All analyses were approached from a payer’s perspective. All future costs and QALYs were discounted annually by 3% of the values for the previous year, according to standard practice.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

หลักการวิเคราะห์การจำลองสภาพให้ฉายภาพเหตุการณ์จากโรคหัวใจ และโรคหลอดเลือดสมอง ต้นทุน และ QALYs สำหรับสหรัฐอเมริกาประชากรผู้ใหญ่ระหว่างอายุ 35 74 ปีในระหว่างปี 2014 ถึง 2024 สมมุติฐานว่าผู้ป่วยไม่ถูกรักษาจะยังคงไม่ถูกรักษา กลยุทธ์การเลียนแบบสำหรับการรักษาความดันโลหิตสูงลดเหตุการณ์จากโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดสมอง ลดต้นทุน และเพิ่ม QALYs เราถือว่า การรักษาความดันโลหิตสูงจะลดอัตราตายจากภาวะไตวายและโรคหัวใจ hypertensive แต่จะหัวเก่า เราถือว่าไม่เปลี่ยนแปลงในต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับลักษณะพิเศษเหล่านี้ ในการวิเคราะห์ของรองป้องกัน เราจำลองรักษาให้ความดันโลหิตเป้าหมาย 140/90 mm Hg ในผู้ป่วยที่มีความดันโลหิตสูงที่ได้ไม่ถูกรักษาในปัจจุบัน และที่มีประวัติของโรคหลอดเลือดสมองหรือโรค (ประมาณหนึ่งห้าของผู้ป่วยที่มีโรคเรื้อรัง) .8 ป้องกันหลัก ที่เราจำลองกลุ่มรักษาสาม กับแต่ละกลุ่มเพิ่มการรักษาในผู้ป่วยที่มีโรคหลอดเลือดหัวใจและความดันโลหิตสูงที่ไม่ถูกรักษา : ผู้ป่วยความดันโลหิตสูงระยะ 2 ผู้ป่วยที่ มีระยะ 1 ความดันโลหิตสูง และโรคเบาหวาน หรือโรคไตเรื้อรัง และผู้ป่วย มีความดันโลหิตสูงระยะ 1 แต่ไม่ มีเบาหวานหรือโรคไตเรื้อรัง เราประเมินอัตราส่วนการประหยัดค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น (ซึ่งคำนวณได้เป็นการเปลี่ยนแปลงส่วนเพิ่มในต้นทุนโดยการเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น QALYs) เป็นดังนี้: ต้นทุนต่ำกว่า $ 50000 ต่อ QALY รับได้ถือเป็นการประหยัดต้นทุน ค่าใช้จ่ายตั้งแต่ $50000 จะน้อยกว่า $150000 ต่อ QALY รับได้ถือเป็นค่ากลาง และต้นทุน ของ $150000 หรือขึ้น ต่อ QALY รับได้ถือเป็นของต่ำ value.7 วิเคราะห์ทั้งหมดถูกทาบทามจากมุมมองของผู้ชำระเงิน ต้นทุนในอนาคตและ QALYs ได้ส่วนลดปี 3% ของค่าสำหรับปี ตามมาตรฐานปฏิบัติการ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

วิเคราะห์หลักสถานภาพจำลองให้ฉายภาพเหตุการณ์จากโรคหลอดเลือดหัวใจ และโรคหลอดเลือดสมอง ต้นทุน และ qalys สหรัฐอเมริกาประชากรผู้ใหญ่ที่มีอายุระหว่าง 35 และ 74 ปี ในช่วงปี 2014 โดย 2024 สันนิษฐานว่าผู้ป่วยดิบจะยังคงดิบกลยุทธ์สำหรับการรักษาความดันโลหิตสูงลดลง จำลองเหตุการณ์จากโรคหลอดเลือดหัวใจ และโรคหลอดเลือดสมอง ลดต้นทุน และเพิ่ม qalys . เราสันนิษฐานว่า รักษาความดันโลหิตสูง จะช่วยลดอัตราการเสียชีวิตจาก โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง และไตวาย แต่จะอนุลักษณ์ เราถือว่าไม่มีการเปลี่ยนแปลงในค่าใช้จ่ายในอนาคตที่เกี่ยวข้องกับผลกระทบเหล่านี้ ในการวิเคราะห์การป้องกันทุติยภูมิเราจำลองการรักษาเป้าหมายความดันโลหิตของ 140 / 90 มิลลิเมตรปรอทในผู้ป่วยความดันโลหิตสูงที่ยังดิบ และผู้ที่มีประวัติของโรคหลอดเลือดสมอง หรือ โรคหลอดเลือดหัวใจ ( ประมาณหนึ่งในห้าของผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจเรื้อรัง ) 8 สำหรับการป้องกันหลัก เราจำลองสามการรักษากลุ่มแต่ละกลุ่มก็เพิ่มการรักษาในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจและความดันโลหิตสูงดิบ : ผู้ป่วยระยะที่ 2 ความดันโลหิตสูง ผู้ป่วยความดันโลหิตสูงระยะที่ 1 และโรคเบาหวานหรือโรคไตเรื้อรัง และผู้ป่วยระยะที่ 1 แต่ไม่มีโรคเบาหวานความดันโลหิตสูง หรือโรคไตเรื้อรังเราประเมินประสิทธิผลที่เพิ่มขึ้น ( อัตราส่วนที่คำนวณเป็นค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นการแบ่งโดยเปลี่ยนส่วน qalys ) ดังนี้ ค่าใช้จ่ายน้อยกว่า $ 50 , 000 ต่อปีสุขภาวะที่ได้รับก็ถือว่าคุ้มค่า ราคาตั้งแต่ $ 50 , 000 จะน้อยกว่า $ 150 , 000 ต่อปีสุขภาวะที่ได้รับถือว่าเป็นค่าระดับกลาง และ ค่าใช้จ่าย ของ $ 150000 ขึ้นไปต่อปีสุขภาวะที่ได้รับถือว่าเป็นค่าต่ำ 7 วิเคราะห์ถูกทาบทามจากมุมมองของผู้ . ค่าใช้จ่ายในอนาคตและ qalys ถูกลดทุกปีโดย 3 % ของค่าของปีก่อน ตามการมาตรฐาน