Rice is the staple of a variety of

Rice is the staple of a variety of cuisines around the world. Yet diets that restrict carbohydrates (Atkins) advise against rice, while other diets praise rice as the perfect carbohydrate for energy. A recent study presented at the 249th National Meeting & Exposition of the American Chemical Society (ACS) has revealed that a certain heating and cooking method for rice can cut the number of calories our bodies absorb by 50 to 60 percent.

"Because obesity is a growing health problem, especially in many developing countries, we wanted to find food-based solutions," Sudhair A. James, from the College of Chemical Sciences in Sri Lanka, said in a statement. "We discovered that increasing rice-resistant starch (RS) concentrations was a novel way to approach the problem. If the best rice variety is processed, it might reduce the calories by about 50 to 60 percent."

James and his colleagues developed a new cooking method that increases the RS content of rice by experimenting with 38 different types of rice native to Sri Lanka. The method called for adding a half cup of uncooked rice to boiling water with a teaspoon of coconut oil. Researchers let the rice simmer for 40 minutes, but confirmed that boiling for 20 to 25 minutes would also work. The last step of the process involved refrigerating the rice for 12 hours.

The RS content of traditional, non-fortified rice increased 10-fold using this new method. The research team explained that during their cooking process the oil alters the starch by making it resistant to the action of digestive enzymes. Cooling the rice for 12 hours was essential to lowering the number of calories that are absorbed by the body, and reheating the rice before eating had no effect on its RS content. James plans on conducting further testing on human subjects to determine if different types of rice and cooking oil have the same effect.

"After your body converts carbohydrates into glucose, any leftover fuel gets converted into a polysaccharide carbohydrate called glycogen," James added. "Your liver and muscles store glycogen for energy and quickly turn it back into glucose as needed. The issue is that the excess glucose that doesn't get converted to glycogen ends up turning into fat, which can lead to excessive weight or obesity."

There are 1.6 ounces of starch in a cup of rice. Starch can either be digestible or indigestible, both of which are found in rice. Indigestible (RS) starch is not broken down in the small intestines, which is where carbohydrates are metabolized into glucose and simple sugars are absorbed into the bloodstream. By converting digestible starch into RS, the research team lowered the number of usable calories in a cup of rice.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ข้าวเป็นตั๋วเย็บกระดาษของหลากหลายทั่วโลก ยัง อาหารที่จำกัดคาร์โบไฮเดรต (Atkins) ให้คำแนะนำกับข้าว ในขณะที่อาหารอื่นสรรเสริญข้าวเป็นคาร์โบไฮเดรตเหมาะสำหรับพลังงาน การศึกษาล่าสุดที่นำเสนอที่ประชุม 249th แห่งชาติและนิทรรศการของอเมริกันเคมีสังคม (ACS) ได้เปิดเผยว่า บางเครื่องทำความร้อน และปรุงอาหารวิธีการข้าวสามารถตัดจำนวนแคลอรี่ที่ร่างกายของเราดูดซับ โดยร้อยละ 50-60"เนื่องจากโรคอ้วนเป็นปัญหาสุขภาพการเจริญเติบโต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศกำลังพัฒนาจำนวนมาก เราต้องการค้นหาโซลูชั่นร้านอาหาร, " James A. Sudhair จากวิทยาลัยของเคมีวิชาวิทยาศาสตร์ในประเทศศรีลังกา กล่าวในคำแถลง "เราพบว่า เพิ่มความเข้มข้นของแป้งข้าวทน (RS) คือ นวนิยายคือวิธีปัญหานั้น ถ้าหลากหลายข้าวดีที่สุด มันอาจลดแคลอรี่ประมาณ 50-60 เปอร์เซ็นต์"James และเพื่อนร่วมงานของเขาพัฒนาวิธีการทำอาหารใหม่ที่เพิ่มเนื้อหา RS ของข้าว โดยการทดลองมี 38 ชนิดต่าง ๆ ข้าวพื้นเมืองศรีลังกา วิธีการเรียกเพิ่มถ้วยครึ่ง uncooked ข้าวเดือดน้ำช้อนชาน้ำมันมะพร้าว ให้นักวิจัยข้าวประมาณ 40 นาที แต่ยืนยันว่า เดือด 20-25 นาทีจะยังทำงาน ขั้นตอนสุดท้ายของกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับการทำความเย็นข้าว 12 ชั่วโมงเนื้อหา RS ข้าวโบราณ ไม่ใช่ธาตุเพิ่ม 10-fold ใช้วิธีใหม่นี้ ทีมวิจัยอธิบายว่า ในระหว่างกระบวนการปรุงอาหาร น้ำมันเปลี่ยนแปลงแป้ง โดยทำให้ทนต่อการกระทำของเอนไซม์ช่วยย่อยอาหาร เย็นข้าว 12 ชั่วโมงคือจำเป็นต้องลดจำนวนแคลอรี่ที่ถูกดูดซึม โดยร่างกาย และ reheating ข้าวก่อนกินได้ไม่มีผลต่อเนื้อหาของ RS James แผนในการดำเนินการทดสอบเพิ่มเติม ในเรื่องที่มนุษย์กำหนดถ้าข้าวและน้ำมันพืชชนิดต่าง ๆ ได้ผลดี"หลังจากที่ร่างกายเปลี่ยนคาร์โบไฮเดรตเป็นกลูโคส เชื้อเพลิงใด ๆ เหลือจะถูกแปลงเป็นคาร์โบไฮเดรต polysaccharide ที่เรียกว่าไกลโคเจน James เพิ่ม "ของตับและกล้ามเนื้อเก็บไกลโคเจนสำหรับพลังงาน และอย่างรวดเร็วเปิดกลับน้ำตาลกลูโคสตาม ปัญหาได้ว่า กลูโคสส่วนเกินที่ไม่ได้รับการแปลงเป็นไกลโคเจนจบค่าลงไขมัน ซึ่งสามารถทำให้น้ำหนักเกินหรือโรคอ้วน"มี 1.6 กรัมของแป้งในถ้วยข้าว แป้งสามารถเป็น digestible หรือ indigestible ซึ่งทั้งสองมีอยู่ในข้าว Indigestible (RS) แป้งจะไม่แบ่งในลำไส้เล็ก ซึ่งเป็นที่มี metabolized คาร์โบไฮเดรตเป็นกลูโคส และน้ำตาลง่ายจะดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด โดยการแปลงแป้ง digestible เป็น RS ทีมวิจัยลดลงจำนวนแคลอรี่ที่ใช้ในถ้วยข้าว

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ข้าวเป็นหลักของความหลากหลายของอาหารทั่วโลก แต่อาหารที่ จำกัด คาร์โบไฮเดรต (แอตกินส์) ให้คำแนะนำกับข้าวในขณะที่อาหารอื่น ๆ สรรเสริญข้าวเป็นคาร์โบไฮเดรตที่สมบูรณ์แบบสำหรับการใช้พลังงาน ผลการศึกษาล่าสุดที่นำเสนอในที่ประชุมแห่งชาติ 249 และนิทรรศการของสมาคมเคมีอเมริกัน (ACS) ได้เปิดเผยว่าความร้อนบางอย่างและวิธีการปรุงอาหารข้าวสามารถตัดจำนวนแคลอรี่ที่ร่างกายของเราดูดซับโดย 50 ถึงร้อยละ 60. "เพราะเป็นโรคอ้วน ปัญหาสุขภาพที่เพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศกำลังพัฒนาหลายเราต้องการที่จะหาทางแก้ไขปัญหาอาหารตาม "Sudhair A. เจมส์จากวิทยาลัยวิทยาศาสตร์เคมีในศรีลังกากล่าวในการแถลงข่าว "เราพบว่าการเพิ่มแป้งข้าวที่ทน (RS) ความเข้มข้นเป็นวิธีใหม่ในการเข้าถึงปัญหา. ถ้าพันธุ์ข้าวที่ดีที่สุดคือการประมวลผลก็อาจจะลดแคลอรี่โดยประมาณ 50 ถึง 60 เปอร์เซ็นต์." เจมส์และเพื่อนร่วมงานของเขาได้รับการพัฒนาใหม่ วิธีการปรุงอาหารที่เพิ่มเนื้อหา RS ข้าวโดยทดลองกับ 38 ชนิดที่แตกต่างกันของข้าวพื้นเมืองของศรีลังกา วิธีการที่เรียกว่าสำหรับการเพิ่มถ้วยครึ่งหนึ่งของข้าวดิบลงไปในน้ำเดือดที่มีช้อนชาน้ำมันมะพร้าว นักวิจัยให้ข้าวเคี่ยว 40 นาที แต่ยืนยันว่าเดือด 20-25 นาทีก็จะทำงาน ขั้นตอนสุดท้ายของกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับการทำความเย็นข้าว 12 ชั่วโมง. เนื้อหาของอาร์เอสแบบดั้งเดิมข้าวที่ไม่ได้เสริมเพิ่มขึ้น 10 เท่าโดยใช้วิธีการใหม่นี้ ทีมวิจัยอธิบายว่าในระหว่างขั้นตอนการปรุงอาหารของพวกเขาเปลี่ยนแปลงน้ำมันแป้งโดยการทำให้มันทนต่อการกระทำของเอนไซม์ย่อยอาหาร คูลลิ่งข้าว 12 ชั่วโมงมีความสำคัญต่อการลดจำนวนแคลอรี่ที่ถูกดูดซึมโดยร่างกายและอุ่นข้าวก่อนที่จะรับประทานอาหารที่ไม่มีผลกระทบต่อเนื้อหาของอาร์เอส เจมส์มีแผนในการดำเนินการทดสอบเพิ่มเติมในเรื่องของมนุษย์ที่จะตรวจสอบว่าชนิดที่แตกต่างกันของข้าวและน้ำมันปรุงอาหารมีผลเช่นเดียวกัน. "หลังจากที่ร่างกายของคุณแปลงคาร์โบไฮเดรตเป็นน้ำตาลกลูโคสใด ๆ น้ำมันเชื้อเพลิงที่เหลือได้รับการแปลงเป็นคาร์โบไฮเดรต polysaccharide ที่เรียกว่าไกลโคเจน" เจมส์เพิ่ม "ตับและกล้ามเนื้อของคุณเก็บไกลโคเจนสำหรับการใช้พลังงานได้อย่างรวดเร็วและหันกลับไปเป็นน้ำตาลกลูโคสตามความจำเป็น. ปัญหาก็คือกลูโคสส่วนเกินที่ไม่ได้รับการแปลงเป็นไกลโคเจนจบลงกลายเป็นไขมันซึ่งสามารถนำไปสู่การมีน้ำหนักมากเกินไปหรือโรคอ้วน." มี 1.6 ออนซ์แป้งในถ้วยข้าวเป็น แป้งสามารถเป็นได้ทั้งย่อยหรือย่อยซึ่งทั้งสองที่พบในข้าว ย่อย (RS) แป้งไม่ได้หักลงมาในลำไส้ขนาดเล็กซึ่งเป็นที่ที่มีการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรตเป็นน้ำตาลกลูโคสและน้ำตาลง่ายจะถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด โดยการแปลงย่อยแป้งเป็นอาร์เอสทีมวิจัยปรับลดจำนวนแคลอรี่ที่ใช้งานได้ในถ้วยข้าว

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ข้าวเป็นหลักของความหลากหลายของอาหารทั่วโลก แต่อาหารจำกัดคาร์โบไฮเดรต ( Atkins ) แจ้งกับข้าว ส่วนข้าวเป็นคาร์โบไฮเดรต diets สรรเสริญสมบูรณ์แบบสำหรับการใช้พลังงานผลการศึกษาล่าสุดที่นำเสนอในการประชุมมหกรรม& 249th แห่งชาติของสมาคมเคมีอเมริกัน ( ACS ) ได้เปิดเผยว่า ความร้อนบางอย่างและวิธีการทำข้าวสามารถตัดแคลอรี่ที่ร่างกายเราดูดซึมโดย 50 ถึง 60 เปอร์เซ็นต์

" เพราะโรคอ้วนเป็นปัญหาสุขภาพที่กำลังเติบโต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศที่พัฒนามาก เราต้องการ ค้นหาอาหารตามโซลูชั่น " sudhair . เจมส์จากวิทยาลัยวิทยาศาสตร์เคมีในศรีลังกา , กล่าวในงบ . " เราพบว่า การเพิ่มแป้งข้าวทน ( RS ) ความเข้มข้นเป็นวิธีใหม่เพื่อเข้าถึงปัญหา ถ้าข้าวพันธุ์ที่ดีที่สุด คือ ประมวลผล มันอาจจะลดแคลอรี่โดยเกี่ยวกับ 50 ถึง 60 เปอร์เซ็นต์ "

เจมส์และเพื่อนร่วมงานของเขาพัฒนาใหม่วิธีการทำอาหารที่เพิ่มเนื้อหา RS ของข้าว โดยการทดสอบกับ 38 ชนิดของข้าวพื้นเมืองของศรีลังกา วิธีเรียกเพิ่มครึ่งถ้วยข้าวดิบต้มน้ำ 1 ช้อนชา น้ำมันมะพร้าว นักวิจัยให้ข้าวเคี่ยวเป็นเวลา 40 นาที แต่ยืนยันว่าเดือด 20 ถึง 25 นาทีก็ใช้ได้ขั้นตอนสุดท้ายของกระบวนการที่เกี่ยวข้องจะมีข้าวประมาณ 12 ชม.

เนื้อหาอาร์เอส ดั้งเดิม ไม่เสริมข้าวเพิ่มขึ้น 10 เท่า วิธีใหม่นี้ ทีมวิจัยอธิบายว่า ในระหว่างขั้นตอนการปรุงอาหารของพวกเขาน้ำมันเปลี่ยนแปลงแป้งโดยการทำให้มันทนต่อการกระทำของเอนไซม์ที่ใช้ในการย่อยอาหารเย็น ข้าว 12 ชั่วโมงจึงจำเป็นเพื่อลดจำนวนแคลอรี่ที่ถูกดูดซึม โดยร่างกายและอุ่นข้าวก่อนรับประทาน ไม่มีผลในตัวเนื้อหา เจมส์ มีแผนดำเนินการทดสอบต่อในคนเพื่อตรวจสอบว่าชนิดของข้าวและน้ำมันปรุงอาหารมีลักษณะพิเศษที่เหมือนกัน

" หลังจากที่ร่างกายของคุณแปลงคาร์โบไฮเดรตเป็นน้ำตาลกลูโคสที่เหลือใด ๆเชื้อเพลิงจะถูกแปลงเป็น polysaccharide แป้งที่เรียกว่าไกลโคเจน " เจมส์ กล่าว . ตับไกลโคเจนกล้ามเนื้อและเก็บพลังงานได้อย่างรวดเร็วและเปลี่ยนกลับให้เป็นกลูโคสได้ตามต้องการ ปัญหาคือว่ากลูโคสส่วนเกินที่ไม่ได้เปลี่ยนเป็นไกลโคเจน จบลง กลายเป็นไขมัน ซึ่งจะนำไปสู่น้ำหนักเกินหรือโรคอ้วน "

มี 1.6 ออนซ์ของแป้งในถ้วยข้าวแป้งสามารถย่อยหรือย่อยทั้งสองซึ่งพบในข้าว อาการอาหารไม่ย่อย ( RS ) แป้งไม่เสียในลำไส้ ซึ่งจะเผาผลาญคาร์โบไฮเดรตในกลูโคสและน้ำตาลธรรมดาถูกดูดซึมเข้าไปในกระแสเลือด โดยแปลงย่อยแป้งให้เป็นอาร์เอส ทีมวิจัยลดจํานวนใช้สอยแคลอรีในถ้วยข้าว