The Phra Mahathat Woramaha Wiharn t

The Phra Mahathat Woramaha Wiharn temple with its huge chedi (pagoda) is one of the most important Buddhist temples in Thailand, and one of the very oldest. It is one of only six primary royal temples. The exact dates and order of construction are unclear, although it is known that the Phra Borom That Chedi at the center of the temple pre-dates the rest of the buildings by as much a six hundred years.
The chedi was built in 555, or 757 according to some sources, at nearly the exact center of the original walled city. It wasn't unusual for large monumental pagodas to be built by themselves back then. The structure was originally smaller and in the squarish style of the Srivijaya empire. It is said to contain relics of the Buddha bought from Sri Lanka two thousand years ago. The chedi was enlarged and given its current 'Sri Lankan' shape around 1227, which is probably also when a temple was built around the pagoda.
The chedi sits in a large cloister-like courtyard filled with a forest of 158 smaller pagodas. The smaller monuments are in a variety of styles and appear to be funerary reliquaries built by the faithful over many hundreds of years.
On the north side of the chedi, which is sited off-center in its courtyard, a sequence of chapels extends out to the north side of the courtyard. The first chapel actually houses the stairway which takes you up to the platform at the base of the pagoda. The stairs are guarded by many demons and standing Buddhas.
Next to the chapel covering the stairs is another chapel which now houses the temple museum. On display are hundreds of artifacts from the temple's long history, although very few of the items are labeled. Another chapel next to the museum houses a reclining Buddha and more exhibits, but it was closed on our last visit.
South of the pagoda courtyard is the monumental ubosot (ordination hall) of the temple. Built in 1628, the hall is a masterpiece of the Ayutthaya style. The steeply slanted columns around the exterior create a forced perspective, making the building look taller than it really is. While not unusual in Thai temples of the period, this is perhaps the best and most successful example. The columns spring from elegant inverted lotus-bud bases finished in gold and blue mirrored tiles.
Inside, the chapel is rather plain at eye level, but slanted columns again force your eyes upward to an elaborate red coffered ceiling. The ceiling steps upward towards the alter, on which sits a huge Buddha image.
South of the ubosot is a small market full of souvenir stalls where you can buy shadow puppets, brass, bronze, silver and basketry. There are also a few food stalls where you can get a bite to eat.
Admission Fees
Tourists pay a 30 Baht (0.77 USD) fee to enter the courtyard of the giant chedi. The museum carries and additional 20 Baht (0.51 USD) entry fee. The museum hours are 8:00 a.m. to 4:30 p.m.
Getting There
Wat Phra Mahathat is right on Ratchadamnoen Road about 2 kilometers (1.5 miles) from the city center. The best way to get there is by songthaew - a small pickup with benches along either side of the bed. Each trip costs just 5 Baht.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วัดพระมหาธาตุ Woramaha พุทธบาทของเจดีย์ใหญ่ (เจดีย์) เป็นหนึ่งในวัดสำคัญที่สุดในประเทศไทย และเป็นหนึ่งที่เก่าแก่มาก มันเป็นหนึ่งในวัดหลักหกเท่านั้น วันที่แน่นอนและลำดับการก่อสร้างไม่ชัดเจน แม้ว่ามันเรียกว่า พระบรมที่เจดีย์ของวัดล่วงหน้าวันที่เหลือของอาคาร โดยมากหกร้อยปีเจดีย์ถูกสร้างขึ้นใน 555 หรือ 757 ตามบางแหล่ง ที่เกือบตรงกลางกำแพงเมืองเดิม มันก็ไม่แปลกสำหรับเจดีย์อนุสาวรีย์ขนาดใหญ่จะถูกสร้างขึ้น ด้วยตัวเองกลับมาแล้ว โครงสร้างเล็กกว่าเดิม และ ในรูปแบบ squarish ของจักรวรรดิศรีวิชัยได้ มันบอกว่า มีพระพุทธเจ้าซื้อจากศรีลังกาปีสองพัน เจดีย์ถูกขยาย และกำหนดรูปร่างของ 'สถานะ' ปัจจุบันประมาณ 1227 ซึ่งอาจยังเมื่อสร้างวิหารรอบพระเจดีย์ เจดีย์อยู่ในซุ้มเหมือนลานขนาดใหญ่เต็มไป ด้วยป่าเจดีย์เล็ก 158 อนุสาวรีย์มีขนาดเล็กอยู่ในหลากหลายสไตล์ และปรากฏ เป็นธาตุมวันที่สร้าง ด้วยความซื่อสัตย์เหนือหลายร้อยปี ทางด้านทิศเหนือของเจดีย์ ซึ่งเป็นครอบครัวปิดศูนย์ในลานการ ลำดับการสวดขยายออกไปทางด้านเหนือของลาน โบสถ์แรกจริงบ้านบันไดซึ่งนำคุณถึงแพลตฟอร์มที่ฐานของเจดีย์ บันไดจะรักษา โดยปีศาจมากมาย และพระพุทธรูปยืนอยู่ถัดจากโบสถ์ครอบคลุมบันไดอยู่โบสถ์อื่นซึ่งขณะนี้พิพิธภัณฑ์วัดบ้าน บนจอแสดงผลมีหลายร้อยสิ่งประดิษฐ์จากของวัดมานาน แต่น้อยมากที่จะติดป้ายชื่อ อีกโบสถ์ใกล้กับพิพิธภัณฑ์บ้านในสนามพระ และจัดแสดงนิทรรศการเพิ่มเติม แต่มันปิดอยู่แล้ว ทางทิศใต้ของลานเจดีย์เป็นอุโบสถที่ใหญ่หลวง (บวชฮอลล์) ของวัด สร้างขึ้นใน 1628 ห้องโถงเป็นผลงานชิ้นเอกของสมัยอยุธยา คอลัมน์เป๋อย่างสูงลิ่วรอบภายนอกสร้างมุมมองถูกบังคับ ทำให้ดูอาคารสูงกว่าความเป็นจริง ในขณะที่ไม่ผิดปกติในระยะเวลาวัด ได้บางทีตัวอย่างที่ดีที่สุด และประสบความสำเร็จมากที่สุด ฤดูใบไม้ผลิคอลัมน์จากดอกบัวตูมคว่ำสง่างามฐานเสร็จในกระเบื้องกระจกสีทอง และสีน้ำเงิน ภายใน โบสถ์ธรรมดาแต่ระดับสายตา แต่เป๋คอลัมน์อีกครั้งบังคับให้ตาขึ้นไปเพดาน coffered แดงที่ซับซ้อน ขั้นเพดานขึ้นไปสู่ความเปลี่ยนแปลง ที่ตั้งพระพุทธรูปขนาดใหญ่ ทางทิศใต้ของอุโบสถจะมีตลาดขนาดเล็กร้านขายของที่ระลึกที่คุณสามารถซื้อหุ่นเงา ทองเหลือง บรอนซ์ ซิลเวอร์ และเครื่องจักสาน มีร้านอาหารไม่กี่ที่ที่คุณจะได้รับการกัดกินค่าเข้าชมนักท่องเที่ยวจ่ายค่าธรรมเนียมบาท (USD 0.77) 30 สู่ลานภายในของเจดีย์ยักษ์ ประกอบพิพิธภัณฑ์และ 20 บาท (0.51 USD) รายการค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม เวลาพิพิธภัณฑ์คือ 8:00 น.ถึง 4:30 น.การเดินทางวัดพระมหาธาตุตั้งอยู่บนถนนราชดำเนินประมาณ 2 กิโลเมตร (1.5 ไมล์) จากใจกลางเมือง การเดินทาง โดยรถสองแถว - รถกระบะเล็ก ๆ มีม้านั่งริมด้านใดด้านหนึ่งของเตียงได้ การเดินทางแต่ละต้นทุน เพียง 5 บาท

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วัดพระมหาธาตุ Woramaha วิหารมีเจดีย์ขนาดใหญ่ (เจดีย์) เป็นหนึ่งในวัดที่สำคัญทางพุทธศาสนามากที่สุดในประเทศไทยและเป็นหนึ่งในที่เก่าแก่ที่สุดมาก มันเป็นหนึ่งในหกวัดราชหลัก วันที่ที่แน่นอนและคำสั่งของการก่อสร้างมีความชัดเจนแม้ว่ามันจะเป็นที่รู้จักกันว่าพระบรมธาตุเจดีย์ที่เป็นศูนย์กลางของวัดก่อนวันส่วนที่เหลือของอาคารโดยเท่าหกร้อยปี.
เจดีย์ถูกสร้างขึ้นใน 555 หรือ 757 ตามแหล่งที่มาบางที่เกือบศูนย์แน่นอนของกำแพงเมืองเดิม มันเป็นเรื่องปกติสำหรับเจดีย์อนุสาวรีย์ขนาดใหญ่ที่จะสร้างขึ้นด้วยตัวเองกลับมาแล้ว โครงสร้างเดิมที่มีขนาดเล็กและในรูปแบบสี่เหลี่ยมของอาณาจักรศรีวิชัย มันบอกว่าจะมีพระธาตุของพระพุทธเจ้าที่ซื้อมาจากประเทศศรีลังกาสองพันปีที่ผ่านมา เจดีย์ขยายและได้รับในปัจจุบัน 'ศรีลังกา' รูปร่างของมันรอบ 1227 ซึ่งน่าจะเป็นเมื่อวัดที่ถูกสร้างขึ้นรอบเจดีย์.
เจดีย์ตั้งอยู่ในลานวัดเหมือนขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยป่าไม้ 158 เจดีย์ขนาดเล็ก อนุเสาวรีย์ที่มีขนาดเล็กอยู่ในความหลากหลายของรูปแบบและดูเหมือนจะเป็น reliquaries ศพที่สร้างขึ้นโดยผู้ศรัทธามาเป็นเวลาหลายร้อยปี.
ทางด้านทิศเหนือขององค์พระเจดีย์ซึ่งเป็นอภิมหาปิดศูนย์ในลานของลำดับของโบสถ์ขยายออกไป ทางด้านทิศเหนือของลาน โบสถ์แรกบ้านจริงบันไดซึ่งจะนำคุณขึ้นอยู่กับแพลตฟอร์มที่ฐานของเจดีย์ บันไดจะรักษาโดยปีศาจจำนวนมากและปางประทานพร.
ถัดจากโบสถ์ครอบคลุมบันไดเป็นโบสถ์ซึ่งตอนนี้บ้านพิพิธภัณฑ์พระวิหารอีก บนจอแสดงผลหลายร้อยสิ่งประดิษฐ์จากประวัติศาสตร์อันยาวนานของวัดแม้จะน้อยมากของรายการที่มีความโดดเด่น โบสถ์อีกต่อไปไปบ้านพิพิธภัณฑ์พระพุทธไสยาสน์และการจัดแสดงมากขึ้น แต่มันจะถูกปิดในการเข้าชมครั้งสุดท้ายของเรา.
ทางทิศใต้ของลานเจดีย์เป็นพระอุโบสถอนุสาวรีย์ (บวชฮอลล์) ของวัด สร้างขึ้นในปี 1628, ฮอลล์เป็นงานชิ้นเอกของสไตล์อยุธยา คอลัมน์เป๋สูงลิ่วรอบนอกสร้างมุมมองที่ถูกบังคับให้ทำให้อาคารดูสูงกว่านั้นจริงๆ ในขณะที่ไม่ผิดปกติในวัดไทยแห่งยุคนี้อาจจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดและประสบความสำเร็จมากที่สุดตัวอย่างเช่น คอลัมน์สปริงจากสง่างามคว่ำฐานดอกบัวตูมเสร็จในทองและสีฟ้าสะท้อนกระเบื้อง.
ภายในโบสถ์ค่อนข้างธรรมดาในระดับสายตา แต่คอลัมน์เป๋อีกครั้งบังคับให้ดวงตาของคุณขึ้นไปซับซ้อน coffered เพดานสีแดง เพดานขั้นตอนที่ขึ้นไปทางแก้ไขซึ่งตั้งอยู่บนพระพุทธรูปขนาดใหญ่.
ทางทิศใต้ของพระอุโบสถเป็นตลาดขนาดเล็กเต็มรูปแบบของร้านขายของที่ระลึกที่คุณสามารถซื้อหุ่นเงาทองเหลืองทองแดงเงินและเครื่องจักสาน นอกจากนี้ยังมีร้านขายอาหารไม่กี่ที่คุณสามารถรับกัดกิน.
ค่าเข้าชม
นักท่องเที่ยวจ่ายค่าธรรมเนียม 30 บาท (0.77 เหรียญสหรัฐ) เพื่อป้อนลานเจดีย์ยักษ์ พิพิธภัณฑ์ดำเนินการและอีก 20 บาท (0.51 ดอลลาร์สหรัฐ) ค่าธรรมเนียมแรกเข้า ชั่วโมงพิพิธภัณฑ์จะ 8:00-16:30
เดินทาง
วัดพระมหาธาตุตั้งอยู่บนถนนราชดำเนินประมาณ 2 กิโลเมตร (1.5 ไมล์) จากใจกลางเมือง วิธีที่ดีที่สุดที่จะได้รับมีโดยรถสองแถว - รถกระบะขนาดเล็กที่มีม้านั่งพร้อมด้านข้างของเตียงอย่างใดอย่างหนึ่ง ค่าใช้จ่ายในการเดินทางแต่ละครั้งเพียง 5 บาท

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

และพระมหาธาตุ woramaha wiharn วัดกับเจดีย์ขนาดใหญ่ ( เจดีย์ ) เป็นหนึ่งในที่สำคัญที่สุดของวัดในประเทศไทย และเป็นหนึ่งในมากที่สุด มันเป็นหนึ่งในหกหลักพระวัด วันที่ที่แน่นอนและการสั่งซื้อของการก่อสร้างได้ชัดเจน แต่เป็นที่ทราบกันว่า พระบรมที่เจดีย์อยู่กลางวัด ก่อนวันที่ส่วนที่เหลือของอาคาร โดยมากเป็นหกร้อยปีการสร้างเจดีย์ใน 555 หรือ 757 ตามที่บางแหล่งที่ เกือบแน่นอน ศูนย์ จากเดิม เมืองกำแพง . มันไม่ได้ผิดปกติสำหรับเจดีย์อนุสาวรีย์ขนาดใหญ่ที่ถูกสร้างขึ้นโดยตัวเองในตอนนั้น โครงสร้างเดิมมีขนาดเล็กลง และในลักษณะตัวเมืองของสี่เหลี่ยมของอาณาจักรศรีวิชัยอาณาจักร มันบอกว่า เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าที่ซื้อมาจากศรีลังกา สองพันปีมาแล้ว เจดีย์ถูกขยาย และให้ปัจจุบัน " ศรีลังกา " รูปร่างรอบ 1227 ซึ่งอาจเป็นเมื่อวิหารถูกสร้างขึ้นรอบ ๆเจดีย์เจดีย์ ตั้งอยู่ในกุฏิใหญ่ เช่น สนามที่เต็มไปด้วยป่า 158 องค์เล็ก อนุสาวรีย์ขนาดเล็กอยู่ในความหลากหลายของรูปแบบและปรากฏเป็นหีบวัตถุมงคลศพที่ถูกสร้างขึ้นโดยซื่อสัตย์กว่าหลายร้อยปีทางด้านทิศเหนือขององค์พระเจดีย์ ซึ่งเป็น sited ที่ปิดศูนย์ในลาน , ลำดับของโบสถ์ที่ยื่นออกมาทางด้านทิศเหนือของลาน โบสถ์แรกจริง ๆบ้านบันไดซึ่งจะนำคุณไปยังแพลตฟอร์มที่ฐานของพระเจดีย์ บันไดเป็นปีศาจมากมาย และยืนเฝ้าพระพุทธเจ้าถัดจากโบสถ์ครอบคลุมบันไดเป็นอีกโบสถ์ซึ่งขณะนี้บ้านพิพิธภัณฑ์วัด บนจอแสดงผลหลายร้อยสิ่งประดิษฐ์จากประวัติวัดยาว แม้มากน้อยของรายการที่มีป้าย อีกโบสถ์ข้างๆ พิพิธภัณฑ์ บ้านพระนอน และนิทรรศการมากขึ้น แต่มันถูกปิดในการเยี่ยมชมครั้งสุดท้ายของเราทางทิศใต้ของเจดีย์เป็นพระอุโบสถ ลานอนุสาวรีย์ ( อุปสมบทฮอลล์ ) ในวัด สร้างขึ้นในปี 1628 , ฮอลล์เป็นชิ้นเอกของสไตล์ พระนครศรีอยุธยา ทางสูงชันเอียงเสารอบภายนอกสร้างบังคับมุมมอง ทำให้อาคารดูสูงขึ้นกว่าจริงๆด้วย ในขณะที่ไม่ได้ผิดปกติในวัดไทยในช่วงเวลานี้อาจจะเป็นตัวอย่างที่ดีที่สุดและประสบความสำเร็จมากที่สุด เสาสปริงจากฐานบัวคว่ำตาหรูเสร็จในทองและสีฟ้ากระจกกระเบื้องภายในโบสถ์ค่อนข้างธรรมดาในระดับสายตา แต่เสาเอียงอีกแรงลืมตาขึ้นไปยังเพดาน coffered แดงบรรจง เพดานก้าวขึ้นสู่การเปลี่ยนแปลง ซึ่งสลักพระพุทธรูปขนาดใหญ่ทางทิศใต้ของพระอุโบสถ เป็นตลาดเล็ก ๆที่เต็มไปด้วยร้านของที่ระลึกที่คุณสามารถซื้อหุ่นเงา , ทองเหลือง , ทองแดง , เงิน และจักสาน มีร้านอาหารเพียงไม่กี่ที่ที่คุณสามารถหาอะไรกินค่าธรรมเนียมนักท่องเที่ยวจ่าย 30 บาท ( 0.77 USD ) ค่าธรรมเนียมเข้าลานเจดีย์ยักษ์ พิพิธภัณฑ์มีเพิ่มอีก 20 บาท ( 0.51 บาท ค่าธรรมเนียมแรกเข้า พิพิธภัณฑ์เวลา 08.00 น. ถึง 16.30 น.เริ่มมีวัดพระมหาธาตุเป็นขวาบนถนนมีประมาณ 2 กิโลเมตร ( 1.5 กิโลเมตร ) จากศูนย์กลางเมือง วิธีที่ดีที่สุดที่จะได้รับมันโดยสองแถว - รถกระบะเล็ก กับม้านั่งริมด้านใดด้านหนึ่งของเตียง การเดินทางแต่ละครั้งค่าใช้จ่ายเพียง 5 บาท