It was shortly after this ‘conversi

It was shortly after this ‘conversion’ period in 1786 that Wilberforce was invited to take an active role in the abolitionist movement. The Leading figures in the anti slavery campaign (such as Thomas Clarkson) wished Wilberforce to be their figurehead for passing legislation through parliament. Although Wilberforce was in complete sympathy with their aims, initially he was skeptical of his own abilities. However, after deliberation he decided to take the campaign on.
“If to be feelingly alive to the sufferings of my fellow-creatures is to be a fanatic, I am one of the most incurable fanatics ever permitted to be at large.”

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ก็หลังจากรอบระยะเวลานี้ 'แปลง' ใน 1786 ที่ Wilberforce ได้รับเชิญให้ขึ้นอยู่ในการเคลื่อนไหว abolitionist นำตัวเลขในการต่อต้านทาสเสริม (เช่นโทมัสเซีย) ปรารถนา Wilberforce จะ เสื่อมถอยของพวกเขาสำหรับการผ่านกฎหมายผ่านรัฐสภา แม้ว่า Wilberforce อยู่เห็นใจสมบูรณ์ด้วยจุดมุ่งหมายของพวกเขา ตอนแรกเขาถูกสงสัยของความสามารถของเขาเอง อย่างไรก็ตาม หลังบริษัทฯ เขาตัดสินใจทำแคมเปญในการ
"ถ้าเป็น feelingly กับทุกข์ของสัตว์เพื่อนของฉันจะเป็นคนที่คลั่งไคล้ ฉันชั้นล่างซึ่งนี้มากที่สุดและเคยได้รับอนุญาตให้มีขนาดใหญ่หนึ่ง"

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ไม่นานนักหลังจากช่วงเวลา''แปลงนี้อยู่ใน 1786 wilberforce ที่ได้รับเชิญไปมีบทบาทที่สำคัญในการเคลื่อนไหวที่พ้นขุมนรก ภาพ ชั้นนำในการรณรงค์ความเป็นทาสการป้องกัน(เช่นโทมัส clarkson )อยากให้ wilberforce เป็นหุ่นเชิดของตนผ่านกฎหมายผ่าน รัฐสภา แม้ว่าจะอยู่ในความเห็นอกเห็นใจ wilberforce สมบรูณ์แบบไปด้วยมีความมุ่งมั่นของพวกเขาในตอนแรกเขากังขาของความสามารถของเขาเอง แต่ถึงอย่างไรก็ตามเรื่องนี้อย่างรอบคอบหลังจากเขาตัดสินใจที่จะนำแคมเปญที่บน.
"หากเป็นความรู้สึกมีชีวิตชีวาในทุกขเวทนาของคน - สัตว์หิมพานต์ของฉันคือการทำให้คนคลั่งที่ผมเคยเป็นหนึ่งในสวยหรูไม่สามารถรักษาหายได้มากที่สุดที่เคยได้รับอนุญาตให้ที่ขนาดใหญ่"