Introduction Cassava, often called

Introduction Cassava, often called as ‘poor man’s food’ is considered
as the most important crop among the tropical tuber crops. The crop is widely cultivated due to its adaptation to small and marginal lands, drought tolerance and comparatively affordable cost of cultivation. Apart from its role as a staple/subsidiary food, during the past few decades there has been growing recognition of the value of cassava roots as a low cost energy source for livestock and as a raw material for industrial starch and fuel alcohol. It has a built in mechanism to avoid drought by dropping its leaves temporarily. Drought stress can also be managed by giving supplementary irrigation during the drought periods. Dry matter production, crop growth rate (CGR), tuber weight and yield were significantly greater in cassava, when supplementary18 irrigations given to a depth of 5 cm which amounts to a total water requirement of 90 cm ha
for a 10 month crop (Ramanujam, 1994). Sushamma et al. (1982) reported that cassava requires 5 to 6 irrigations during summer from January to May when planted in September.
-1

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

มันสำปะหลังแนะนำ มักจะเรียกว่าเป็นอาหารของคนยากจนถือว่าเป็นเป็นพืชที่สำคัญในพืชเขตร้อนหัว พืชที่ปลูกกันอย่างแพร่หลายเนื่องจากการปรับตัวของดินแดนขนาดเล็ก และกำไร ทนแล้ง และต้นทุนที่ราคาไม่แพงดีอย่างหนึ่งของการเพาะปลูกได้ นอกจากบทบาทของมันเป็นอาหารตั๋วเย็บกระดาษ/บริษัทในเครือ ในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่าน มีการเติบโตของค่าของรากมันสำปะหลัง เป็นแหล่งพลังงานต้นทุนต่ำสำหรับปศุสัตว์ และ เป็นวัตถุดิบสำหรับอุตสาหกรรมแป้งและแอลกอฮอล์เชื้อเพลิง มันได้สร้างขึ้นในกลไกการหลีกเลี่ยงภัยแล้ง โดยวางใบชั่วคราว นอกจากนี้ยังสามารถจัดการความเครียดภัยแล้งให้ชลประทานเสริมช่วงภัยแล้ง ผลแห้งผลิต อัตราการเติบโตของพืช (CGR), น้ำหนักหัว และผลผลิตมีมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในมันสำปะหลัง เมื่อ irrigations supplementary18 ให้ความลึก 5 ซม.ยอดเงินที่ความต้องการน้ำทั้งหมดของ 90 ซม.ฮา เดือนที่ 10 ตัด (Ramanujam, 1994) Sushamma et al. (1982) รายงานว่า มันสำปะหลังต้อง irrigations 5-6 ในช่วงฤดูร้อนจากเดือนมกราคมถึงพฤษภาคมเมื่อปลูกในเดือนกันยายนนี้-1

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บทนำมันสำปะหลังมักจะเรียกว่าเป็นอาหารคนจน
'เป็นที่ยอมรับว่าเป็นพืชที่สำคัญมากที่สุดในหมู่พืชหัวเขตร้อน พืชที่มีการปลูกกันอย่างแพร่หลายเนื่องจากการปรับตัวไปยังดินแดนขนาดเล็กและขอบทนแล้งและราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับค่าใช้จ่ายของการเพาะปลูก นอกเหนือจากบทบาทของตัวเองเป็นหลัก / อาหาร บริษัท ย่อยในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมาได้มีการรับรู้ที่เพิ่มขึ้นของมูลค่าของหัวมันสำปะหลังเป็นแหล่งพลังงานที่มีต้นทุนต่ำสำหรับปศุสัตว์และสัตว์เป็นวัตถุดิบสำหรับอุตสาหกรรมแป้งมันและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์น้ำมันเชื้อเพลิง มันได้สร้างขึ้นในกลไกในการหลีกเลี่ยงภัยแล้งโดยวางใบชั่วคราว ความเครียดภัยแล้งยังสามารถได้รับการจัดการโดยให้ชลประทานเสริมในช่วงฤดูแล้ง การผลิตวัตถุแห้งอัตราการเจริญเติบโตของพืช (CGR) น้ำหนักหัวและผลผลิตอย่างมีนัยสำคัญมากขึ้นในมันสำปะหลังเมื่อ supplementary18 irrigations รับความลึก 5 ซม. ซึ่งจะมีจำนวนความต้องการน้ำรวม 90 ซม.
ฮ่าสำหรับการเพาะปลูก10 เดือน (Ramanujam, 1994) Sushamma et al, (1982) รายงานว่ามันสำปะหลังต้อง 5-6 irrigations ในช่วงฤดูร้อนตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนพฤษภาคมที่ปลูกในเดือนกันยายน.
-1

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

แนะนำ มันสำปะหลัง , มักจะเรียกว่าเป็น ' อาหาร ' เป็นคนจนถือว่าเป็นสำคัญที่สุดในหมู่
ปลูกพืชหัวร้อน พืชที่ปลูกกันอย่างแพร่หลาย เนื่องจากมีการปรับตัวและดินแดนเล็ก ๆตรงขอบทนแล้งและค่าใช้จ่ายไม่แพงมากเมื่อเทียบกับการ นอกจากบทบาทของมันเป็นหลัก / ย่อยอาหารในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมามีการเติบโตของมูลค่ามันสำปะหลังเป็นแหล่งพลังงานราคาถูกสำหรับปศุสัตว์และเป็นวัตถุดิบสำหรับอุตสาหกรรมแป้งและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เชื้อเพลิง มันได้สร้างขึ้นในกลไกที่จะหลีกเลี่ยงภัยแล้งโดยวางใบไม้ไว้ชั่วคราว ภาวะแล้งยังสามารถจัดการโดยการให้การชลประทานเพิ่มเติมในช่วงภัยแล้งครั้ง ผลผลิตน้ำหนักแห้งอัตราการเจริญเติบโตของพืช ( cgr ) น้ำหนักหัวและผลผลิตอย่างมีนัยสำคัญมากขึ้นในมันสำปะหลัง เมื่อ supplementary18 irrigations ให้ความลึก 5 เซนติเมตร ซึ่งปริมาณความต้องการน้ำทั้งหมด 90 ซม. ฮ่า
สำหรับ 10 เดือนตัด ( ramanujam , 1994 ) sushamma et al . ( 1982 ) ได้รายงานว่า มันสำปะหลัง ต้อง 5 - 6 irrigations ในระหว่างฤดูร้อน ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงพฤษภาคมเมื่อปลูกในเดือนกันยายน .
- 1