the social networking website. Afte

the social networking website. After analyzing her date, Sheldon found maintenance of 
relationships and passing time were the motives for facebook usage that scored highest. 
When she compared motives for employing facebook and unwillingness‐to‐communicate, 
the author found students who did not enjoy or felt anxiety about face‐to‐face interaction 
used facebook to pass time and feel less lonely but were far less likely to believe online 
communication would aid them in making new friends. Finally, Sheldon looked at the 
correlation between unwillingness‐to‐communicate and the amount of time spent on 
facebook as well as attitudes towards it. Her data suggested that students who engage less 
in personal social interaction have fewer facebook friends but logged on to facebook more. 
The res
5   
ults of this research appear to support the rich get richer hypothesis.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เว็บไซต์เครือข่ายสังคม หลังจากวันเธอวิเคราะห์ ภัณฑ์เชลด้อนพบบำรุง
ความสัมพันธ์และผ่านเวลาไม่สนคำครหาสำหรับการใช้งาน facebook ที่คะแนนสูงที่สุดจากการ 
เมื่อเธอเปรียบเทียบการใช้ facebook และ unwillingness‐to‐communicate ไม่สนคำครหา
ผู้เขียนพบผู้ที่ไม่เพลิดเพลิน หรือรู้สึกวิตกกังวลเกี่ยวกับการโต้ตอบ face‐to‐face
ใช้ facebook ผ่านเวลา และรู้สึกโดดเดี่ยวน้อย แต่ได้มากน้อยแนวโน้มที่จะเชื่อว่าออนไลน์
สื่อสารจะช่วยพวกเขาในการหาเพื่อนใหม่ สุดท้าย ภัณฑ์เชลด้อนมอง
ความสัมพันธ์ระหว่าง unwillingness‐to‐communicate และจำนวนเวลาที่ใช้ใน
facebook และทัศนคติก็ แนะนำข้อมูลของเธอที่นักเรียนที่เข้าร่วมน้อย
ในสังคมบุคคลมีน้อยลง facebook เพื่อนแต่เข้าสู่ระบบ facebook เพิ่มเติม 
ทรัพยากรการ
5
ults ของงานวิจัยนี้จะ สนับสนุนสมมติฐานขึ้นได้รวย

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เว็บไซต์เครือข่ายสังคม หลังจากการวิเคราะห์วันที่เธอเชลดอนพบการบำรุงรักษา 
ความสัมพันธ์และเวลาที่ผ่านไปเป็นแรงจูงใจสำหรับการใช้งาน Facebook ที่ได้คะแนนสูงที่สุด 
เมื่อเธอเมื่อเทียบกับแรงจูงใจสำหรับการใช้ Facebook และไม่เต็มใจที่จะติดต่อสื่อสาร 
ของผู้เขียนพบว่านักเรียนที่ไม่ชอบหรือรู้สึกวิตกกังวลเกี่ยวกับใบหน้า -to-ใบหน้าปฏิสัมพันธ์ 
ใช้ Facebook ที่จะผ่านเวลาและความรู้สึกเหงาน้อยลง แต่อยู่ไกลโอกาสน้อยที่จะเชื่อว่าออนไลน์ 
ในการสื่อสารจะช่วยพวกเขาในการทำให้เพื่อนใหม่ ในที่สุดเชลดอนมองไปที่ 
ความสัมพันธ์ระหว่างความไม่เต็มใจที่จะสื่อสารและปริมาณของเวลาที่ใช้ใน 
Facebook เช่นเดียวกับทัศนคติต่อมัน ข้อมูลของเธอแสดงให้เห็นว่านักเรียนที่มีส่วนร่วมน้อย 
ในการปฏิสัมพันธ์ทางสังคมส่วนบุคคลที่มีเพื่อน facebook ของน้อยลง แต่ลงทะเบียนเพื่อ facebook เพิ่มเติม 
res
5   
ults การวิจัยครั้งนี้ปรากฏขึ้นเพื่อสนับสนุนการอุดมไปด้วยได้รับสมมติฐานที่ดียิ่งขึ้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

มีอะไรไหมที่เครือข่ายสังคม    เว็บไซต์ หลังจากวิเคราะห์วันที่ไหมเธอ อะไรเชลด้อนรึเปล่า เจออะไรรักษาไหมของไหม
ไหมความสัมพันธ์และ ผ่านไหมเวลาไหมถูกไหมที่จูงใจสำหรับ  Facebook       การใช้งานที่ได้คะแนนสูงสุด รึเปล่า
เมื่อรึเปล่าเธอรึเปล่าเมื่อเทียบอะไรรึเปล่าแรงจูงใจสำหรับทำไมใช้  Facebook   และไม่เต็มใจที่จะ‐‐ติดต่อสื่อสารรึเปล่า
มั้ย ผู้เขียนพบนักเรียนรึเปล่าใครเหรอเหรอเหรอเหรอเหรอเหรอเหรอ ไม่ได้สนุกหรืออะไร รู้สึกอะไรไหมเกี่ยวกับความวิตกกังวลหน้า‐เพื่อ‐หน้าไหมไหมไหม
ปฏิสัมพันธ์ใช้ไหมอะไรไหม ผ่าน Facebook กับอะไรเวลาอะไรรึเปล่า รู้สึกอะไรไหม และโดดเดี่ยวน้อยลงรึเปล่า แต่ทำไมมีอะไรไกลไหมไหมที่น้อยมากอะไรไปรึเปล่าว่าอะไรรึเปล่า
การสื่อสารออนไลน์ไหม จะช่วยเหลืออะไรพวกเขา ใน     ให้เพื่อนใหม่ . ในที่สุด , อะไรเชลด้อนรึเปล่า ดูอะไรที่ไหมที่รึเปล่า
ความสัมพันธ์ระหว่างความไม่เต็มใจที่จะ‐‐     การสื่อสารและปริมาณของเวลาที่ใช้       ใน Facebook เป็นอย่างดี
อะไรเป็นอะไรรึเปล่า ที่มีทัศนคติอะไรมันรึเปล่าเธอไหมข้อมูลอะไรแนะนำไหมว่าทำไมนักเรียนอะไรใครรึเปล่าต่อสู้รึเปล่า
ไหมน้อยในส่วนตัวไหมไหมไหมไหมไหมไหมมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมน้อยลง Facebook รึเปล่าเพื่อนรึเปล่า แต่ทำไมล็อกอินอะไรกับอะไรกับ  Facebook    มากขึ้น

5
ults    Res ไหมของไหมนี่ไหม วิจัยอะไรปรากฏไหมที่จะอะไรรึเปล่าสนับสนุนไหม รวยไหมเอาไหมรวยไหมสมมติฐาน