ความเชื่อประเทศกัมพูชา1. การทรงร่างผีอารักษ์เนียะตา (ผีบรรพบุรุษ)สังคม การแปล - ความเชื่อประเทศกัมพูชา1. การทรงร่างผีอารักษ์เนียะตา (ผีบรรพบุรุษ)สังคม ไทย วิธีการพูด

ความเชื่อประเทศกัมพูชา1. การทรงร่าง

ความเชื่อประเทศกัมพูชา

1. การทรงร่างผีอารักษ์เนียะตา (ผีบรรพบุรุษ)

สังคมเขมรในสมัยโบราณ (ปัจจุบันด้วย) มีความเชื่อเรื่องภูตผีวิญญาณ สิ่งที่นอกเหนือธรรมชาติเป็นสิ่งยึดเหนียวจิตใจ หรือเป็นที่พึงทางใจ จนกลายเป็นธรรมเนียมในการปฏิบัติต่อๆ กันแม้ว่าในสมัยปัจจุบันความเชื่อเหล่านี้เริ่มเหินห่างไป แต่ตามชนบทยังมีการปฏิบัติสืบต่อกันมาอย่างต่อเนื่องผีบรรพบุรุษ หรือดวงวิญญาณของบุรุษนี้ เมื่อให้ความเชื่อและนับถือกลายเป็นสิ่งที่มีพลัง อำนาจเหนือวิสัยของมนุษย์ เป็นสิ่งลึกลับ ถ้าในภาษาคนธรรมดาเรียกว่าดวงวิญญาณโดนตา ถ้าเป็นในลักษณะทรงเจ้าหรือทรงร่าง/วิญญาณ เรียกอีกแบบหนึ่งว่า อารักษ์เนียะตาหรือแม่มด





ความเชื่อเรื่องวิญญาณอารักษ์เนียะตาในความหมายของสังคมเขมรหมายถึงสิ่งที่ทำให้อบอุ่น เป็นที่พึงทางใจ และเป็นสิ่งที่ให้คำตอบได้และช่วยแก้ปัญหาได้(ในกรณีไม่สบาย เจ็บไข้ ป่วย)โดยเชื่อว่าเมื่อมีคนตายไปแต่ดวงวิญญาณยังมีชีวิตอยู่และอาศัยอยู่ใกล้ลูกหลานเพื่อช่วยดูแลหรือลงโทษหากมีความประพฤติ ไม่เหมาะสม หรือทำให้มีการแตกแยกกันในครอบครัวหรือมีความประพฤติผิดต่อกฎธรรมเนียมสังคม

การทรงร่างวิญญาณทำให้คนปกติกลายเป็นคนละคนที่มีอำนาจเหนือธรรมชาติ สามารถพูดคุยในภาษา แปลกๆและสามารถสื่อความกับดวงวิญญาณอย่างอื่นได้ บางคำพูด เสียง อาการ ท่าทีเหมือนคนที่ยังมีชีวิต เมื่อทรงร่างวิญญาณแล้วสามารถดูแลความเจ็บป่วยไข้ โดยการเสดาะ เป่าหรือให้อภัยโดยบอกให้ว่าอย่าลืมหรือนิรคุณบรรพบุรุษ

ตรึง เงีย ว่า เขมรในสมัยก่อนประวัติศาสตร์มีความเชื่อภูตผีวิญญาณสิ่งเหนือธรรมชาติโดยเชื่อว่าผู้ที่ตายไปวิญญาณไม่ขาดสูญซึ่งวิญญาณเหล่านี้จะเกิดในภพต่อไปตามเหตุ กรรมที่สร้างมา วิญญาณของผู้ที่ตายไป จะยังอยู่เคียงคู่กับญาติๆ เพื่อช่วยดูแล ให้ความคุ้มครอง ซึ่งวิญญาณเหล่านี้เรียกว่า เนียะตา ถ้าเป็นผู้หญิงเรียกว่า โดน ฉะนั้นจึงมีการเรียกร่วมกันทั้งสองว่า” โดน+ตา” การตั้งคำว่าโดนอยู่ข้างหน้า โดยเชื่อว่า สมัยก่อนให้สิทธิผู้หญิงเป็นใหญ่ เป็นผู้นำ(กรณีในโบราณนิทานเรื่องพระทองนาง นาคี)

สมัยเขมรตั้งเมืองหลวงชื่อนครพนม ”ฟูณอน” มีคำพูดที่ว่า “กลุ่มชาติพันธุ์เขมรดั้งเดิมมีความเชื่อว่า ภูตผีเนียะก์ตาและปิศาจต่าง ๆ ทั้งนี้เนื่องด้วยได้รับเอาวัฒนธรรมอินเดีย ความเชื่อเรื่องภูตผี วิญญาณเหล่านี้ ได้พัฒนามาเป็นตัวเป็นตน โดยตั้งพนม (ภูเขา) และสร้างประสาทพนม (ประสาทพนมดา ประสาทพระวิหาร ประสาทพนมโกรม ประสาทพนมบาณอน เป็นต้น มาเพื่อเป็นตัวแทนแห่งวิญญาณทั้งหลายนั้น เมื่อลัทธิพราหมณ์ ศาสนาเข้ามา (ในสมัยเมืองหลวงเชื่อเจนฬา) ได้สร้างศิวลึงค์ตั้งไว้ในประสาท โดยให้ความสำคัญว่าเป็นตัวแทนแห่งวิญญาณเรียกว่าเนียะตา

สัมเด็จพระมหาสุเมธาธิปดี โชดญาณฺโณ สงฆนายก คณะมหานิกาย ชัว ณาด ตรัสว่า อารักข์เนียะตา เป็นวิญญาณที่ให้ความดูแล ปกครอง อารักขา ซึ่งในสังคมเขมรเรียกว่าดวงวิญญาณผีลบฺากสา หรือดวงวิญญาณของบรรพบุรุษที่ยังเป็นห่วงแหงหรือดวงวิญญาณที่ตั้งขึ้นเพื่อให้ความดูแลบ้านเมือง และชุมชนนิคม ซึ่งปัจจุบันนี้ ตามความหมายของท่านหมายถึง ลบฺากสา (เนียะตา) ที่ตั้งอยู่ในวัด

สมัยยุคมหานครมาจนถึงปัจจุบัน ความเชื่อดวงวิญญาณหรือเนียะตานี้เริ่มปรากฏขึ้นเป็นรูปร่างชัดเชนในลักษณะเป็นตัวแทนที่สร้างขึ้นจากหิน ไม้ ดินเหนียว เรียกชื่อไปตามการนิยมนับถือกันว่าศักดิ์สิทธิ์ ขลัง สามารถปกป้องและให้กำลังใจได้ เช่น เชื่อเนียะตำบองแดก เนียะตากระหอมคอ (พนมเปญ) โลกตาเรียช(ราช) (จังหวัดเสียมเรียบ) เนียะตาเคลียงเมือง(จังหวัดบัดดำบอง) ถ้าเป็นผู้หญิงเรียกว่า โดนไตย์ ยายเทพ ยายเม้า ยายกระพมฌูก เป็นต้น

ดร.มีเซล ตราเณ กล่าวว่าเนียะตานี้เป็นราชพิธีในพระมหากษัตริย์เขมรทุกพระองค์ปรารภเพื่อให้ผู้ที่เข้าทรงสถิต (เลี้ยงรูป) ได้บอกเหตุการณ์ และชะตากรรมของบ้านเมือง เหตุโชคลางที่จะเกิดขึ้น ส่วนราษฎร์สามัญทรงอนุญาตให้มีหรือให้เล่นเนียะตาได้ (ทรงสถิต) ท่านบอกอีกว่าเดิมเรียกว่าเทพฺยตา หรือเทพตา และคำนี้ได้เรียกเรื่อยมาตามยุคตามสมัย จนที่สุดเรียกว่าเนียะตา

ดวงวิญญาณเนียะตาตามความหมายที่สังคมเขมรเรียกกันในการพิธีทรงสถิตรูปเรียกว่าเข้าแมjประกอบด้วยองค์ประกอบสองอย่าง

1. ผู้ทรงร่างอารักษ์เนียะตา/แม่มด(Medium)เป็นรูป/ตัวแทนดวงวิญญาณของผู้ที่ตายโดยมีทรงร่างจะมีเสียงและการกระทำของผู้ทรงร่างมีอาการทาทีเหมือนคนยังมีชีวิตอยู่ทั้งการชอบอาหาร เสื้อ ผ้า และความต้องการ อื่น ๆ

2. ผู้สื่อความ (Interpret of Medium) ตามธรรมเนียมเขมรในพิธีทรงร่างสถิตรูปเรียกว่าโดนสนฺม เป็นผู้สื่อความจากผู้ทรงร่างรูป เพื่อสักถามปัญหาที่เกิดเข้าในครอบครัวหรือเหตุการณ์บ้านเมือง สังคม และเรียกร้องขอความช่วยเหลือหาวิธีทางแก้ไขปัญหาเกิดขึ้นหรือช่วยดูแลผู้เจ็บป่วย

ในครอบครัวหนึ่งประกอบด้วยเชื้อสายสองอย่างคือฝ่ายพ่อ(Paternal lineage) และฝ่ายแม่ (maternal lineage) การที่จะทรงร่างสถิตรูปต้องไปหาหมอดูเพื่อรู้ว่าในครอบครัวมีปัญหาอะไร (สมัยก่อนเพื่อจะรู้เหตุการณ์บ้านเมือง)แต่สมัยนี้เพื่อดูแลโรคไข่เจ็บป่วย ทำให้ครอบครัวมีแต่เหตุเลวร้ายเกิดความเดือดร้อน ความไม่สบายใจ เมื่อหมอดูหาสาเหตุเห็นว่าเกิดจากฝ่ายพ่อหรือแม่ และให้จัดพิธีทรงร่างสถิตรูป

พิธีทรงร่างอารักษ์เนียะตา/แม่มด
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
ความเชื่อประเทศกัมพูชา1. การทรงร่างผีอารักษ์เนียะตา (ผีบรรพบุรุษ)สังคมเขมรในสมัยโบราณ (ปัจจุบันด้วย) มีความเชื่อเรื่องภูตผีวิญญาณสิ่งที่นอกเหนือธรรมชาติเป็นสิ่งยึดเหนียวจิตใจหรือเป็นที่พึงทางใจจนกลายเป็นธรรมเนียมในการปฏิบัติต่อ ๆ กันแม้ว่าในสมัยปัจจุบันความเชื่อเหล่านี้เริ่มเหินห่างไปแต่ตามชนบทยังมีการปฏิบัติสืบต่อกันมาอย่างต่อเนื่องผีบรรพบุรุษหรือดวงวิญญาณของบุรุษนี้เมื่อให้ความเชื่อและนับถือกลายเป็นสิ่งที่มีพลังอำนาจเหนือวิสัยของมนุษย์เป็นสิ่งลึกลับถ้าในภาษาคนธรรมดาเรียกว่าดวงวิญญาณโดนตาเรียกอีกแบบหนึ่งว่าถ้าเป็นในลักษณะทรงเจ้าหรือทรงร่าง/วิญญาณอารักษ์เนียะตาหรือแม่มด ความเชื่อเรื่องวิญญาณอารักษ์เนียะตาในความหมายของสังคมเขมรหมายถึงสิ่งที่ทำให้อบอุ่นเป็นที่พึงทางใจและเป็นสิ่งที่ให้คำตอบได้และช่วยแก้ปัญหาได้ (ในกรณีไม่สบายเจ็บไข้ป่วย) โดยเชื่อว่าเมื่อมีคนตายไปแต่ดวงวิญญาณยังมีชีวิตอยู่และอาศัยอยู่ใกล้ลูกหลานเพื่อช่วยดูแลหรือลงโทษหากมีความประพฤติไม่เหมาะสมหรือทำให้มีการแตกแยกกันในครอบครัวหรือมีความประพฤติผิดต่อกฎธรรมเนียมสังคมการทรงร่างวิญญาณทำให้คนปกติกลายเป็นคนละคนที่มีอำนาจเหนือธรรมชาติสามารถพูดคุยในภาษาแปลกๆและสามารถสื่อความกับดวงวิญญาณอย่างอื่นได้บางคำพูดเสียงอาการท่าทีเหมือนคนที่ยังมีชีวิตเมื่อทรงร่างวิญญาณแล้วสามารถดูแลความเจ็บป่วยไข้โดยการเสดาะเป่าหรือให้อภัยโดยบอกให้ว่าอย่าลืมหรือนิรคุณบรรพบุรุษโดนตรึงเงียว่าเขมรในสมัยก่อนประวัติศาสตร์มีความเชื่อภูตผีวิญญาณสิ่งเหนือธรรมชาติโดยเชื่อว่าผู้ที่ตายไปวิญญาณไม่ขาดสูญซึ่งวิญญาณเหล่านี้จะเกิดในภพต่อไปตามเหตุกรรมที่สร้างมาวิญญาณของผู้ที่ตายไปจะยังอยู่เคียงคู่กับญาติ ๆ เพื่อช่วยดูแลให้ความคุ้มครองซึ่งวิญญาณเหล่านี้เรียกว่าเนียะตาถ้าเป็นผู้หญิงเรียกว่าโดนฉะนั้นจึงมีการเรียกร่วมกันทั้งสองว่า" + ตา" การตั้งคำว่าโดนอยู่ข้างหน้าโดยเชื่อว่าสมัยก่อนให้สิทธิผู้หญิงเป็นใหญ่เป็นผู้นำ (กรณีในโบราณนิทานเรื่องพระทองนางนาคี)สมัยเขมรตั้งเมืองหลวงชื่อนครพนม "ฟูณอน" มีคำพูดที่ว่า "กลุ่มชาติพันธุ์เขมรดั้งเดิมมีความเชื่อว่าภูตผีเนียะก์ตาและปิศาจต่างๆ ทั้งนี้เนื่องด้วยได้รับเอาวัฒนธรรมอินเดียความเชื่อเรื่องภูตผีวิญญาณเหล่านี้ได้พัฒนามาเป็นตัวเป็นตนโดยตั้งพนม (ภูเขา) และสร้างประสาทพนม (ประสาทพนมดาประสาทพระวิหารประสาทพนมโกรมประสาทพนมบาณอนเป็นต้นมาเพื่อเป็นตัวแทนแห่งวิญญาณทั้งหลายนั้นเมื่อลัทธิพราหมณ์ศาสนาเข้ามา (ในสมัยเมืองหลวงเชื่อเจนฬา) ได้สร้างศิวลึงค์ตั้งไว้ในประสาทโดยให้ความสำคัญว่าเป็นตัวแทนแห่งวิญญาณเรียกว่าเนียะตาสัมเด็จพระมหาสุเมธาธิปดีโชดญาณฺโณสงฆนายกคณะมหานิกายชัวณาดตรัสว่าอารักข์เนียะตาเป็นวิญญาณที่ให้ความดูแลปกครองอารักขาซึ่งในสังคมเขมรเรียกว่าดวงวิญญาณผีลบฺากสาหรือดวงวิญญาณของบรรพบุรุษที่ยังเป็นห่วงแหงหรือดวงวิญญาณที่ตั้งขึ้นเพื่อให้ความดูแลบ้านเมืองและชุมชนนิคมซึ่งปัจจุบันนี้ตามความหมายของท่านหมายถึงลบฺากสา (เนียะตา) ที่ตั้งอยู่ในวัดสมัยยุคมหานครมาจนถึงปัจจุบัน ความเชื่อดวงวิญญาณหรือเนียะตานี้เริ่มปรากฏขึ้นเป็นรูปร่างชัดเชนในลักษณะเป็นตัวแทนที่สร้างขึ้นจากหิน ไม้ ดินเหนียว เรียกชื่อไปตามการนิยมนับถือกันว่าศักดิ์สิทธิ์ ขลัง สามารถปกป้องและให้กำลังใจได้ เช่น เชื่อเนียะตำบองแดก เนียะตากระหอมคอ (พนมเปญ) โลกตาเรียช(ราช) (จังหวัดเสียมเรียบ) เนียะตาเคลียงเมือง(จังหวัดบัดดำบอง) ถ้าเป็นผู้หญิงเรียกว่า โดนไตย์ ยายเทพ ยายเม้า ยายกระพมฌูก เป็นต้นดร.มีเซลตราเณกล่าวว่าเนียะตานี้เป็นราชพิธีในพระมหากษัตริย์เขมรทุกพระองค์ปรารภเพื่อให้ผู้ที่เข้าทรงสถิต (เลี้ยงรูป) ได้บอกเหตุการณ์และชะตากรรมของบ้านเมืองเหตุโชคลางที่จะเกิดขึ้นส่วนราษฎร์สามัญทรงอนุญาตให้มีหรือให้เล่นเนียะตาได้ (ทรงสถิต) ท่านบอกอีกว่าเดิมเรียกว่าเทพฺยตาหรือเทพตาและคำนี้ได้เรียกเรื่อยมาตามยุคตามสมัยจนที่สุดเรียกว่าเนียะตาดวงวิญญาณเนียะตาตามความหมายที่สังคมเขมรเรียกกันในการพิธีทรงสถิตรูปเรียกว่าเข้าแมjประกอบด้วยองค์ประกอบสองอย่าง1. ผู้ทรงร่างอารักษ์เนียะตา/แม่มด(Medium)เป็นรูป/ตัวแทนดวงวิญญาณของผู้ที่ตายโดยมีทรงร่างจะมีเสียงและการกระทำของผู้ทรงร่างมีอาการทาทีเหมือนคนยังมีชีวิตอยู่ทั้งการชอบอาหาร เสื้อ ผ้า และความต้องการ อื่น ๆ2. ผู้สื่อความ (Interpret of Medium) ตามธรรมเนียมเขมรในพิธีทรงร่างสถิตรูปเรียกว่าโดนสนฺม เป็นผู้สื่อความจากผู้ทรงร่างรูป เพื่อสักถามปัญหาที่เกิดเข้าในครอบครัวหรือเหตุการณ์บ้านเมือง สังคม และเรียกร้องขอความช่วยเหลือหาวิธีทางแก้ไขปัญหาเกิดขึ้นหรือช่วยดูแลผู้เจ็บป่วยในครอบครัวหนึ่งประกอบด้วยเชื้อสายสองอย่างคือฝ่ายพ่อ(Paternal lineage) และฝ่ายแม่ (maternal lineage) การที่จะทรงร่างสถิตรูปต้องไปหาหมอดูเพื่อรู้ว่าในครอบครัวมีปัญหาอะไร (สมัยก่อนเพื่อจะรู้เหตุการณ์บ้านเมือง)แต่สมัยนี้เพื่อดูแลโรคไข่เจ็บป่วย ทำให้ครอบครัวมีแต่เหตุเลวร้ายเกิดความเดือดร้อน ความไม่สบายใจ เมื่อหมอดูหาสาเหตุเห็นว่าเกิดจากฝ่ายพ่อหรือแม่ และให้จัดพิธีทรงร่างสถิตรูปพิธีทรงร่างอารักษ์เนียะตา/แม่มด
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2025 I Love Translation. All reserved.

E-mail: