First of I'd just like to say I don

First of I'd just like to say I don't hate this book, nor do I love it.
Nicholas Sparks has shown through his story the choice that true love no longer is valued and has no meaning. He basically conveyed that a strong attraction towards the opposite gender can be referred to as love.

For instance, if I were to hang out with a single person for the entire weekend and have a strong attraction towards them because they were attractive I would not refer to it as love It can called a huge crush, or something along those lines but to love someone so quickly is supposedly impossible.
Gabby herself stated that she didn't know him yet she still declared this intimate love towards him. Um, Nicholas sparks please make some sense.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ครั้งแรกของฉันต้องการเพียงแค่อยากจะบอกว่าผมไม่ได้เกลียดหนังสือเล่มนี้ไม่ทำฉันรักมัน.
นิโคลัสสปาร์กได้แสดงให้เห็นผ่านเรื่องราวของเขาเลือกที่ความรักที่แท้จริงไม่ได้มีมูลค่าและไม่มีความหมาย เขาพื้นลำเลียงที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่แข็งแกร่งต่อเพศตรงข้ามสามารถจะเรียกว่ารัก. ยกตัวอย่างเช่นถ้าผมจะออกไปเที่ยวกับคนเพียงคนเดียวสำหรับทั้งสัปดาห์และมีสถานที่น่าสนใจที่แข็งแกร่งต่อพวกเขาเพราะพวกเขาเป็นที่น่าสนใจผมจะไม่ดู ถึงว่ามันเป็นความรักที่มันสามารถเรียกความสนใจขนาดใหญ่หรือสิ่งที่ตามเส้นที่ แต่จะรักใครสักคนอย่างรวดเร็วเป็นไปไม่ได้ที่คาดคะเน. Gabby ตัวเองบอกว่าเธอไม่รู้จักเขาเลยเธอยังคงประกาศนี้ความรักที่ใกล้ชิดต่อเขา อืมนิโคลัสประกายโปรดให้ความรู้สึกบางอย่าง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

แรก ผมอยากบอกว่า ผมไม่ได้เกลียดหนังสือเล่มนี้ และผมชอบมันนิโคลัส สปาร์คได้แสดงผ่านเรื่องราวของเขาเลือกที่ความรักที่แท้จริงคือไม่มีคุณค่า ไม่มีความหมาย เขาจะสื่อว่า แข็งแรง ดึงดูด ต่อเพศตรงข้ามสามารถเรียกว่าความรักตัวอย่าง ถ้าผมจะออกไปเที่ยวกับบุคคลเดียวสำหรับวันหยุดสุดสัปดาห์ทั้งหมด และมีแรงดึงดูดที่แข็งแรงต่อพวกเขาเพราะพวกเขามีเสน่ห์ ผมจะไม่เรียกมันว่า ความรัก มันก็เรียกว่า คลั่ง หรืออะไรพวกนั้น แต่รักใครแล้วจะเป็นไม่ได้แก๊บบี้เธอระบุว่าเธอไม่ได้รู้จักเขา แต่เธอก็ยังประกาศความรักสนิทสนมกับเขา อืม นิโคลัส สปาร์ค กรุณาให้เหตุผล