The election of Katō Kōmei as Prime

The election of Katō Kōmei as Prime Minister of Japan continued democratic reforms that had been advocated by influential individuals on the left. This culminated in the passage of universal manhood suffrage in May 1925. This bill gave all male subjects over the age of 25 the right to vote, provided they had lived in their electoral districts for at least one year and were not homeless. The electorate thereby greatly increased from 3.3 million to 12.5 million.[3]

Pressure from the conservative right, however, forced the passage of the Peace Preservation Law of 1925 along with other anti-radical legislation, only ten days before the passage of universal manhood suffrage. The Peace Preservation Act curtailed individual freedom in Japan at the beginning to some degree, later to a large degree. It outlawed groups that sought to alter the system of government or to abolish private ownership. The leftist movements that had been galvanized by the Russian Revolution were subsequently crushed and scattered. This was in part to do with the Peace Preservation Act, but also due to the general fragmentation of the left.

Conservatives forced the passage of the Peace Preservation Law because the party leaders and politicians of the Taishō era had felt that, after World War I, the state was in danger from revolutionary movements. The Japanese state never clearly defined a boundary between private and public matters and, thus, demanded loyalty in all spheres of society. Subsequently, any ideological attack, such as a proposal for socialist reforms, was seen as an attack on the very existence of the state. The meaning of the law was gradually stretched to academic spheres.

After the passage of the Peace Preservation Law and related legislation, kokutai emerged as the symbol of the state. Kokutai was seen as the barrier against communist and anarchist movements in Japan. With the challenge of the Great Depression on the horizon, this would be the death knell for parliamentary democracy in Japan.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ราษฎรโคเมคะเป็นนายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่นต่อการปฏิรูปประชาธิปไตยที่ได้รับ advocated โดยบุคคลที่มีอิทธิพลทางด้านซ้าย นี้ culminated ในกาลกล้าหาญ universal suffrage ใน 1925 พฤษภาคม นี้ให้เรื่องเพศทั้งหมดอายุ 25 มากกว่าด้านขวาลง พวกเขาได้อาศัยอยู่ในเขตการเลือกตั้งอย่างน้อยหนึ่งปี และไม่จรจัด อัดจึงเพิ่มขึ้นอย่างมากจาก 3.3 ล้านถึง 12.5 ล้าน [3]กดดันจากอนุรักษนิยมขวา อย่างไรก็ตาม บังคับทางกฎหมายรักษาความสงบของ 1925 รวมทั้งกฎหมายอื่น ๆ ต้านอนุมูล สิบวันก่อนกาลกล้าหาญ universal suffrage พระราชบัญญัติการรักษาความสงบ curtailed เสรีภาพแต่ละในประเทศญี่ปุ่นที่เริ่มต้นกับ จะตัวใหญ่ มัน outlawed กลุ่มที่มีการปรับเปลี่ยนระบบของรัฐบาล หรือยุบเป็นเจ้าของส่วนตัว ทั้งการเคลื่อนไหวที่มีการชุบสังกะสี โดยการปฏิวัติรัสเซียมาบด และกระจาย นี้เป็นส่วนหนึ่งทำ กับพระราช บัญญัติการรักษาความสงบ แต่ยังเนื่อง จากการกระจายตัวทั่วไปของซ้ายอนุรักษ์นิยมบังคับทางกฎหมายอนุรักษ์ความสงบ เพราะผู้นำพรรคและนักการเมืองยุคไทโชมีรู้สึกว่า หลังจากสงครามโลก รัฐก็ตกอยู่ในอันตรายจากการเคลื่อนไหวปฏิวัติ รัฐญี่ปุ่นกำหนดเขตแดนระหว่างเรื่องส่วนตัว และสาธารณะและ จึง ต้องซื่อสัตย์ในรัฐบาลท้องถิ่นทั้งหมดของสังคมไม่ชัดเจน ในเวลาต่อมา โจมตีใด ๆ อุดมการณ์ เช่นข้อเสนอสำหรับสังคมนิยมปฏิรูป ถูกถือเป็นการโจมตีดำรงสถานะ ความหมายของกฎหมายรัฐบาลท้องถิ่นค่อย ๆ ยืดให้ศึกษาหลังจากเส้นทางของความสงบรักษากฎหมายและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง kokutai เกิดเป็นสัญลักษณ์ของรัฐ Kokutai ถูกมองว่าเป็นอุปสรรคต่อต้านคอมมิวนิสต์และดิอเคลื่อนไหวในประเทศญี่ปุ่น ด้วยความท้าทายของภาวะซึมเศร้าที่ดีบนขอบฟ้า นี้จะ knell ตายเพื่อประชาธิปไตยรัฐสภาญี่ปุ่น

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การเลือกตั้งของKatōKōmeiในฐานะนายกรัฐมนตรีของประเทศญี่ปุ่นอย่างต่อเนื่องการปฏิรูปประชาธิปไตยที่ได้รับการสนับสนุนโดยบุคคลที่มีอิทธิพลทางด้านซ้าย นี้ culminated ในการทางเดินของความเป็นลูกผู้ชายอธิษฐานสากลในเดือนพฤษภาคม 1925 การเรียกเก็บเงินนี้ให้อาสาสมัครชายอายุเกิน 25 สิทธิออกเสียงลงคะแนนที่ให้พวกเขาได้อาศัยอยู่ในเขตการเลือกตั้งของพวกเขาเป็นเวลาอย่างน้อยหนึ่งปีและไม่ได้ไม่มีที่อยู่อาศัย การเลือกตั้งจึงเพิ่มขึ้นอย่างมาก 3,300,000-12,500,000. [3] ความดันจากขวาอนุรักษ์นิยม แต่บังคับให้ทางเดินของกฎหมายรักษาความสงบของ 1925 พร้อมกับการออกกฎหมายต่อต้านอนุมูลอิสระอื่น ๆ ที่เพียงสิบวันก่อนทางเดินของความเป็นลูกผู้ชายสากล การอธิษฐาน พระราชบัญญัติการรักษาความสงบลดเสรีภาพส่วนบุคคลในประเทศญี่ปุ่นที่จุดเริ่มต้นในระดับหนึ่งต่อมาในระดับที่มีขนาดใหญ่ มันผิดกฎหมายกลุ่มที่พยายามที่จะปรับเปลี่ยนระบบการทำงานของรัฐบาลหรือที่จะยกเลิกกรรมสิทธิ์เอกชน การเคลื่อนไหวฝ่ายซ้ายที่ได้รับการชุบสังกะสีโดยการปฏิวัติรัสเซียถูกบดขยี้ต่อมาและกระจัดกระจาย นี่คือส่วนหนึ่งจะทำอย่างไรกับพระราชบัญญัติการรักษาความสงบ แต่ยังเกิดจากการกระจายตัวทั่วไปของซ้าย. พรรคอนุรักษ์นิยมบังคับทางของกฎหมายรักษาความสงบเพราะผู้นำพรรคและนักการเมืองในยุคTaishōมีความรู้สึกว่าหลังจากสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง รัฐตกอยู่ในอันตรายจากการเปลี่ยนแปลงของการปฏิวัติ รัฐญี่ปุ่นไม่เคยกำหนดไว้อย่างชัดเจนเรื่องเขตแดนระหว่างภาครัฐและเอกชนและจึงเรียกร้องความจงรักภักดีในทุกสิ่งในสังคม ต่อจากนั้นการโจมตีใด ๆ อุดมการณ์เช่นข้อเสนอการปฏิรูปสังคมนิยมถูกมองว่าเป็นการโจมตีการดำรงอยู่ของรัฐ ความหมายของกฎหมายที่ได้รับการยืดค่อยๆทรงกลมวิชาการ. หลังจากผ่านกฎหมายรักษาความสงบและการออกกฎหมายที่เกี่ยวข้อง kokutai กลายเป็นสัญลักษณ์ของรัฐ Kokutai ถูกมองว่าเป็นอุปสรรคต่อการเคลื่อนไหวของพรรคคอมมิวนิสต์และอนาธิปไตยในประเทศญี่ปุ่น กับความท้าทายของการตกต่ำบนขอบฟ้านี้จะเป็นมรณะเพื่อประชาธิปไตยรัฐสภาในประเทศญี่ปุ่น

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การเลือกตั้งของแคท โฮเคโฮเมย์เป็นนายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่นต่อการปฏิรูปประชาธิปไตยที่ถูกสนับสนุนโดยบุคคลที่ทรงอิทธิพลบนด้านซ้าย นี้ culminated ในทางเดินของสิทธิความเป็นลูกผู้ชายสากลในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. บิลนี้ให้นักเรียนชายทั้งหมดอายุ 25 สิทธิในการลงคะแนนเสียง ให้พวกเขาได้อาศัยอยู่ในการเลือกตั้งเขตเป็นเวลาอย่างน้อยหนึ่งปี และไม่ได้เป็นคนจรจัดเขตเลือกตั้งจึงเพิ่มขึ้นอย่างมากจาก 3.3 ล้าน 12.5 ล้าน [ 3 ]

ความกดดันจากอนุรักษ์นิยมขวา แต่บังคับผ่านกฎหมายรักษาความสงบของ 1925 พร้อมกับอื่น ๆกฎหมายต่อต้านอนุมูลอิสระเพียงสิบวัน ก่อนที่ทางเดินของสากลความเป็นชายสิทธิ . การรักษาสันติภาพทำเป็นตัดทอนเสรีภาพในญี่ปุ่นที่เริ่มไปบางส่วนต่อมาในระดับใหญ่ มันผิดกฎหมาย กลุ่มที่พยายามจะเปลี่ยนระบบการปกครองหรือยกเลิกกรรมสิทธิ์เอกชน พวกซ้ายจัดการเคลื่อนไหวที่ถูกชุบสังกะสีโดยการปฏิวัติรัสเซีย จัดการบดและการกระจาย นี้คือในส่วนที่เกี่ยวข้องกับพระราชบัญญัติรักษาความสงบ แต่ยังเนื่องจากของแม่ทัพซ้าย

ใหม่บังคับผ่านกฎหมายรักษาความสงบ เพราะผู้นำพรรคและนักการเมืองในยุคโฮ taish ได้รู้สึกว่า หลังสงครามโลก สภาพอยู่ในอันตรายจากการเคลื่อนไหวปฏิวัติ ญี่ปุ่นสภาพไม่เคยชัดเจนเขตแดนระหว่างเรื่องส่วนตัวและสาธารณะ ดังนั้นจึงเรียกร้องความจงรักภักดีในทรงกลมทั้งหมดของสังคม ต่อมา มีอุดมการณ์ โจมตีเช่นข้อเสนอปฏิรูปสังคมนิยม ที่เห็นเป็นโจมตีการดำรงอยู่ของรัฐ คำแปล / ความหมาย : กฎหมายก็ค่อยๆยืดทรงกลมวิชาการ

หลังจากผ่านกฎหมายรักษาความสงบ และที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย kokutai กลายเป็นสัญลักษณ์ของรัฐ kokutai ถูกมองว่าเป็นอุปสรรคต่อการเคลื่อนไหวของคอมมิวนิสต์และอนาธิปไตยในญี่ปุ่นกับความท้าทายของ Great อาการซึมเศร้าที่ขอบฟ้าจะตายลางร้ายสำหรับประชาธิปไตยแบบรัฐสภาในญี่ปุ่น