Humor is generally seen as adaptive

Humor is generally seen as adaptive. Research has found it is related to overall positive mood and psychological health (Martin, 2001). However, some types of humor, such as aggressive humor, can also be used to ridicule or belittle others (Martin et al., 2003). Aggressive humor has yet to be examined in different contexts in order to determine if there are positive consequences. The present study examines the role of context (friendship and non-friendship) in the perception of aggressive humor. Participants completed measures of mood, social intelligence, humor use, social dominance orientation and self-determination prior to viewing video clips of aggressive humor within friendship and non-friendship contexts and evaluating the perpetrator of the humor. Results showed that aggressive humor was viewed as more rude and hurtful when used in a non-friendship context. However, those who use aggressive humor in a friendship, rather than non-friendship, context were evaluated as having more social skills and awareness. Additionally, females who use aggressive humor were viewed as more rude than males, and males and females did not differ on this evaluation. Based on these findings, humor research should consider relationship context and gender of those engaging in the humor.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

อารมณ์ขันโดยทั่วไปจะเห็นเป็นแบบอะแดปทีฟ วิจัยพบสัมพันธ์กับอารมณ์ในเชิงบวกโดยรวมและสุขภาพทางจิต (Martin, 2001) อย่างไรก็ตาม อารมณ์ขัน เช่นก้าวร้าวอารมณ์ขัน บางชนิดยังสามารถใช้ล้อเลียน หรือดูถูกผู้อื่น (Martin et al. 2003) ก้าวร้าวอารมณ์ขันยังไม่ได้ตรวจในบริบทที่แตกต่างเพื่อตรวจสอบว่า มีผลกระทบในเชิงบวก การศึกษาตรวจสอบบทบาทของบริบท (มิตรภาพและไม่ใช่มิตรภาพ) ในการรับรู้อารมณ์ขันสูง ผู้เข้าร่วมในการดำเนินมาตรการของอารมณ์ สังคมสติปัญญา อารมณ์ขันใช้ ปฐมนิเทศปกครองสังคมและปกครองตนเองก่อนที่จะดูคลิปวิดีโอของก้าวร้าวอารมณ์ขันภายในมิตรภาพและบริบทไม่ใช่มิตรภาพ และประเมินผู้อารมณ์ขัน ผลการศึกษาพบว่า อารมณ์ขันสูงถูกมองว่าเป็นอันตรายเมื่อใช้ในบริบทไม่ใช่มิตรภาพ และหยาบคายมาก อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ใช้อารมณ์ขันสูงในบริบทมิตรภาพ ใช่ไม่ใช่มิตรภาพ ถูกประเมินว่ามีทักษะทางสังคมมากขึ้นและการรับรู้ นอกจากนี้ หญิงที่ใช้อารมณ์ขันสูงถูกมองว่าหยาบกว่าเพศ ชาย และชาย และหญิงไม่ได้แตกต่างกันในการประเมินนี้ จากการค้นพบเหล่านี้ วิจัยอารมณ์ขันควรพิจารณาบริบทของความสัมพันธ์และเพศผู้ในอารมณ์ขัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ขำขันมีให้เห็นกันโดยทั่วไปว่าการปรับตัว มีงานวิจัยที่พบว่ามันมีความเกี่ยวข้องกับอารมณ์ในเชิงบวกโดยรวมและสุขภาพจิตวิทยา (มาร์ติน, 2001) แต่บางประเภทของอารมณ์ขันเช่นอารมณ์ขันก้าวร้าวนอกจากนี้ยังสามารถนำมาใช้เพื่อเยาะเย้ยหรือดูถูกคนอื่น ๆ (มาร์ติ et al., 2003) อารมณ์ขันเชิงรุกยังไม่ได้รับการตรวจสอบในบริบทที่แตกต่างกันเพื่อตรวจสอบว่ามีผลกระทบในเชิงบวก การศึกษาครั้งนี้จะตรวจสอบบทบาทของบริบท (มิตรภาพและไม่ใช่มิตรภาพ) ในการรับรู้ของอารมณ์ขันก้าวร้าว ผู้เข้าร่วมกิจกรรมเสร็จสิ้นมาตรการของอารมณ์ปัญญาทางสังคม, การใช้อารมณ์ขันการวางแนวทางการปกครองสังคมและการตัดสินใจเองก่อนที่จะมีการดูคลิปวีดีโอของอารมณ์ขันก้าวร้าวภายในมิตรภาพและไม่ใช่มิตรภาพบริบทและประเมินผลการกระทำผิดของอารมณ์ขันที่ ผลการศึกษาพบว่าอารมณ์ขันก้าวร้าวถูกมองว่าเป็นหยาบคายมากขึ้นและเป็นอันตรายเมื่อนำมาใช้ในบริบทที่ไม่ใช่มิตรภาพ อย่างไรก็ตามผู้ที่ใช้อารมณ์ขันเชิงรุกในมิตรภาพมากกว่าไม่ใช่มิตรภาพบริบทได้รับการประเมินว่ามีทักษะทางสังคมมากขึ้นและการรับรู้ นอกจากนี้ผู้หญิงที่ใช้อารมณ์ขันก้าวร้าวถูกมองว่าเป็นคนหยาบคายมากกว่าเพศชายและเพศชายและหญิงไม่แตกต่างกันในการประเมินผลนี้ จากผลการวิจัยเหล่านี้การวิจัยอารมณ์ขันควรพิจารณาบริบทความสัมพันธ์และเพศของผู้ที่มีส่วนร่วมในอารมณ์ขัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

อารมณ์ขันจะเห็นโดยทั่วไปเป็นแบบปรับได้ การวิจัยยังพบว่า มันเกี่ยวข้องกับอารมณ์โดยรวมบวกสุขภาพและจิตใจ ( Martin , 2001 ) อย่างไรก็ตาม บางชนิดของอารมณ์ เช่น ก้าวร้าว อารมณ์ยังสามารถใช้เพื่อ เยาะเย้ย หรือดูถูกคนอื่น ( มาร์ติน et al . , 2003 ) ก้าวร้าว อารมณ์ยังถูกตรวจสอบในบริบทที่แตกต่างกันเพื่อตรวจสอบว่ามีผลเป็นบวก การศึกษาถึงบทบาทของบริบท ( มิตรภาพและไม่ใช่มิตรภาพ ) ในการรับรู้ของการก้าวร้าวมาก ผู้ผ่านมาตรการของอารมณ์ สังคม สติปัญญา อารมณ์ สังคม การปกครอง การใช้ และการตัดสินใจของตนเองก่อนการดูคลิปวีดีโอตลกก้าวร้าวในมิตรภาพและไม่ใช่มิตรภาพ บริบทและการประเมินคนร้ายของอารมณ์ขัน ผลการศึกษาพบว่าอารมณ์ขันถูกมองว่าก้าวร้าวหยาบคายและเป็นอันตรายเมื่อใช้ในบริบทที่ไม่ใช่มิตรภาพ . อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ใช้อารมณ์ก้าวร้าวในมิตรภาพ มากกว่าไม่ใช่มิตรภาพ บริบท ได้แก่ มีทักษะทางสังคมและการตระหนักรู้ นอกจากนี้ ผู้หญิงที่ใช้ขันถูกมองว่าก้าวร้าวหยาบคายมากกว่าเพศชาย และเพศชายและหญิงไม่แตกต่างกันในการประเมินนี้ จากการศึกษานี้วิจัยอารมณ์ขันควรพิจารณาความสัมพันธ์ของบริบทและเพศของผู้ที่มีส่วนร่วมในอารมณ์ขัน