SummaryBackgroundThe first human ca

Summary
Background
The first human case of tularemia in Iran was reported in 1980 and there have been no subsequent reports of tularemia in the country. The aim of this study was to carry out a survey of tularemia among different groups in the province of Kurdistan in western Iran.

Methods
The following information was collected by means of an in-house questionnaire: participant demographic characteristics, exposure to risks, and use of appropriate personal protective equipment and disinfectant in their occupation. A blood sample was collected from each participant. Sera were tested using an ELISA kit (VirionSerion) to detect specific IgG antibodies against Francisella tularensis.

Results
Of a total of 250 serum samples, 14.40% had anti-tularemia IgG antibodies. The highest seroprevalence was found in hunters (18%) and the lowest in health care workers (12%). Age had a significant positive association with tularemia seroprevalence (p < 0.001). The seroprevalence of tularemia in people exposed to foxes (hunting or eating the meat) (25%) was significantly higher than in others (8.65%) (p = 0.01).

Conclusions
According to the findings of this study, it is highly recommended that physicians and health care workers are informed about bacteria circulating in this area. By sensitizing the health system, it is expected that some cases of the clinical disease will be reported in the near future. Similar studies in other parts of the country and on domestic and wild animals will clarify the epidemiology of tularemia in Iran.

Keywords
Tularemia; Francisella tularensis; Seroprevalence; Iran; ELISA
1. Introduction

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สรุปพื้นหลังมีรายงานกรณีบุคคลแรกของไข้กระต่ายในอิหร่านในปี 1980 และมีการรายงานไม่ตามมาของไข้กระต่ายในประเทศ จุดมุ่งหมายของการศึกษานี้ได้ดำเนินการสำรวจไข้กระต่ายระหว่างกลุ่มต่าง ๆ ในจังหวัดเคอร์ดิสถานในอิหร่านตะวันตกวิธีการข้อมูลรวบรวมจากการสอบถามภายใน: ลักษณะประชากรผู้เข้าร่วม การสัมผัสกับความเสี่ยง และการใช้อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคลที่เหมาะสมและยาฆ่าเชื้อในอาชีพของตน ตัวอย่างเลือดที่เก็บจากผู้เรียนแต่ละ จะมีทดสอบโดยใช้ชุดการ ELISA (VirionSerion) การตรวจหา IgG แอนตี้ที่เฉพาะกับ Francisella tularensisผลลัพธ์ของจำนวนตัวอย่างซีรั่ม 250, 14.40% มีแอนตี้ IgG ป้องกันไข้กระต่าย Seroprevalence สูงสุดพบในนักล่า (18%) และต่ำสุดในการดูแลสุขภาพคน (12%) อายุมีความสัมพันธ์ในเชิงบวกอย่างมีนัยสำคัญกับไข้กระต่าย seroprevalence (p < 0.001) Seroprevalence ของไข้กระต่ายในคนที่สัมผัสกับละมั่งสุนัขจิ้งจอก (ล่าสัตว์ หรือกินเนื้อ) (25%) ได้อย่างมีนัยสำคัญสูงกว่าคนอื่น (8.65%) (p = 0.01) การบทสรุปวิจัยพบการศึกษานี้ แนะนำให้ทราบว่า แพทย์และผู้ปฏิบัติงานสุขภาพเกี่ยวกับแบคทีเรียที่หมุนเวียนในพื้นที่นี้ โดยการกระตุ้นระบบสุขภาพ คาดว่า จะมีรายงานกรณีบางโรคทางคลินิกในอนาคต คล้ายการศึกษาในส่วนอื่น ๆ ของประเทศ และสัตว์ป่า และในประเทศจะชี้แจงการระบาดของไข้กระต่ายในอิหร่านคำสำคัญไข้กระต่าย Francisella tularensis Seroprevalence อิหร่าน ELISA1. บทนำ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สรุป
ความเป็นมา
ของมนุษย์กรณีแรกของไข้กระต่ายในอิหร่านมีรายงานในปี 1980 และยังไม่มีการรายงานภายหลังจากไข้กระต่ายในประเทศ วัตถุประสงค์ของการศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อดำเนินการสำรวจความคิดเห็นของไข้กระต่ายในกลุ่มที่แตกต่างกันในจังหวัดถานในภาคตะวันตกของอิหร่าน. วิธีการข้อมูลต่อไปนี้ถูกเก็บรวบรวมโดยวิธีการของแบบสอบถามในบ้าน: ลักษณะทางประชากรของผู้เข้าร่วมสัมผัสกับความเสี่ยงและการใช้งาน อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคลที่เหมาะสมและยาฆ่าเชื้อในอาชีพของพวกเขา ตัวอย่างเลือดที่เก็บจากผู้เข้าร่วมแต่ละคน ซีรั่มได้รับการทดสอบโดยใช้ชุด ELISA (Virion Serion) เพื่อตรวจสอบแอนติบอดี IgG ที่เฉพาะเจาะจงกับ Francisella tularensis. ผลของทั้งหมด 250 ตัวอย่างซีรั่ม, 14.40% มีการป้องกันไข้กระต่ายแอนติบอดี IgG ความชุกสูงสุดที่พบในนักล่า (18%) และต่ำสุดในการดูแลสุขภาพของคนงาน (12%) อายุมีความสัมพันธ์เชิงบวกอย่างมีนัยสำคัญที่มีไข้กระต่ายชุก (p <0.001) ความชุกของไข้กระต่ายในคนที่สัมผัสกับสุนัขจิ้งจอก (ล่าสัตว์หรือการรับประทานเนื้อสัตว์) (25%) อย่างมีนัยสำคัญสูงกว่าคนอื่น ๆ (8.65%) (p = 0.01). สรุปผลการวิจัยตามผลการศึกษานี้จึงขอแนะนำว่า แพทย์และบุคลากรทางการแพทย์จะได้รับแจ้งเกี่ยวกับแบคทีเรียที่ไหลเวียนอยู่ในบริเวณนี้ โดย sensitizing ระบบสุขภาพเป็นที่คาดหวังว่าบางกรณีของโรคจะมีการรายงานในอนาคตอันใกล้ การศึกษาที่คล้ายกันในส่วนอื่น ๆ ของประเทศและในสัตว์เลี้ยงและสัตว์ป่าจะชี้แจงระบาดวิทยาของไข้กระต่ายในอิหร่าน. คำไข้กระต่าย; Francisella tularensis; ความชุก; อิหร่าน; วิธี ELISA 1 การแนะนำ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

พื้นหลังสรุป

กรณีมนุษย์ครั้งแรกของโรคทูลารีเมียในอิหร่านมีรายงานในปี พ.ศ. 2523 และมีรายงานภายหลังของบ้านในประเทศ จุดมุ่งหมายของการศึกษานี้คือ เพื่อดำเนินการสำรวจบ้านระหว่างกลุ่มต่าง ๆในจังหวัดเคอร์ดิสถาน ทางตะวันตกของอิหร่าน


ต่อไปนี้วิธีการเก็บข้อมูลโดยวิธีการของบ้านในแบบสอบถาม :เข้าร่วมลักษณะประชากรศาสตร์ การรักษา และการใช้อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคลและการฆ่าเชื้อที่เหมาะสมในอาชีพของพวกเขา มีการเก็บตัวอย่างเลือดจากผู้เข้าร่วมแต่ละ วิธีทดสอบโดยใช้วิธี ELISA Kit ( ไวริออน N serion ) เพื่อตรวจหาแอนติบอดี IgG ที่เฉพาะเจาะจงกับ francisella tularensis ผลลัพธ์
ของผลรวมของ 250 เซรั่มตัวอย่าง 14

40 % มี IgG anti ไข้กระต่าย . การ seroprevalence สูงสุดพบในนักล่า ( 18% ) และต่ำสุดในการดูแลสุขภาพ ( ร้อยละ 12 ) อายุมีความสัมพันธ์เชิงบวกอย่างมีนัยสำคัญกับโรคทูลารีเมีย seroprevalence ( p < 0.001 ) การ seroprevalence ของโรคทูลารีเมียในคนที่สัมผัสกับสุนัขจิ้งจอก ( ล่าหรือกินเนื้อ ) ( 25 % ) สูงกว่าในผู้อื่น ( 8.65 % ) ( p = 0.01 )

สรุปจากผลการศึกษาในครั้งนี้ ก็ขอแนะนำให้แพทย์และการดูแลสุขภาพจะทราบเกี่ยวกับแบคทีเรียที่หมุนเวียนในพื้นที่นี้ โดย sensitizing ระบบสุขภาพ เป็นที่คาดว่า บางกรณีของโรคทางคลินิกจะถูกรายงานในใกล้อนาคตการศึกษาที่คล้ายกันในส่วนอื่น ๆของประเทศและสัตว์ป่าจะชี้แจงและระบาดวิทยาของโรคทูลารีเมียในอิหร่าน


บ้านคำหลัก ; francisella tularensis ; seroprevalence ; อิหร่าน ; )
1 แนะนำ