2. Theoretical background2.1. Frami

2. Theoretical background
2.1. Framing citizenship education
Governments in many countries have introduced citizenship
education as an obligatory part of the curriculum in the last decades
to foster social cohesion and more active participation by citizens in
social and political life (Euridyce, 2005). This mandate for CE can be
seen as a response to social changes, such as the rise of individualization
and the emergence of a multicultural society (Karsten,
Cogan, Grossman, Liu, & Pitiyanuwat, 2002; Veugelers, 2011;
Geijsel, Ledoux, Reumerman, & Ten Dam, 2012), or poignant events
in society, such as 9/11 (Torney-Purta, 2002). In 2005, the Council of
Europe proclaimed that year as the European Year of Citizenship
through Education (Euridyce, 2005) and 2011 as the year of
Voluntary Activities Promoting Active Citizenship in which schools
were expected to play an important role (Euridyce, 2012). In the US,
notwithstanding a long tradition of citizenship education (Althof &
Berkowitz, 2006),

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

2. ทฤษฎีเบื้องหลัง2.1 ทำการถ่ายโอนการศึกษาสัญชาติรัฐบาลในหลายประเทศได้แนะนำสัญชาติการศึกษาเป็นส่วนบังคับของหลักสูตรในทศวรรษเพื่อส่งเสริมสามัคคีสังคมและมีส่วนร่วมน้อย โดยประชาชนในสังคม และการเมืองชีวิต (Euridyce, 2005) ข้อบังคับนี้สำหรับ CE สามารถเป็นการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงทางสังคม เช่นการเพิ่มขึ้นของการสร้างลักษณะเฉพาะตัวและการเกิดขึ้นของสังคมวัฒนธรรมนานาชาติ (KarstenCogan, Grossman หลิว & Pitiyanuwat, 2002 Veugelers, 2011Geijsel, Ledoux, Reumerman และ เขื่อน 10, 2012), หรือเหตุการณ์ประจำในสังคม เช่น 9/11 (Torney-Purta, 2002) ในปี 2548 สำนักงานกฤษฎีกายุโรปประกาศว่า ปีเป็นปีสัญชาติยุโรปทางการศึกษา (Euridyce, 2005) และเป็นปี 2011สมัครใจกิจกรรมส่งเสริมการใช้งานสัญชาติในโรงเรียนใดคาดว่าจะมีบทบาทสำคัญ (Euridyce, 2012) ในสหรัฐอเมริกาอย่างไรก็ตามการศึกษาสัญชาติมายาวนาน (Althof &Berkowitz, 2006),

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

2. พื้นหลังทฤษฎี
2.1 กรอบการศึกษาความเป็นพลเมือง
ของรัฐบาลในหลายประเทศได้นำพลเมือง
ศึกษาเป็นส่วนหนึ่งที่บังคับของหลักสูตรในทศวรรษที่ผ่านมา
เพื่อส่งเสริมให้เกิดการทำงานร่วมกันทางสังคมและการมีส่วนร่วมมากขึ้นโดยประชาชนใน
ชีวิตทางสังคมและการเมือง (Euridyce 2005) อาณัติสำหรับ CE นี้สามารถ
มองเห็นเป็นการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงทางสังคมเช่นการเพิ่มขึ้นของรายบุคคล
และการเกิดขึ้นของสังคมพหุวัฒนธรรม (เท่น,
โคแกนกรอสแมน, หลิวและ Pitiyanuwat 2002; Veugelers 2011;
Geijsel, Ledoux, Reumerman และสิบเขื่อน 2012) หรือเหตุการณ์รุนแรง
ในสังคมเช่น 9/11 (Torney-Purta, 2002) ในปี 2005 สภา
ยุโรปประกาศในปีนั้นเป็นปีของยุโรปเป็นพลเมืองที่
ผ่านการศึกษา (Euridyce 2005) และปี 2011 เป็นปีของ
กิจกรรมอาสาสมัครส่งเสริมการเป็นพลเมืองที่ใช้งานอยู่ในโรงเรียนที่
ได้รับการคาดหวังว่าจะมีบทบาทสำคัญ (Euridyce 2012) ในสหรัฐอเมริกา
แม้จะมีความยาวประเพณีของการศึกษาความเป็นพลเมือง (Althof &
Berkowitz, 2006)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

2 . พื้นหลังทางทฤษฎี
2.1 . กรอบการการศึกษา
รัฐบาลในหลายประเทศได้แนะนำพลเมือง
การศึกษาเป็นส่วนบังคับของหลักสูตรในทศวรรษที่ผ่านมาเพื่อเสริมสร้างความสามัคคี และการมีส่วนร่วมทางสังคม

งานมากขึ้นโดยประชาชนในชีวิตสังคมและการเมือง ( euridyce , 2005 ) นี้อาณัติสำหรับ CE สามารถ
เห็นเป็นการตอบสนองกับการเปลี่ยนแปลงทางสังคมเช่นการเพิ่มขึ้นของปัจเจกนิยม
และการเกิดขึ้นของสังคมพหุวัฒนธรรม ( Karsten
โคเกิ้น กรอสแมน , หลิว&สุดา , 2002 ; veugelers 2011 ;
geijsel เลอดูร์ reumerman &สิบ , , , เขื่อน , 2012 ) , หรือฉุนเหตุการณ์
ในสังคมเช่น 9 / 11 ( torney purta 2002 ) ใน 2005 , สภายุโรปได้ประกาศว่าปี

ปีสัญชาติยุโรป ( euridyce ผ่านการศึกษา ,2005 ) และ 2011 เป็นปีของการส่งเสริมความเป็นพลเมืองดีในกิจกรรมงาน

ซึ่งโรงเรียนคาดว่ามีบทบาทสำคัญ ( euridyce , 2012 ) ในสหรัฐอเมริกา
แม้จะมีประเพณีอันยาวนานของการศึกษาความเป็นพลเมือง ( althof &
เบอร์โกวิตซ์ , 2006 )