Acute and chronic malnutrition and

Acute and chronic malnutrition and micronutrient deficiencies have been found in refugee camp populations (1). In southeastern Nepal, despite consistent access by refugees to general rations,* certain micronutrient deficiencies have posed a substantial health burden to the approximately 100,000 Bhutanese residing in seven refugee camps (2). Limited food diversity, frequent illness, and poor feeding practices have been cited as underlying causes of poor nutritional status in this population. Annual surveys to assess levels of acute malnutrition (i.e., wasting) and chronic malnutrition (i.e., stunting) have been conducted in these camps by the Association of Medical Doctors of Asia (AMDA) and United Nations High Commissioner for Refugees (UNHCR); however, the capacity to reliably evaluate micronutrient deficiencies has not existed locally in the camps (3). In January 2007, AMDA and CDC, at the request of UNHCR and the World Food Programme (WFP), conducted a nutritional survey of children aged 6--59 months, assessing 1) the prevalence of acute malnutrition, chronic malnutrition, underweight, anemia, and angular stomatitis (i.e., riboflavin deficiency); 2) the cumulative incidence of diarrhea and acute respiratory illness (ARI); and 3) the feeding practices of the children's mothers. This report describes the results of that survey, which indicated that, although acute malnutrition was found in only 4.2% of the children, chronic malnutrition was found in 26.9% and anemia in 43.3%. These findings underscore the importance of monitoring both malnutrition and micronutrient deficiencies and addressing the underlying causes of nutritional deficits.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ขาดสารอาหารเรื้อรัง และเฉียบพลันและ micronutrient ทรงพบในประชากรค่ายผู้ลี้ภัย (1) ในเนปาลตะวันออกเฉียงใต้ แม้เข้าสอดคล้องโดยผู้ลี้ภัยไปได้ทั่วไป, * บางทรง micronutrient มีอึ้งภาระสุขภาพพบ Bhutanese ประมาณ 100000 ในค่ายผู้ลี้ภัยเจ็ด (2) ความหลากหลายอาหารจำกัด เจ็บป่วยบ่อย และอาหารปฏิบัติจนได้ถูกอ้างเป็นสาเหตุพื้นฐานของโภชนาการที่ไม่ดีในประชากรนี้ แบบสำรวจประจำปีเพื่อประเมินระดับของการขาดสารอาหารเฉียบพลัน (เช่น เสีย) และขาดสารอาหารเรื้อรัง (เช่น stunting) ได้ดำเนินการในค่ายเหล่านี้ โดยสมาคมของแพทย์แพทย์ของเอเชีย (AMDA) และสหประชาชาติข้าสำหรับผู้ลี้ภัย (ยูเอ็นเอชซี); อย่างไรก็ตาม กำลังประเมิน micronutrient ทรงได้มีไม่อยู่ภายในค่าย (3) มกราคม 2550, AMDA และ CDC ขอของยูเอ็นเอชซีในโลกอาหารโครงการ (WFP), ดำเนินการโภชนาการการสำรวจเด็กอายุ 6 - 59 เดือน ประเมิน 1) ความชุกของการขาดสารอาหารเฉียบพลัน ขาดสารอาหารเรื้อรัง underweight โรคโลหิตจาง และแองกูลาร์ stomatitis (เช่น วิตามินขาด); 2)อุบัติการณ์สะสมของโรคท้องร่วงและโรคทางเดินหายใจเฉียบพลัน (อารีย์), และ 3) ปฏิบัติอาหารของมารดาของเด็ก รายงานนี้อธิบายผลลัพธ์ของแบบสำรวจนั้น ซึ่งระบุว่า แม้ว่าการขาดสารอาหารเฉียบพลันพบเพียง 4.2% ของเด็ก ขาดสารอาหารเรื้อรังพบ 26.9% และโรคโลหิตจางใน 43.3% ผลการวิจัยเหล่านี้เน้นความสำคัญของการตรวจสอบยังขาดสารอาหารและ micronutrient และแก้ปัญหาที่ต้นสาเหตุของการขาดดุลทางโภชนาการ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การขาดสารอาหารเฉียบพลันและเรื้อรังและขาดธาตุอาหารที่ได้รับการพบในประชากรที่ค่ายผู้ลี้ภัย (1) ในทิศตะวันออกเฉียงใต้เนปาลแม้จะมีการเข้าถึงที่สอดคล้องกันโดยผู้ลี้ภัยที่จะปันส่วนทั่วไป * ขาดธาตุอาหารบางอย่างได้ถูกวางภาระด้านสุขภาพที่สำคัญที่จะประมาณ 100,000 ภูฏานที่อาศัยอยู่ในค่ายผู้ลี้ภัยเจ็ด (2) ความหลากหลายของอาหาร จำกัด เจ็บป่วยบ่อย, การให้อาหารและการปฏิบัติที่ไม่ดีได้รับการอ้างว่าเป็นสาเหตุของภาวะโภชนาการที่ไม่ดีในประชากรกลุ่มนี้ การสำรวจประจำปีเพื่อประเมินระดับของการขาดสารอาหารเฉียบพลัน (เช่นการสูญเสีย) และการขาดสารอาหารเรื้อรัง (เช่นแคระ) ได้รับการดำเนินการในค่ายเหล่านี้โดยสมาคมแพทย์การแพทย์ของเอเชีย (AMDA) และข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR); แต่ความสามารถในการประเมินความน่าเชื่อถือขาดธาตุอาหารยังไม่ได้มีอยู่ในประเทศในค่าย (3) ในเดือนมกราคมปี 2007 AMDA และ CDC ตามคำร้องขอของ UNHCR และโครงการอาหารโลก (WFP) ดำเนินการสำรวจทางโภชนาการของเด็กอายุ 6--59 เดือนที่ประเมิน 1) ความชุกของภาวะขาดสารอาหารที่ขาดสารอาหารเรื้อรังหนักโรคโลหิตจาง และเปื่อยเชิงมุม (เช่นขาด riboflavin); 2) อุบัติการณ์สะสมของโรคอุจจาระร่วงและความเจ็บป่วยทางเดินหายใจเฉียบพลัน (ARI); และ 3) การปฏิบัติที่เลี้ยงลูกด้วยนมของมารดาเด็ก รายงานนี้จะอธิบายถึงผลการสำรวจที่ซึ่งชี้ให้เห็นว่าแม้จะมีภาวะขาดสารอาหารที่พบในเพียง 4.2% ของเด็กที่ขาดสารอาหารเรื้อรังที่พบใน 26.9% และโรคโลหิตจางใน 43.3% การค้นพบนี้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการตรวจสอบทั้งการขาดสารอาหารและการขาดธาตุอาหารและที่อยู่สาเหตุของการขาดดุลทางโภชนาการ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เฉียบพลันและเรื้อรัง ขาดอาหารเสริมข้อบกพร่องได้รับการพบในประชากรผู้ลี้ภัย ( 1 ) ในประเทศเนปาล Southeastern แม้จะสอดคล้องเข้าถึงโดยผู้อพยพอาหารทั่วไป * บางชนิดขาดแคลนทำให้เกิดภาระสุขภาพมากถึงประมาณ 100000 อาศัยอยู่ในค่ายผู้ลี้ภัยชาวภูฏาน 7 ( 2 ) จำกัดอาหารความหลากหลาย เจ็บป่วยบ่อย ๆและคนจน การให้การปฏิบัติได้รับการอ้างเป็นสาเหตุของภาวะโภชนาการที่ไม่ดีในกลุ่มนี้ด้วย ประจำปีการสำรวจเพื่อประเมินระดับการขาดสารอาหารเฉียบพลัน ( เช่นการสูญเสีย ) และ ขาดอาหารเรื้อรัง ( เช่น stunting ) ได้ดำเนินการในค่ายนี้ โดยสมาคมแพทย์แห่งเอเชีย ( แอมดา ) และสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ ( UNHCR ) ; อย่างไรก็ตามความสามารถที่จะได้ประเมินชนิดข้อบกพร่องไม่ได้มีอยู่เฉพาะในค่าย ( 3 ) ในเดือนมกราคม 2007 , แอมดา และ CDC ที่ร้องขอของยูเอ็นเอชซีอาร์ และโครงการอาหารโลก ( ผู้อำนวยการ ) ได้ดำเนินการสำรวจภาวะโภชนาการของเด็กอายุ 6 - 14 เดือน ประเมิน 1 ) ความชุกของภาวะทุพโภชนาการ , โรคขาดสารอาหาร โลหิตจางเรื้อรัง underweight และเชิงมุม stomatitis ( เช่นการขาดวิตามินบี 2 ) 2 ) การสะสมของโรคท้องร่วงและโรคทางเดินหายใจเฉียบพลัน ( อารี ) ; และ 3 ) การให้การปฏิบัติของมารดาของเด็ก รายงานนี้กล่าวถึงผลของการสำรวจ ซึ่งระบุว่า แม้ว่าการขาดสารอาหารเฉียบพลัน พบเพียง 4.2% ของเด็กขาดอาหารเรื้อรัง พบใน 26.9 % และภาวะโลหิตจางใน 43.3 %การศึกษานี้เน้นย้ำความสำคัญของการตรวจสอบทั้งขาดสารอาหารเสริมข้อบกพร่องและแก้ไขสาเหตุของการโภชนาการ