After you have selected and focused

After you have selected and focused a research topic and become familiar with your
library’s resources your next step will be to identify specific sources that may help you
develop your topic. The place to begin is with the library’s reference guides: subject indexes,
bibliographic indexes, periodical indexes, reference works, and the book catalogs. Some of
these reference sources may have been used as part of your topic selection process, but now,
you need to return to them and the other reference guides that are appropriate to your
particular topic to conduct a systematic and thorough search for sources. As you find works
whose titles suggest that they will be useful to you, you need to take down the bibliographic
information about each work, again in a systematic and thorough fashion, to prepare a
preliminary or working bibliography.



A bibliography is a list of research sources. At the final steps of your research report
is to type a list of works cited at the end of your paper that is a formal bibliography or listing
of all the sources you have used in writing it. For now, your task is to continue gathering
sources; that is, you need to use the library indexes and other research tools to locate books
and articles for your paper. The list of possible sources you draw up now as you begin your
research is your working bibliography.





A working bibliography is a list of sources relevant to your topic. It is tentative,
informal and practical. You can add the working bibliography during the course of your
project as you discover additional sources and you subtract from it as some sources and lists
turn out not to be helpful. The only requirement for a good working bibliography is that you
are able to use it conveniently. Since it is for your own use- you can record the information
you need in any way you like. For example, when you find a likely book from a subject
citation in the OPAC, you can jot down in your notebook the key information that will enable
you to locate it- perhaps only its title and call number. On the other hand, there are
advantages to including more complete information in your working bibliography. In that you
will use this information later, at the end of the project, when you type your works-cited
page. Therefore, you save considerable time including your working bibliography all the
information you will need later. For that reason, it is important for you to be acquainted with
the standard convention for citing sources. You will use a list of sources in three important
ways:
1. To survey your proposed topic to determine that sources are available to complete a
research project.
2. To find the specific works on the list for study and note-taking.
3. To prepare the proper documentation of the sources used in your research.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

หลังจากคุณได้เลือก และเน้นหัวข้อวิจัย และคุ้นเคยกับคุณ ขั้นตอนถัดไปของคุณจะระบุแหล่งที่มาเฉพาะที่ทรัพยากรของห้องสมุด พัฒนาของหัวข้อ สถานที่เริ่มต้นเป็นคู่มืออ้างอิงไลบรารี: เรื่องดัชนี บรรณานุกรมดัชนี ดัชนีเป็นครั้งคราว ผลงานอ้างอิง และแค็ตตาล็อกหนังสือ บาง แหล่งอ้างอิงเหล่านี้อาจถูกนำมาใช้เป็นส่วนหนึ่งของการเลือกหัวข้อ แต่ตอนนี้ คุณต้องคืนเขาไป และคู่มืออ้างอิงอื่น ๆ ที่เหมาะสมของคุณ หัวข้อที่เฉพาะเพื่อทำการค้นหาระบบ และทั่วถึงสำหรับแหล่ง ตามหางาน ชื่อเรื่องแนะนำว่า จะมีประโยชน์สำหรับคุณ คุณจำเป็นต้องใช้ลงในบรรณานุกรม ข้อมูลเกี่ยวกับแต่ละงาน อีกครั้งในระบบ และอย่างละเอียด การเตรียมการ เบื้องต้นหรือการทำบรรณานุกรม บรรณานุกรมสำหรับแหล่งงานวิจัยต่าง ๆ ได้ ในขั้นตอนสุดท้ายของรายงานวิจัย การพิมพ์รายการของงานที่อ้างถึงในตอนท้ายของกระดาษที่เป็นข้อมูลทางบรรณานุกรมหรือรายการ ของแหล่งคุณใช้ในการเขียนนั้น สำหรับตอนนี้ งานของคุณคือการรวบรวม แหล่งข้อมูล นั่นคือ คุณจำเป็นต้องใช้ดัชนีไลบรารีและเครื่องมือวิจัยเพื่อค้นหาหนังสือ และบทความในเอกสารของคุณ รายการของคุณวาดขึ้นมาขณะที่คุณเริ่มต้นของคุณ การวิจัยเป็นการทำบรรณานุกรมบรรณานุกรมสำหรับทำเป็นรายการของแหล่งที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อของคุณ จึงไม่แน่นอน ไม่เป็นทางการ และภาคปฏิบัติ คุณสามารถเพิ่มรายชื่อผลงานทำในระหว่างหลักสูตรของคุณ โครงการคุณค้นพบแหล่งเพิ่มเติม และคุณลบจากบางแหล่งและรายการ เปิดออกมาไม่มีประโยชน์ ข้อกำหนดเฉพาะสำหรับบรรณานุกรมทำงานดีคือคุณ จะสามารถใช้บริการ เนื่องจากเป็นการใช้คุณ - คุณสามารถบันทึกข้อมูล คุณต้องการในได้ตามที่คุณต้องการ ตัวอย่าง เมื่อคุณค้นหาหนังสือแนวโน้มจากเรื่อง อ้างอิงใน OPAC คุณสามารถจดในสมุดบันทึกของคุณข้อมูลที่สำคัญที่จะช่วยให้ คุณสามารถค้นหาได้ - อาจเป็นชื่อเรื่องและเลขเรียก บนมืออื่น ๆ มี ประโยชน์การรวมข้อมูลสมบูรณ์ในบรรณานุกรมสำหรับการทำงานของคุณ ที่คุณ จะใช้ข้อมูลนี้ในภายหลัง ที่จุดสิ้นสุดของโครงการ เมื่อคุณพิมพ์การทำงานอ้าง หน้า ดังนั้น บันทึกระยะเวลาพอสมควรรวมทั้งบรรณานุกรมงานของคุณทั้งหมด ข้อมูลที่คุณจะต้องในภายหลัง เหตุผล เป็นสิ่งสำคัญสำหรับคุณจะทำความคุ้นเคยกับ อนุสัญญาว่าด้วยมาตรฐานการอ้างถึงแหล่งที่มา คุณจะใช้รายการของแหล่งที่มาในสามที่สำคัญ วิธี: 1. การสำรวจหัวข้อนำเสนอของคุณเพื่อตรวจสอบว่า มีการทำแหล่ง โครงการวิจัย 2. การค้นหางานเฉพาะบนรายการการศึกษาและบันทึกย่อ 3. การเตรียมเอกสารที่เหมาะสมของแหล่งที่ใช้ในการวิจัยของคุณ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

หลังจากที่คุณได้เลือกและมุ่งเน้นหัวข้องานวิจัยและทำความคุ้นเคยกับ
ทรัพยากรของห้องสมุดขั้นตอนต่อไปของคุณจะได้รับการระบุแหล่งที่มาเฉพาะที่อาจช่วยให้คุณ
พัฒนาหัวข้อของคุณ สถานที่ที่จะเริ่มต้นอยู่กับคำแนะนำของห้องสมุดอ้างอิง: ดัชนีเรื่อง
ดัชนีบรรณานุกรมดัชนีวารสารงานอ้างอิงและแคตตาล็อกหนังสือเล่มนี้ บางส่วนของ
แหล่งที่มาของการอ้างอิงเหล่านี้อาจถูกนำมาใช้เป็นส่วนหนึ่งของขั้นตอนการเลือกหัวข้อของคุณ แต่ตอนนี้
คุณต้องกลับไปที่พวกเขาและคู่มืออ้างอิงอื่น ๆ ที่เหมาะสมกับคุณ
หัวข้อเฉพาะเพื่อดำเนินการค้นหาอย่างเป็นระบบและทั่วถึงสำหรับแหล่งที่มา ในขณะที่คุณพบกับผลงาน
ที่มีชื่อแสดงให้เห็นว่าพวกเขาจะเป็นประโยชน์กับคุณที่คุณต้องการที่จะลงบรรณานุกรม
ข้อมูลเกี่ยวกับการทำงานในแต่ละครั้งในแฟชั่นเป็นระบบและอย่างละเอียดเพื่อเตรียมความพร้อม
บรรณานุกรมเบื้องต้นหรือการทำงานโดยสังเขปคือรายการของการวิจัย แหล่งที่มา ที่ขั้นตอนสุดท้ายของรายงานการวิจัยของคุณคือการพิมพ์รายชื่อของผลงานที่อ้างถึงในตอนท้ายของกระดาษของคุณที่เป็นบรรณานุกรมที่เป็นทางการหรือรายการของแหล่งที่มาที่คุณได้นำมาใช้ในการเขียน สำหรับตอนนี้งานของคุณคือเพื่อดำเนินการต่อการรวบรวมแหล่งที่มา; นั่นคือคุณต้องใช้ดัชนีห้องสมุดและเครื่องมือในการวิจัยอื่น ๆ ที่จะหาหนังสือและบทความสำหรับกระดาษของคุณ รายชื่อของแหล่งที่มาที่เป็นไปได้ที่คุณวาดขึ้นตอนนี้เมื่อคุณเริ่มต้นของการวิจัยคือการทำงานของคุณบรรณานุกรมบรรณานุกรมทำงานคือรายการของแหล่งที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อของคุณ มันเป็นเบื้องต้นทางการและในทางปฏิบัติ คุณสามารถเพิ่มบรรณานุกรมทำงานในช่วงของโครงการในขณะที่คุณค้นพบแหล่งที่มาเพิ่มเติมและคุณลบจากมันเป็นแหล่งที่มาบางส่วนและรายชื่อเปิดออกไม่ได้ที่จะเป็นประโยชน์ ข้อกำหนดเพียงอย่างเดียวสำหรับบรรณานุกรมการทำงานที่ดีคือการที่คุณจะสามารถใช้งานได้สะดวก เพราะมันเป็นสำหรับ use- คุณเองคุณสามารถบันทึกข้อมูลที่คุณต้องการในแบบที่คุณต้องการใด ๆ ตัวอย่างเช่นเมื่อคุณพบหนังสือที่น่าจะมาจากเรื่องที่อ้างอิงใน OPAC คุณสามารถจดในสมุดบันทึกของคุณข้อมูลที่สำคัญที่จะช่วยให้คุณสามารถค้นหาทีอาจจะเป็นเพียงชื่อและโทรไปยังหมายเลข ในขณะที่ยังมีข้อได้เปรียบที่จะรวมถึงข้อมูลที่สมบูรณ์มากขึ้นในการทำงานของคุณบรรณานุกรม ในการที่คุณจะใช้ข้อมูลนี้ในภายหลังในช่วงปลายของโครงการเมื่อคุณพิมพ์งานของคุณอ้างถึงหน้า ดังนั้นคุณประหยัดเวลามากรวมทั้งบรรณานุกรมการทำงานของคุณทุกข้อมูลที่คุณจะต้องในภายหลัง สำหรับเหตุผลที่มันเป็นสิ่งสำคัญสำหรับคุณที่จะทำความคุ้นเคยกับการประชุมมาตรฐานสำหรับการอ้างอิงแหล่งที่มา คุณจะใช้รายการของแหล่งที่มาที่สำคัญในสามวิธี: 1 เพื่อสำรวจหัวข้อที่นำเสนอของคุณเพื่อตรวจสอบว่าแหล่งที่มาที่มีอยู่ในการดำเนินการโครงการวิจัย2 ที่จะหางานที่เฉพาะเจาะจงในรายการเพื่อการศึกษาและจดบันทึก3 เพื่อเตรียมความพร้อมเอกสารที่ถูกต้องของแหล่งที่มาที่ใช้ในการวิจัยของคุณ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

หลังจากที่คุณได้เลือกและมุ่งเน้นหัวข้อวิจัย และคุ้นเคยกับทรัพยากรของคุณ
ห้องสมุดเป็นขั้นตอนต่อไปของคุณจะถูกระบุแหล่งที่เฉพาะเจาะจงที่อาจช่วยให้คุณ
พัฒนาหัวข้อของคุณ สถานที่ที่จะเริ่มต้นเป็นคู่มืออ้างอิงของห้องสมุด : ดัชนีเรื่อง
บรรณานุกรมดัชนี ดัชนีวารสาร งานอ้างอิงและหนังสือแคตตาล็อก บางส่วนของ
แหล่งอ้างอิงเหล่านี้อาจจะถูกใช้เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการ การเลือกหัวข้อของคุณแต่ตอนนี้
คุณต้องกลับไปกับพวกเขา และ อ้างอิงอื่น ๆที่เหมาะสมกับของคุณ
โดยเฉพาะหัวข้อเพื่อทำการค้นอย่างเป็นระบบและทั่วถึงสำหรับแหล่งข้อมูล ในขณะที่คุณค้นหางาน
ที่มีชื่อแนะนำว่าพวกเขาจะเป็นประโยชน์กับคุณ คุณต้องลงบรรณานุกรม
ข้อมูลเกี่ยวกับแต่ละงานอีกครั้งในแฟชั่นอย่างเป็นระบบและทั่วถึง เพื่อเตรียม
เบื้องต้น หรืออ้างอิงงาน



a บรรณานุกรม คือ รายชื่อของแหล่งที่มาของการวิจัย . ในขั้นตอนสุดท้ายของรายงานวิจัยของคุณจะพิมพ์รายการของงานอ้างในตอนท้ายของกระดาษของคุณที่เป็นทางการหรือรายการบรรณานุกรม
ทุกแหล่งที่เธอใช้ในการเขียนมัน ตอนนี้งานของคุณคือการรวบรวมแหล่งต่อไป
;นั่นคือคุณต้องใช้ห้องสมุดดัชนีและเครื่องมือในการวิจัยอื่น ๆเพื่อค้นหาหนังสือ
และบทความสำหรับกระดาษของคุณ รายการของแหล่งที่เป็นไปได้ที่คุณวาดขึ้นเมื่อคุณเริ่มต้นงานวิจัยของคุณ
เป็นบรรณานุกรมในการทำงานของคุณ





บรรณานุกรมงานรายการของแหล่งที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อของคุณ มันเป็นไปได้
อย่างไม่เป็นทางการ และปฏิบัติ คุณสามารถเพิ่มเอกสารการทำงานในระหว่างหลักสูตรของ
โครงการที่คุณค้นพบแหล่งข้อมูลเพิ่มเติมและลบออกจากมันตามที่บางแหล่งและรายชื่อ
เป็นประโยชน์ ความต้องการเฉพาะสำหรับการทำงานที่ดีบรรณานุกรมคือคุณ
จะสามารถใช้มันได้สะดวก เพราะมันเป็นสำหรับการใช้งานของคุณเอง คุณสามารถบันทึกข้อมูล
คุณต้องการในแบบที่คุณชอบใด ๆ . ตัวอย่างเช่น เมื่อคุณค้นหาหนังสือแนวโน้มจากการอ้างอิงในหนังสือเรื่อง
,คุณสามารถจดลงในสมุดบันทึกของคุณ คีย์ข้อมูลที่จะช่วยให้คุณค้นหา
- บางทีแค่ชื่อของมันและเรียกหมายเลข บนมืออื่น ๆ ที่มีประโยชน์ ได้แก่ สมบูรณ์มากขึ้น
ข้อมูลบรรณานุกรมในการทำงานของคุณ ที่คุณ
จะใช้ข้อมูลนี้ในภายหลัง เมื่อสิ้นสุดโครงการ เมื่อคุณพิมพ์งานของคุณอ้าง
หน้า ดังนั้นคุณประหยัดเวลารวมทั้งบรรณานุกรมทำงานทั้งหมดของคุณ
ข้อมูลคุณจะต้องทีหลัง สำหรับเหตุผลที่ มันเป็นสิ่งสำคัญสำหรับคุณที่จะคุ้นเคยกับ
การประชุมมาตรฐานอ้างถึงแหล่งที่มา คุณจะใช้รายการของแหล่งที่มาในสามวิธีที่สำคัญ
:
1 สำรวจหัวข้อที่นำเสนอของคุณเพื่อตรวจสอบว่าแหล่งที่มาพร้อมสมบูรณ์
โครงการวิจัย
2 .ค้นหางานที่เฉพาะเจาะจงในรายการเพื่อการศึกษาและจดบันทึก .
3 เตรียมเอกสารที่เหมาะสมของแหล่งข้อมูลที่ใช้ในการวิจัย