Indonesia is a leading global suppl

Indonesia is a leading global supplier of cooking oil [1]. Domestically, fortification of unbranded cooking oil has proven to be the most suitable food vehicle to increase vitamin A intake on a pilot and large-scale basis in Indonesia [2]. Fortification of cooking oil with retinyl palmitate, which reaches 94% of Indonesian families, will ensure that women will receive 54% and children 51% to 57% of their estimated average requirement (EAR) for vitamin A [2]. As highlighted by Soekirman et al. [1], most of the cooking oil industry in Indonesia has expressed a desire to start fortification of cooking oil, since the additional cost to the industry is limited (US$1.71/Metric Tonnes). However, even as cooking oil fortification with retinyl palmitate is recognized as cost-effective and simple to implement [3], the quality of cooking oil (assessed by peroxide values) prior to fortification has been highlighted in a recent study from Egypt [4] as a potential barrier to ensuring the stability of retinyl palmitate. The oxidation level greatly interacts with the stability of vitamin A added to the oil. Vitamin A oxidizes faster and loses its activity in the presence of highly-oxidized oils (with a high level of peroxide) [5].
The Egyptian study found an increase in vitamin A decay once the peroxide levels in oil were more than 2 mEq of active oxygen per kilogram and recommended that before any national fortification program is implemented, the losses of vitamin A due to the quality of cooking oil be estimated. A 2011–2012 SEAFAST (Southeast Asia Food and Agricultural Science and Technology Center) study on the quality of unbranded bulk palm cooking oil (to be referred to as “cooking oil” in this document) in Indonesia showed that the quality of cooking oil at the point of manufacture and at the distributor was inconsistent. For example, the peroxide value (PV) of cooking oil analyzed ranged between 0 and 8.94 mEq O2/kg [6].
Although a medium-scale project of fortified cooking oil is already on-going and has shown consumer acceptance in Indonesia [1], there have been no studies undertaken in Indonesia to evaluate the stability of added vitamin A in cooking oil, especially when stored at various temperatures. Therefore, the aim of this study was to investigate the shelf life of cooking oil and the stability of vitamin A added to cooking oils with three different qualities as defined by peroxide content. The findings have implications for (i) the amounts of vitamin A to be added by the producers in order to ensure that the cooking oil is fortified following the national guidelines and (ii) the possibility of fortifying highly-oxidized cooking oil.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

อินโดนีเซียเป็นผู้จัดจำหน่ายชั้นนำระดับโลกของน้ำมันปรุงอาหาร [1] ประเทศป้อมปราการของน้ำมันปรุงอาหาร unbranded ได้พิสูจน์ให้เป็นรถอาหารที่เหมาะสมที่สุดในการเพิ่มการบริโภควิตามินบนนักบินและพื้นฐานขนาดใหญ่ในประเทศอินโดนีเซีย [2] ป้อมปราการของน้ำมันปรุงอาหารด้วย retinyl palmitate ซึ่งถึง 94% ของครอบครัวอินโดนีเซียจะให้แน่ใจว่าผู้หญิงจะได้รับ 54% และเด็ก 51% ถึง 57% ของความต้องการของพวกเขาเฉลี่ยประมาณ (EAR) สำหรับวิตามิน [2] ในฐานะที่เป็นไฮไลต์ Soekirman et al, [1] ส่วนใหญ่ของอุตสาหกรรมน้ำมันปรุงอาหารในประเทศอินโดนีเซียได้แสดงความปรารถนาที่จะเริ่มต้นการป้องกันของน้ำมันปรุงอาหารตั้งแต่ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมให้กับอุตสาหกรรมที่มี จำกัด (US $ 1.71 / ตัน) อย่างไรก็ตามแม้ในขณะที่การปรุงอาหารป้องกันน้ำมันที่มี palmitate retinyl รับรู้เป็นค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพและง่ายที่จะใช้ [3], ที่มีคุณภาพของน้ำมันปรุงอาหาร (ประเมินโดยค่าเปอร์ออกไซด์) ก่อนที่จะมีการป้องกันได้รับการเน้นในการศึกษาล่าสุดจากอียิปต์ [4] เป็นอุปสรรคที่อาจเกิดขึ้นเพื่อให้มั่นใจเสถียรภาพของ retinyl palmitate ระดับการเกิดออกซิเดชันมากโต้ตอบกับความมั่นคงของวิตามินเพิ่มลงในน้ำมัน วิตามินเอ oxidizes ได้เร็วขึ้นและสูญเสียกิจกรรมในการปรากฏตัวของน้ำมันสูงออกซิไดซ์ (ที่มีระดับสูงของเปอร์ออกไซด์) [5].
การศึกษาอียิปต์พบว่าการเพิ่มขึ้นของวิตามินผุครั้งเดียวในระดับเปอร์ออกไซด์ในน้ำมันได้มากขึ้นกว่า 2 mEq ของ ออกซิเจนที่ใช้งานต่อกิโลกรัมและแนะนำว่าก่อนที่โปรแกรมป้อมปราการแห่งชาติจะดำเนินการใด ๆ การสูญเสียของวิตามินเนื่องจากคุณภาพของน้ำมันปรุงอาหารจะประมาณ 2011-2012 SEAFAST (เอเชียตะวันออกเฉียงใต้อาหารและการเกษตรวิทยาศาสตร์และศูนย์เทคโนโลยี) การศึกษาเกี่ยวกับคุณภาพของการปรุงอาหารกลุ่มปาล์มน้ำมันตีตรา (เพื่อจะเรียกว่า "น้ำมันปรุงอาหาร" ในเอกสารนี้) ในอินโดนีเซียแสดงให้เห็นว่าคุณภาพของการปรุงอาหารน้ำมันที่ จุดของการผลิตและการจัดจำหน่ายที่ได้ไม่สอดคล้องกัน ตัวอย่างเช่นค่าเปอร์ออกไซด์ (PV) ของน้ำมันปรุงอาหารการวิเคราะห์อยู่ในช่วงระหว่าง 0 และ 8.94 mEq O2 / กก [6].
แม้จะเป็นโครงการขนาดกลางของน้ำมันปรุงอาหารเสริมที่มีอยู่แล้วบนไปและได้แสดงให้เห็นการยอมรับของผู้บริโภคในประเทศอินโดนีเซีย [1 ] มีการศึกษาไม่มีการดำเนินการในประเทศอินโดนีเซียในการประเมินความมั่นคงของวิตามินเพิ่มในน้ำมันปรุงอาหารโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเก็บไว้ที่อุณหภูมิต่างๆ ดังนั้นจุดมุ่งหมายของการศึกษาครั้งนี้คือการตรวจสอบอายุการเก็บรักษาของน้ำมันปรุงอาหารและความมั่นคงของวิตามินเพิ่มน้ำมันปรุงอาหารด้วยสามคุณภาพที่แตกต่างกันตามที่กำหนดโดยเนื้อหาเปอร์ออกไซด์ ผลการวิจัยที่มีผลกระทบต่อ (i) ปริมาณของวิตามินที่จะเพิ่มโดยผู้ผลิตในการสั่งซื้อเพื่อให้แน่ใจว่าน้ำมันปรุงอาหารที่มีการเสริมต่อไปนี้แนวทางแห่งชาติและ (ii) ความเป็นไปได้ของการให้กำลังใจน้ำมันปรุงอาหารสูงออกซิไดซ์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

อินโดนีเซียเป็นผู้ผลิตชั้นนำระดับโลกของน้ำมันปรุงอาหาร [ 1 ] ในป้อมปราการของน้ำมันปรุงอาหาร unbranded ได้พิสูจน์เป็น ยานพาหนะ อาหารที่เหมาะสมที่สุดเพื่อเพิ่มวิตามินต่อนักบินและพื้นฐานขนาดใหญ่ในอินโดนีเซีย [ 2 ] ป้อมปราการของน้ำมันปรุงอาหารด้วย Retinyl Palmitate ซึ่งถึง 94% ของครอบครัวในอินโดนีเซียจะให้แน่ใจว่า ผู้หญิงจะได้รับ 54% และเด็กร้อยละ 51 ถึง 57 ของพวกเขาเฉลี่ยประมาณความต้องการ ( หู ) สำหรับวิตามิน A [ 2 ] เป็นไฮไลต์โดย soekirman et al . [ 1 ] ที่สุดของน้ำมันปรุงอาหารอุตสาหกรรมในอินโดนีเซีย ได้แสดงความปรารถนาที่จะเริ่มต้นการเสริมน้ำมันปรุงอาหาร เนื่องจากต้นทุนเพิ่มเติมเพื่ออุตสาหกรรมจำกัด ( US $ 1.71/metric ตัน ) อย่างไรก็ตามเช่นเดียวกับน้ำมันปรุงอาหารเสริมมากที่สุดได้รับการยอมรับเป็นค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพและง่ายต่อการใช้งาน [ 3 ] คุณภาพของน้ำมันปรุงอาหาร ( ประเมินโดยใช้ค่าเปอร์ออกไซด์ ) ก่อนการได้รับการเน้นในการศึกษาล่าสุดจากอียิปต์ [ 4 ] เป็นอุปสรรคที่อาจเกิดขึ้นเพื่อให้มั่นใจเสถียรภาพของ Retinyl Palmitate .ระดับการตอบสนองอย่างมากกับความมั่นคงของ วิตามิน เพิ่มน้ำมัน วิตามิน oxidizes เร็วและสูญเสียกิจกรรมของต่อหน้าสูงจากน้ำมัน ( ที่มีระดับสูงของเปอร์ออกไซด์ )
[ 5 ]การศึกษาอียิปต์พบเพิ่มขึ้นในวิตามินสลายเมื่อเปอร์ออกไซด์ระดับในน้ำมันมากกว่า 2 แบบวัดออกซิเจนใช้งานต่อ กิโลกรัม และแนะนำโปรแกรมเสริมก่อนชาติใดดำเนินการ ขาดทุนของวิตามินเอ เนื่องจากคุณภาพของน้ำมันปรุงอาหารได้พอดี2011 – 2012 seafast ( เอเชียวิทยาศาสตร์การอาหารและการเกษตรและเทคโนโลยี ) การศึกษาคุณภาพของ unbranded เป็นกลุ่มน้ํามันปาล์ม ( จะเรียกว่า " น้ำมัน " ในเอกสารนี้ ) ในอินโดนีเซีย พบว่าคุณภาพของน้ำมันปรุงอาหารที่จุดของการผลิต และที่จำหน่ายถูกไม่สอดคล้องกัน ตัวอย่างเช่นค่าเปอร์ออกไซด์ ( PV ) ของน้ำมันปรุงอาหารที่วิเคราะห์มีค่าระหว่าง 0 และ 8.94 meq / kg O2 [ 6 ] .
ถึงแม้ว่าขนาดกลางโครงการน้ำมันปรุงอาหารเสริมได้ต่อไป และได้แสดงการยอมรับของผู้บริโภคในอินโดนีเซีย [ 1 ] , มีการไม่มีการศึกษาปัญหา ในอินโดนีเซีย เพื่อประเมินความมั่นคงของการเพิ่มวิตามินใน น้ำมันปรุงอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเก็บไว้ที่อุณหภูมิต่าง ๆ ดังนั้นจุดมุ่งหมายของการศึกษานี้คือ เพื่อศึกษาอายุการเก็บรักษาของน้ำมันปรุงอาหาร และความคงตัวของวิตามินเพิ่มน้ำมันปรุงอาหารที่มีสามคุณภาพที่แตกต่างกันตามที่กำหนดโดยปริมาณเปอร์ออกไซด์ผลการวิจัยมีข้อเสนอแนะ ( ฉัน ) ปริมาณของวิตามินจะเพิ่มโดยผู้ผลิตในการสั่งซื้อเพื่อให้แน่ใจว่าน้ำมันจะเสริมตามแนวทางแห่งชาติ และ ( 2 ) ความเป็นไปได้ของ fortifying สูงจากน้ำมันทำอาหาร