Vietnam Vietnam, a one-party Commun

Vietnam
Vietnam, a one-party Communist state, has one of south-east Asia's fastest-growing economies and has set its sights on becoming a developed nation by 2020.
It became a unified country once more in 1975 when the armed forces of the Communist north seized the south.
This followed three decades of bitter wars, in which the Communists fought first against the colonial power France, then against South Vietnam and its US backers. In its latter stages, the conflict held the attention of the world.
The US joined the hostilities in order to stem the "domino effect" of successive countries falling to Communism.
The war produced heavy casualties on both sides, atrocities against civilians, and the indiscriminate destruction and contamination of much of the landscape.
A visit to Vietnam by US President Bill Clinton in November 2000 was presented as the culmination of American efforts to normalise relations with the former enemy.
Vietnam struggled to find its feet after unification and tried at first to organise the agricultural economy along strict collectivist lines.
But elements of market forces and private enterprise were introduced from the late 1980s and a stock exchange opened in 2000.
Foreign investment has grown and the US is Vietnam's main trading partner. In the cities, the consumer market is fuelled by the appetite of a young, middle class for electronic and luxury goods. After 12 years of negotiations the country joined the World Trade Organization in January 2007.
But the disparity in wealth between urban and rural Vietnam is wide and some Communist Party leaders worry that too much economic liberalisation will weaken their power base.
Despite pursuing economic reform, the ruling Communist Party shows little willingness to give up its monopoly on political power.
Vietnam actively suppresses political dissent and religious freedom. Rights groups have singled out Hanoi's treatment of ethnic minority hill tribe people, collectively known as Montagnards.
The human rights advocacy group Amnesty International says in a 2011 report that ''more than a dozen activists were convicted in faulty trials simply because they had peacefully voiced criticism of government policies''. A new wave of subversion trials began in 2013.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เวียดนาม เวียดนาม รัฐคอมมิวนิสต์พรรคเดียว มีเศรษฐกิจเร็วที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และมีแหล่งที่ตั้งเป็น ประเทศที่พัฒนาแล้วโดย 2020มันกลายเป็นประเทศรวมอีกครั้งในปี 1975 เมื่อทัพเหนือคอมมิวนิสต์ยึดภาคใต้ทศวรรษที่สามของสงครามขม ที่คอมมิวนิสต์สู้รบครั้งแรกกับอำนาจอาณานิคมฝรั่งเศส แล้วต่อเวียดนามใต้และสหรัฐฯ backers ของตามนี้ ในระยะหลังของ ความขัดแย้งถือความสนใจของโลกสหรัฐฯ เข้าร่วมการสู้รบเพื่อให้เกิด "ผลกระทบต่อ" ต่อประเทศคอมมิวนิสต์ลงสงครามผลิตหนักหนักทั้งด้าน ในยามสงครามพลเรือน และเลือกทำลาย และปนเปื้อนของของภูมิทัศน์เยือนเวียดนามโดยสหรัฐอเมริกาประธานาธิบดีบิลคลินตันในเดือน 2000 พฤศจิกายนถูกนำเสนอเป็นสุดยอดของอเมริกันพยายาม normalise สัมพันธ์กับศัตรูเก่าเวียดนามต่อสู้หาเท้าความหลังรวมกัน และพยายามที่แหล่งเศรษฐกิจเกษตรตามบรรทัด collectivist ที่เข้มงวดแต่องค์ประกอบของกลไกตลาดและองค์กรเอกชนได้นำจากปลายทศวรรษ 1980 และการแลกเปลี่ยนหุ้นเปิด 2000มีพัฒนาลงทุนต่างประเทศ และสหรัฐอเมริกาเป็นคู่ค้าหลักของเวียดนาม ในเมือง ตลาดผู้บริโภคเติมพลัง ด้วยอาหารของชั้นกลางหนุ่ม อิเล็กทรอนิกส์ และสินค้าฟุ่มเฟือย หลังจาก 12 ปีของการเจรจา ประเทศเข้าร่วมองค์การการค้าโลกในเดือน 2007 มกราคมแต่ disparity ในความมั่งคั่งระหว่างเขตเมือง และชนบทเวียดนามเป็นกว้าง และผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์บางกังวลว่า การเปิดเสรีทางเศรษฐกิจมากเกินไปจะลดลงฐานอำนาจของพวกเขาแม้จะใฝ่หาการปฏิรูปเศรษฐกิจ พรรคคอมมิวนิสต์หุแสดงความตั้งใจน้อยให้ผูกขาดของพลังทางการเมืองเวียดนามอย่างไม่ใส่ dissent ทางการเมืองและเสรีภาพทางศาสนา กลุ่มสิทธิได้กลั่นบำบัดของฮานอยคนชาวเขาชนกลุ่มน้อย โดยรวมเรียกว่า Montagnardsกลุ่มสิทธิมนุษยชนหลุยนิรโทษกรรมนานาชาติกล่าวว่า ในรายงาน 2011 ที่ '' มากกว่าโหลนักเคลื่อนไหวมีประวัติในการทดลองที่ผิดพลาดเพียง เพราะพวกเขาสงบเสียงวิจารณ์นโยบายรัฐบาล '' เริ่มคลื่นใหม่ของทดลองโค่นล้มในปี 2013

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เวียดนาม
เวียดนามเป็นหนึ่งในบุคคลที่รัฐคอมมิวนิสต์แห่งหนึ่งของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศเศรษฐกิจที่เติบโตเร็วที่สุดและได้กำหนดสถานที่ในการเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วในปี 2020
มันก็กลายเป็นประเทศแบบครบวงจรอีกครั้งในปี 1975 เมื่อกองกำลังติดอาวุธของพรรคคอมมิวนิสต์ ทิศเหนือทิศใต้ยึด.
นี้ตามสามทศวรรษของสงครามขมซึ่งคอมมิวนิสต์ต่อสู้ครั้งแรกกับอำนาจอาณานิคมฝรั่งเศสแล้วกับทางใต้ของประเทศเวียดนามและสหรัฐเป็นอันมาก ในระยะหลังของความขัดแย้งที่จัดขึ้นความสนใจของโลก.
สหรัฐเข้าร่วมสงครามเพื่อที่จะเกิด "ผลกระทบโดมิโน" ของประเทศต่อเนื่องลงไปคอมมิวนิสต์.
สงครามผลิตบาดเจ็บหนักทั้งสองด้านโหดกับพลเรือนและ ทำลายตามอำเภอใจและการปนเปื้อนของมากของภูมิทัศน์.
ไปเยือนเวียดนามโดยสหรัฐประธานาธิบดีบิลคลินตันในเดือนพฤศจิกายน 2000 นำเสนอเป็นสุดยอดของความพยายามของชาวอเมริกันที่จะปรับความสัมพันธ์กับอดีตศัตรู.
เวียดนามพยายามที่จะหาเท้าของมันหลังจากการรวมกันและพยายามที่ในตอนแรก ในการจัดระเบียบเศรษฐกิจการเกษตรตามแนวฝ่ายซ้ายอย่างเคร่งครัด.
แต่องค์ประกอบของกลไกตลาดและองค์กรเอกชนที่ได้รับการแนะนำจากช่วงปลายทศวรรษ 1980 และตลาดหลักทรัพย์เปิดในปี 2000
การลงทุนต่างประเทศมีการเติบโตและสหรัฐอเมริกาเป็นคู่ค้าหลักของเวียดนาม ในเมือง, ตลาดผู้บริโภคที่เป็นเชื้อเพลิงโดยความอยากอาหารของหนุ่มสาวชนชั้นกลางอิเล็กทรอนิกส์และสินค้าหรูหรา หลังจาก 12 ปีของการเจรจาประเทศเข้าร่วมองค์การการค้าโลกในเดือนมกราคมปี 2007
แต่ความแตกต่างในความมั่งคั่งระหว่างเมืองและชนบทเวียดนามกว้างและผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์กังวลว่าการเปิดเสรีทางเศรษฐกิจมากเกินไปจะลดลงฐานอำนาจของพวกเขา.
แม้จะมีการใฝ่หาการปฏิรูปทางเศรษฐกิจ การพิจารณาคดีของพรรคคอมมิวนิสต์ที่แสดงให้เห็นความตั้งใจของเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่จะให้ขึ้นอยู่กับการผูกขาดอำนาจทางการเมือง.
เวียดนามแข็งขันยับยั้งความขัดแย้งทางการเมืองและเสรีภาพทางศาสนา สิทธิของกลุ่มได้แยกออกมารักษาฮานอยของผู้คนชาวเขาเผ่าชนกลุ่มน้อยที่รู้จักกันเป็น Montagnards.
สิทธิมนุษยชนการสนับสนุนกลุ่มองค์การนิรโทษกรรมสากลกล่าวว่าใน 2011 รายงานว่า '' มากกว่านักเคลื่อนไหวโหลถูกตัดสินลงโทษในการทดลองที่ผิดพลาดเพียงเพราะพวกเขาได้เปล่งออกมาอย่างสงบสุข วิจารณ์นโยบายของรัฐบาล '' คลื่นลูกใหม่ของการทดลองเริ่มการโค่นล้มในปี 2013

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เวียดนาม
เวียดนาม หนึ่งของพรรคคอมมิวนิสต์รัฐ เป็นหนึ่งในประเทศที่เติบโตเร็วที่สุดของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และมีการตั้งค่าสถานที่ในการเป็นประเทศที่พัฒนาโดย 2020 .
มันกลายเป็นประเทศใหม่อีกครั้งในปี 1975 เมื่อกองกำลังติดอาวุธของพรรคคอมมิวนิสต์เกาหลีเหนือยึดใต้
ตามสามทศวรรษของสงครามขม ซึ่ง คอมมิวนิสต์ต่อสู้ครั้งแรกกับอำนาจอาณานิคมฝรั่งเศสแล้วกับเวียดนามใต้และสหรัฐสนับสนุน . ซึ่งในระยะหลัง ความขัดแย้งยึดความสนใจของโลก .
เราเข้าร่วมสงครามเพื่อกั้น " Domino Effect " ของประเทศลดลงต่อเนื่องคอมมิวนิสต์ .
สงครามผลิตจำนวนมากทั้งสองฝ่าย การทารุณต่อพลเรือน และไม่ทำลายและการปนเปื้อนของมากของภูมิทัศน์ .
เยือนเวียดนาม โดยประธานาธิบดีสหรัฐฯ บิล คลินตัน ในเดือนพฤศจิกายน 2000 ถูกนำเสนอในฐานะที่เป็นสุดยอดของความพยายามอเมริกันปกติความสัมพันธ์กับศัตรูเก่า
เวียดนามต่อสู้เพื่อค้นหาเท้าของมันหลังจากการรวมกันและพยายามที่แรกในการจัดระเบียบเศรษฐกิจการเกษตรตามแนวเส้น
collectivist อย่างเข้มงวดแต่องค์ประกอบของกลไกตลาดและองค์กรเอกชนที่แนะนำจากปลายทศวรรษที่ 1980 และตลาดหลักทรัพย์เปิดใน 2000
การลงทุนจากต่างประเทศมีการเติบโต และเราเป็นคู่ค้าหลักของเวียดนาม . ในเมือง , ตลาดผู้บริโภคที่เป็นเชื้อเพลิงโดยความอยากอาหารของเด็ก ระดับกลางสำหรับอิเล็กทรอนิกส์และสินค้าหรูหราหลังจาก 12 ปีของการเจรจาประเทศเข้าร่วมองค์การการค้าโลกในเดือนมกราคม 2007 .
แต่ความต่างในความมั่งคั่งระหว่าง ชุมชนเมือง และชุมชนชนบทเวียดนาม คือ กว้าง และผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์บางคนกังวลว่า การเปิดเสรีทางเศรษฐกิจมากเกินไป จะทำให้ฐานอำนาจของตน แม้จะมีการใฝ่หาการปฏิรูปทางเศรษฐกิจ
,การปกครองของพรรคคอมมิวนิสต์แสดงความเต็มใจที่จะให้เล็ก ๆน้อย ๆของการผูกขาดอำนาจทางการเมือง
เวียดนามอย่างยับยั้งความขัดแย้งทางการเมืองและเสรีภาพทางศาสนา กลุ่มสิทธิกีดกันออกจากฮานอยเป็นชาติพันธุ์ชนกลุ่มน้อยเผ่าฮิลล์ รักษา คน นี้ รู้จักกันในนาม montagnards .
กลุ่มรณรงค์ด้านสิทธิมนุษยชน แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า ในปี 2554 รายงานว่า ' 'more กว่าโหลนักเคลื่อนไหวถูกตัดสินผิดพลาดในการทดลองเพียงเพราะพวกเขาได้อย่างสงบสุขเปล่งออกมาวิจารณ์นโยบายรัฐบาล ' ' คลื่นใหม่ของการทดลองการโค่นล้มเริ่มต้นใน 2013 .