Facing the Singapore River, Tan Si

Facing the Singapore River, Tan Si Chong Su was built in 1876 to serve the needs of the sizeable Tan clan. At the time, it sat on the banks of the Singapore River, close to a small islet called Pulau Saigon. The islet has since been dug out and a part of the river filled in so that Tan Si Chong Su is now set back from the water.[1]

The funds needed to build the temple were donated by two men from the most prominent Tan families in Singapore – Tan Kim Ching (1824–1892) and Tan Beng Swee (1828–1884). Tan Kim Ching was the eldest son of philanthropist and businessman Tan Tock Seng, whose significant fortune he inherited. Tan Tock Seng is perhaps best remembered for his contributions to public health care. Tan Beng Swee was the son of Tan Kim Seng, also a successful businessman and a leader of the Chinese community. Of Tan Kim Seng's many civic projects, arguably the greatest was setting up of the city's first fresh water supply lines.[1]

The temple was built as the ancestral temple of Tan clan. The Chinese believed that people with the same surname share a common ancestry. An ancestral temple like Tan Si Chong Su gives clan members a place to worship their ancestors. It is here that the soul or spirit tablets of clan members are kept and venerated. The complex consists of an entrance hall, a main hall where the patron deities are, and a rear hall where the soul tablets of illustrious Tans are kept. The halls are separated by open courtyards.[2]


One of a pair of granite columns with a deeply sculpted dragon motif at the main entrance of the temple.
The first president of the temple was Tan Kim Tian. An indenture dated 28 July 1880 gave the names of the temple trustees as Tan Cheng Kiat, Tan Chew Cha, Tan Siak Kiew, Tan Mah Arang, Tan Hai Tiew and Tan Sim Boh.[2]

The temple also served as the assembly hall for the Tan clan whose members extended beyond Singapore to Malaysia. Among some famous Tans associated with the temple was the former Finance Minister of Malaysia, Tan Siew Sin, and his father Tan Cheng Lock, a founder of the Malayan Chinese Association, a political party in Malaysia. Tan Cheng Lock and Tan Siew Sin were from Malacca as were the fathers of the temple's original founders. The temple's founders, Tan Kim Ching and Tan Beng Swee, were also associated with Malacca. Another famous Tan is Tan Chin Tuan, a retired banker and noted philanthropist and one of the temple's trustees.[2]

In 1889, a school was set up within the temple's premises; its name, Po Chiak Keng, became synonymous with that of the temple's. Tan Si Chong Su was commonly known by both names until the Japanese invasion of 1942. Shortly after the Japanese Occupation ended in 1945, Po Chiak Keng closed its doors, leaving behind about 200 students, and the temple's name reverted to Tan Si Chong Su.[1]

As with many of Singapore's historic buildings, Tan Si Chong Su has been overshadowed by surrounding modern developments – in this case the Central Expressway. However, visitors to the temple will still find it an interesting place.[1]

The Tan Si Chong Su Temple was gazetted as a national monument on 29 November 1974.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

หันหน้าไปทางแม่น้ำสิงคโปร์ Tan Si Chong Su ถูกสร้างใน 1876 เพื่อความต้องการของตระกูล Tan สำหรับผู้พิการ เวลา ได้นั่งริมแม่น้ำสิงคโปร์ ใกล้กับเกาะ(เล็ก)ขนาดเล็กเรียกว่าปูเลาไซ่ง่อน เกาะ(เล็ก)มี ตั้งแต่การขุดออก และส่วนของน้ำที่เติมให้ Tan Si Chong Su จะตั้งกลับจากน้ำ [1]เงินทุนที่จำเป็นในการสร้างวัดได้บริจาคสองชายจากเด่นสุด Tan ครอบครัวในสิงคโปร์ – ตาลคิมชิง (1824 – ค.ศ. 1892) และตาลยเปงซวี (ค.ศ. 1828-1884) ตาลคิมชิงอ้าย philanthropist และพ่อค้า Tan Tock Seng ฟอร์จูนสำคัญเขาสืบทอดมาได้ ส่วนบางทีมีจำ Tan Tock Seng สำหรับผลงานของเขาเพื่อดูแลสุขภาพประชาชน ซวีออกทันเป็นบุตรของ Tan Kim Seng นอกจากนี้นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ และผู้นำชุมชนชาวจีน ของตาลคิมเส็งพลเมืองโครงการมาก ว่าตั้งค่าบรรทัดน้ำสดแรกของเมือง [1]วัดถูกสร้างขึ้นเป็นวัดโบราณตันตระกูล ชาวจีนเชื่อว่าคนที่ มีนามสกุลเดียวกันร่วมวงศ์ทั่วไป เป็นวัดโบราณเช่น Tan Si Chong Su ให้ตระกูลสมาชิกที่จะบูชาบรรพบุรุษ มันอยู่ที่นี่ว่า มีเก็บ และ venerated เม็ดวิญญาณหรือจิตวิญญาณของสมาชิกตระกูล ซับซ้อนประกอบด้วยการเข้า หอหลักที่อยู่เทวดาสมาชิก และความหลังที่เก็บเม็ดวิญญาณของ Tans นาน ดูทั้งหมดจะถูกคั่น ด้วยสนามหญ้าเปิด [2]หนึ่งคู่ของคอลัมน์ที่หินแกรนิตมีแปลนมังกรแกะสลักลึกเป็นทางเข้าหลักของวัดประธานวัดแรก Tian Tan คิม การ indenture วันที่ 28 กรกฏา 1880 คมให้ชื่อของมูลนิธิวัดตาลเฉิงเกียรติ ชะอำวเจตตาล ตาล Siak เขียว Mah Arang ตาล น้อง Tan Hai และตาล Sim boh ทีเอ [2]วัดให้บริการเป็นห้องแอสเซมบลีสำหรับตระกูล Tan มีสมาชิกเพิ่มเติมนอกเหนือจากสิงคโปร์มาเลเซีย ระหว่าง Tans บางสถานที่เกี่ยวข้องกับวัดได้ในอดีตเงินรัฐมนตรีมาเลเซีย ตาลแท้บาป บิดา และ Tan Cheng Lock ผู้ก่อตั้งของสมาคมจีนในมาลายา พรรคการเมืองในมาเลเซีย Tan Cheng Lock และบาปแท้ตาลได้จากมะละกา ตามบรรพบุรุษของผู้ก่อตั้งดั้งเดิมของวัด ผู้ก่อตั้งวัด ชิงตันคิมและตาลออกผลงาน มีความเกี่ยวข้องกับมะละกา ตาลมีชื่อเสียงอีกเป็น ทวนคางตาล นายปลด และ philanthropist ตาม และมูลนิธิของวัดอย่างใดอย่างหนึ่ง [2]ในจาก 1889 โรงเรียนตั้งอยู่ภายในบริเวณของวัด ชื่อ ปอ Chiak เก่ง เป็นพ้องกับที่ของวัด Tan Si Chong Su มักถูกเรียกชื่อทั้งสองจนถึงการรุกรานญี่ปุ่นของปี 1942 ในไม่ช้าหลังจากที่สงครามสิ้นสุดลงในปีค.ศ. 1945 เก Chiak ปอปิดประตู ออกหลังนักเรียนประมาณ 200 และชื่อของวัดแปลงกลับเป็น Tan Si Chong Su [1]เช่นเดียวกับหลายอาคารประวัติศาสตร์ของสิงคโปร์ Tan Si Chong Su ได้ถูก overshadowed โดยรอบพัฒนาทันสมัย – ในกรณีนี้ทางด่วนเซ็นทรัล อย่างไรก็ตาม ชมวัดจะยังคงค้นพบสถานที่น่าสนใจนั้น [1]ตันศรีวัด Su ถูก gazetted เป็นอนุสาวรีย์แห่งชาติบน 29 1974 พฤศจิกายน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

หันหน้าไปทางแม่น้ำสิงคโปร์ตาลศรีปากช่องซูถูกสร้างขึ้นในปี 1876 เพื่อตอบสนองความต้องการของขนาดใหญ่ตระกูลตาล ในขณะที่มันนั่งอยู่บนฝั่งแม่น้ำสิงคโปร์ใกล้กับเกาะเล็ก ๆ ที่เรียกว่าปูเลาไซ่ง่อน เกาะได้ถูกขุดออกมาและเป็นส่วนหนึ่งของแม่น้ำเต็มไปเพื่อให้ตาลศรีปากช่องซูเป็นชุดนี้กลับมาจากน้ำ. [1] เงินทุนที่จำเป็นในการสร้างวัดที่ได้รับบริจาคจากชายสองคนจากที่โดดเด่นที่สุดครอบครัวตาล ในสิงคโปร์ - ตาลคิมชิง (1824-1892) และสีน้ำตาล Beng Swee (1828-1884) Tan คิมชิงเป็นบุตรชายคนโตของผู้ใจบุญและนักธุรกิจ Tan Tock Seng ซึ่งโชคลาภที่สำคัญเขาได้รับมรดก Tan Tock Seng อาจจะจำที่ดีที่สุดสำหรับเขาในการดูแลสุขภาพของประชาชน Tan Beng Swee เป็นบุตรชายของคิมเส็งตาลยังเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จและเป็นผู้นำของชุมชนชาวจีนที่ ตาลของคิมเส็งโครงการประชาสังคมหลายเนื้อหาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือการตั้งค่าขึ้นจากเมืองแรกของเส้นอุปทานน้ำจืด. [1] วัดถูกสร้างขึ้นเป็นวัดที่บรรพบุรุษของตระกูลตาล ชาวจีนเชื่อว่าคนที่มีนามสกุลเดียวกันแบ่งปันบรรพบุรุษร่วมกัน วัดบรรพบุรุษเช่นตาลศรีสุช่องให้สมาชิกตระกูลสถานที่เคารพบูชาบรรพบุรุษของพวกเขา ที่นี่เป็นที่แท็บเล็ตจิตวิญญาณหรือจิตวิญญาณของสมาชิกตระกูลจะถูกเก็บไว้และบูชา ที่ซับซ้อนประกอบด้วยห้องโถงทางเข้าห้องโถงหลักที่เทพผู้มีพระคุณที่มีและห้องโถงด้านหลังที่แท็บเล็ตจิตวิญญาณของยี่หระชื่อเสียงจะถูกเก็บไว้ ห้องโถงถูกแยกออกจากลานเปิด. [2] หนึ่งในคู่ของคอลัมน์หินแกรนิตที่มีบรรทัดฐานมังกรแกะสลักลึกที่ทางเข้าหลักของวัด. ประธานาธิบดีครั้งแรกของวัดตาลเป็นคิมเทียน สัญญาลงวันที่ 28 กรกฎาคม 1880 ให้ชื่อของคณะกรรมาธิการวัดเป็นตันเฉิงเกียรติที่ตาลชิชา Tan Siak กิ่วตาล Mah Arang, Tan Hai ทิวและสีน้ำตาลซิม Boh. [2] วัดยังทำหน้าที่เป็นห้องประชุมสำหรับ ตระกูลตาลที่มีสมาชิกขยายเกินสิงคโปร์ไปยังประเทศมาเลเซีย ท่ามกลางความไม่ยี่หระที่มีชื่อเสียงบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับวัดเป็นอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของประเทศมาเลเซียตาลซิวบาปและพ่อของเขาตันเฉิงล็อคผู้ก่อตั้งมลายูจีนสมาคมพรรคการเมืองในประเทศมาเลเซีย Tan Cheng ล็อคและสีน้ำตาลซิวบาปมาจากมะละกาเช่นเดียวกับบรรพบุรุษผู้ก่อตั้งเดิมของวัดที่ ผู้ก่อตั้งวัดตาลและคิมชิง Tan Beng Swee ถูกยังเกี่ยวข้องกับมะละกา อีกประการหนึ่งที่มีชื่อเสียงตาลเป็นตาลชิน Tuan, นายธนาคารที่เกษียณอายุราชการและตั้งข้อสังเกตใจบุญและเป็นหนึ่งในคณะกรรมาธิการของวัด [2]. ในปี 1889 โรงเรียนถูกจัดตั้งขึ้นในบริเวณวัดนั้น ชื่อของมัน Po Chiak เก่งกลายเป็นความหมายเหมือนกันกับที่ของวัด ตาลศรีปากช่องซูเป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไปทั้งสองชื่อจนกระทั่งการรุกรานของญี่ปุ่นปี 1942 หลังจากที่ญี่ปุ่นยึดครองสิ้นสุดลงในปี 1945 ปอ Chiak Keng ปิดประตูทิ้งไว้ข้างหลังประมาณ 200 นักเรียนและชื่อของวัดหวนกลับไป Tan Chong ศรีสุ [1] เช่นเดียวกับหลายอาคารประวัติศาสตร์ของสิงคโปร์ตาลศรีปากช่องซูได้รับการบดบังด้วยรอบการพัฒนาที่ทันสมัย ​​- ในกรณีนี้กลางทางด่วน อย่างไรก็ตามผู้เข้าชมไปที่วัดจะยังคงพบว่ามันเป็นสถานที่ที่น่าสนใจ. [1] ตาลศรีปากช่องซูวัดได้ประกาศจัดตั้งเป็นอนุสรณ์สถานแห่งชาติเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 1974

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

หันหน้าไปทางแม่น้ำสิงคโปร์ ตันศรี ชอง ซู ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1875 เพื่อสนองความต้องการของตระกูลแทนดาว . ตอนนั้นนั่งอยู่ในธนาคารของแม่น้ำสิงคโปร์ ใกล้แก่งเล็กๆ เรียกว่า ปูเลา ไซ่ง่อน แก่งมีตั้งแต่ถูกขุดออก และเป็นส่วนหนึ่งของแม่น้ำที่เต็มไปด้วยเพื่อให้ ตันศรี ชอง ซู เป็นชุดนี้กลับจากน้ำ [ 1 ]

เงินทุนที่จำเป็นในการสร้างวัด ได้รับบริจาคจาก ชายสองคนจากที่โดดเด่นที่สุดในสิงคโปร์– Tan Tan ครอบครัวคิม ชิง ( 1824 – 1892 ) และแทนเบงสวี ( 1828 – 1884 ) แทนคิม ชิง เป็นลูกชายคนโตของนักธุรกิจและผู้ใจบุญตันต๊อกเส็ง ที่สำคัญโชคชะตาที่เขาได้รับ ตันต๊อกเส็งเป็นบางทีดีที่สุดจำสำหรับผลงานของเขาเพื่อการดูแลสุขภาพของประชาชนตาล เบ็ง สวีเป็นบุตรตันกิมเส็ง ยังเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จและเป็นผู้นำของชุมชนชาวจีน ของ ตันกิมเส็งหลายจังหวัดโครงการ , arguably ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือการตั้งค่าของเมืองแรกสดประปาสาย [ 1 ]

วัดนี้สร้างเป็นวัดแทนบรรพบุรุษของตระกูล จีนเชื่อว่า คนนามสกุลเดียวกัน มีบรรพบุรุษร่วมกันวัดบรรพบุรุษ เช่น ตันศรี ชอง ซู ให้คนในตระกูลสถานที่บูชาบรรพบุรุษ มันอยู่ที่นี่ว่า วิญญาณ หรือ วิญญาณ เม็ดของสมาชิกตระกูลจะเก็บและบูชา . ที่ซับซ้อนประกอบด้วยห้องโถงทางเข้าห้องโถงใหญ่ซึ่งเป็นเทพอุปถัมภ์ และศาลาหลังที่วิญญาณเม็ดมีชื่อเสียง tans จะถูกเก็บไว้ ห้องโถงที่แยกจากกัน โดยเปิดสนามรอบบ้าน [ 2 ]


หนึ่งคู่ของคอลัมน์หินแกรนิตแกะสลักรูปมังกรกับลึกที่ประตูทางเข้าวิหาร
ประธานาธิบดีคนแรกของ วัด แทน คิม เถียน เป็นหนังสือสัญญาลงวันที่ 28 กรกฎาคม 1880 ให้ชื่อวัดติดไม้ติดมือเป็นตัน เช็ง เกียรติ , Tan Tan เซี๊ยกเคี้ยว ชา เขียว , Tan mAh Arang , Tan Hai ทิวและตันซิม Boh . [ 2 ]

วัดยังทำหน้าที่เป็นห้องโถงประกอบสำหรับแคลนตันที่มีสมาชิกขยายเกินสิงคโปร์มาเลเซีย ของที่มีชื่อเสียงทำที่เกี่ยวข้องกับวัด อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของมาเลเซีย ตัน ซิว บาป และพ่อของเขา ตัน เชง ล็อค , ผู้ก่อตั้งของมลายู จีน สมาคม พรรคการเมืองในมาเลเซียล็อคตัน ตัน ซิวเฉิงและบาปจากมะละกาเป็นบรรพบุรุษของผู้ก่อตั้งเดิมของวิหาร ผู้ก่อตั้งของวัด เทียน คิม ชิงตัน เบ็ง และสวี เป็นยังเกี่ยวข้องกับมะละกา . ชื่อเสียงอีกเป็นตันแทนคางต่วน , นายธนาคารเกษียณและเป็นคนใจบุญและหนึ่งในผู้ดูแลวัดของ [ 2 ]

ใน ค.ศ. 1889 โรงเรียนตั้งขึ้นในบริเวณวัด ชื่อ ปอ เค็ง เจียก ,กลายเป็นตรงกันกับที่วิหาร . ตัน ศรี ชอง ซู ก็เป็นที่รู้จักกันโดยชื่อทั้งสอง จนกระทั่งการรุกรานของญี่ปุ่น 1942 หลังจากการยึดครองญี่ปุ่นสิ้นสุดลงในปี 1945 โปเจียกเก่งปิดประตูทิ้งไว้ ประมาณ 200 คน และชื่อวัด กลับคืนสู่ ตันศรี ชอง ซู [ 1 ]

กับหลายของสิงคโปร์เป็นอาคารประวัติศาสตร์ตันศรี ชอง ซู ได้ถูกบดบังโดยรอบและพัฒนาการใหม่ในกรณีนี้ทางด่วนเซ็นทรัล อย่างไรก็ตาม ผู้วัดจะยังคงพบว่ามันเป็นสถานที่ที่น่าสนใจ [ 1 ]

ตังศรี ชอง ซู วัดเป็นอนุสาวรีย์แห่งชาติในราชกิจจานุเบกษา 29 พฤศจิกายน 1974