The economic prosperity of our nati

The economic prosperity of our nation is dependent upon massive networks of infrastructure systems including transportation networks, waterway networks, pipelines, and electrical grids, just to name a few. Furthermore, urban environments can be viewed as a “system of systems” with complex interactions and interdependencies existing between individual systems. Historically, the civil engineering profession has emphasized the resilient design of the individual infrastructure components that make up these systems. Comparatively less attention has been paid to how infrastructure components interrelate and interact to make up a dynamic system. As a result, recent natural catastrophes such as Hurricane Katrina (2005) and the Northridge Earthquake (1994) have revealed that society is vulnerable to catastrophic cascading failures that occur due to a lack of resiliency in the points of interconnection between individual infrastructure systems. Today, infrastructure systems are growing even more interdependent through information and sensing technologies being introduced for the monitoring and control of infrastructure systems. As urban environments grow to keep pace with trends in population densification, a balance must be struck between community resiliency and sustainable use of natural resources. This is fundamentally a systems problem defined by the flow of the natural resources that go into the construction and operation of infrastructure system and the negative consequences (e.g., greenhouse gases) that result over the full life-cycle of infrastructure systems. This program area emphasizes the analysis, design, and optimization of civil infrastructures, using the concepts from systems theory, information theory, decision theory, and sustainable design. The program also focuses on the enhancement of resiliency and sustainability of infrastructure systems via integration of nontraditional technologies, such as embedded sensing, intelligent control, and advanced materials technologies.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจของประเทศของเราจะขึ้นด้วยเครือข่ายขนาดใหญ่ของระบบโครงสร้างพื้นฐานขนส่งเครือข่าย เครือข่ายน้ำ ท่อ และ กริดไฟฟ้า เพียงเพื่อชื่อไม่กี่ นอกจากนี้ สามารถดูเป็น "ระบบของระบบ" สภาพแวดล้อมเมืองกับการโต้ตอบที่ซับซ้อนกันอยู่ระหว่างแต่ละระบบ ประวัติ อาชีพวิศวกรโยธาได้เน้นการออกแบบที่ยืดหยุ่นขององค์ประกอบแต่ละโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ เหล่านี้ จ่ายความดีอย่างหนึ่งน้อยกว่าการ interrelate และวิธีการทำงานของส่วนประกอบโครงสร้างพื้นฐานในการสร้างระบบแบบไดนามิก ดัง ล่าสุดหายนะทางธรรมชาติเช่นพายุเฮอริเคนแคทรีนา (2005) และแผ่นดินไหว Northridge (1994) ได้เปิดเผยว่า สังคมเสี่ยงกับความล้มเหลวที่เกี่ยวข้องรุนแรงที่เกิดขึ้นเนื่องจากการขาดความในจุดของความเกี่ยวข้องกันระหว่างระบบโครงสร้างพื้นฐานแต่ละ วันนี้ ระบบโครงสร้างพื้นฐานจะเติบโตยิ่งจัดข้อมูล และไร้สายเทคโนโลยีที่ถูกนำมาใช้สำหรับการตรวจสอบและควบคุมระบบโครงสร้างพื้นฐาน เป็นสภาพแวดล้อมการเมืองเติบโตเพื่อให้ทันกับแนวโน้มประชากร densification ต้องหลงความสมดุลระหว่างความชุมชนและใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน นี่คือภาระปัญหาระบบกำหนด โดยการไหลของทรัพยากรธรรมชาติที่ก่อสร้างและการทำงานของระบบโครงสร้างพื้นฐาน และผลลบ (เช่น ก๊าซเรือนกระจก) ที่ได้ผ่านทั้งวงจรชีวิตของระบบโครงสร้างพื้นฐาน ตั้งโปรแกรมนี้เน้นการวิเคราะห์ ออกแบบ และเพิ่มประสิทธิภาพของโครงสร้างพื้นฐานโยธา การใช้แนวคิดจากทฤษฎีระบบ ทฤษฎีสารสนเทศ ทฤษฎีการตัดสินใจ และออกแบบอย่างยั่งยืน โปรแกรมยังเน้นความยั่งยืนของระบบโครงสร้างพื้นฐานทางรวมของเทคโนโลยี nontraditional เช่นฝังตัวตรวจ ควบคุมอัจฉริยะ เทคโนโลยีวัสดุขั้นสูงและเพิ่มประสิทธิภาพของความ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ความเจริญทางเศรษฐกิจของประเทศของเราขึ้นอยู่กับเครือข่ายขนาดใหญ่ของระบบโครงสร้างพื้นฐานรวมถึงเครือข่ายการขนส่งทางน้ำเครือข่ายท่อส่งและสายส่งไฟฟ้​​าเพียงไม่กี่ชื่อ นอกจากนี้สภาพแวดล้อมในเมืองสามารถมองได้ว่า "ระบบการทำงานของระบบ" กับปฏิสัมพันธ์ที่ซับซ้อนและประมูลที่มีอยู่ระหว่างระบบของแต่ละบุคคล ในอดีตอาชีพวิศวกรรมโยธาได้เน้นการออกแบบที่มีความยืดหยุ่นในองค์ประกอบโครงสร้างพื้นฐานของแต่ละบุคคลที่ทำขึ้นระบบเหล่านี้ เปรียบเทียบความสนใจน้อยได้รับการชำระเงินวิธีการที่องค์ประกอบโครงสร้างพื้นฐานข้องและมีปฏิสัมพันธ์ที่จะทำให้ระบบแบบไดนามิก เป็นผลให้ภัยพิบัติทางธรรมชาติที่ผ่านมาเช่นพายุเฮอริเคนแคทรีนา (2005) และแผ่นดินไหว Northridge (1994) ได้เปิดเผยว่าสังคมมีความเสี่ยงต่อความล้มเหลวซ้อนภัยพิบัติที่เกิดขึ้นเนื่องจากการขาดของความยืดหยุ่นในจุดเชื่อมต่อระหว่างระบบโครงสร้างพื้นฐานของแต่ละบุคคล วันนี้ระบบโครงสร้างพื้นฐานที่มีการเจริญเติบโตแม้กระทั่งการพึ่งพาซึ่งกันและกันมากขึ้นผ่านข้อมูลและการตรวจจับเทคโนโลยีที่ถูกนำมาใช้สำหรับการตรวจสอบและการควบคุมของระบบโครงสร้างพื้นฐาน ในฐานะที่เป็นสภาพแวดล้อมในเมืองเติบโตเพื่อให้ทันกับแนวโน้มในการ densification ประชากรสมดุลจะต้องหลงความยืดหยุ่นระหว่างชุมชนและการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน นี่คือพื้นฐานระบบปัญหาที่กำหนดโดยการไหลของทรัพยากรทางธรรมชาติที่ไปในการก่อสร้างและการทำงานของระบบโครงสร้างพื้นฐานและผลกระทบเชิงลบ (เช่นก๊าซเรือนกระจก) ที่ส่งผลให้ในช่วงวงจรชีวิตเต็มรูปแบบของระบบโครงสร้างพื้นฐาน พื้นที่โครงการนี​​้เน้นการวิเคราะห์การออกแบบและการเพิ่มประสิทธิภาพของโครงสร้างพื้นฐานทางแพ่งโดยใช้แนวคิดจากทฤษฎีระบบทฤษฎีข้อมูลทฤษฎีการตัดสินใจและการออกแบบอย่างยั่งยืน โปรแกรมนี้ยังมุ่งเน้นไปที่การเพิ่มประสิทธิภาพของความยืดหยุ่นและความยั่งยืนของระบบโครงสร้างพื้นฐานผ่านการบูรณาการเทคโนโลยีในรูปแบบใหม่เช่นการตรวจจับที่ฝังตัวควบคุมอัจฉริยะและเทคโนโลยีวัสดุขั้นสูง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ความเจริญทางเศรษฐกิจของประเทศของเราจะขึ้นอยู่กับเครือข่ายขนาดใหญ่ของระบบโครงสร้างพื้นฐาน ได้แก่ เครือข่าย เครือข่ายการขนส่งทางน้ำและกริดไฟฟ้า , ท่อ , เพียงชื่อไม่กี่ นอกจากนี้ สภาพแวดล้อมในเมืองที่สามารถดูเป็นระบบ " ระบบ " กับปฏิสัมพันธ์ที่ซับซ้อนและ interdependencies ระหว่างระบบที่มีอยู่ของแต่ละบุคคล ในอดีตวิชาชีพวิศวกรรมโยธาได้เน้นการออกแบบที่ยืดหยุ่นของโครงสร้างแต่ละคอมโพเนนต์ที่สร้างระบบเหล่านี้ เปรียบเทียบความสนใจน้อยได้รับการชำระเงินวิธีการส่วนประกอบโครงสร้างพื้นฐานเชิงโต้ตอบเพื่อให้ระบบแบบไดนามิก ผลภัยพิบัติธรรมชาติล่าสุดเช่นพายุเฮอริเคนแคทรีนา ( 2005 ) และแผ่นดินไหว Northridge ( 1994 ) ได้เปิดเผยว่า สังคมไทยมีความเสี่ยงภัยพิบัติซ้อน ความล้มเหลวที่เกิดขึ้นเนื่องจากการขาดข้อมูลในจุดเชื่อมต่อระหว่างระบบโครงสร้างพื้นฐานของแต่ละบุคคล วันนี้ระบบโครงสร้างพื้นฐานจะเติบโตได้พึ่งพากันมากขึ้นผ่านข้อมูลและสัมผัสเทคโนโลยีที่ถูกใช้สำหรับการตรวจสอบและการควบคุมของระบบโครงสร้างพื้นฐาน เป็นเขตเมืองขยายเพื่อให้ทันกับแนวโน้มประชากรหนาแน่น , สมดุลที่ต้องขีด ระหว่าง 4 ชุมชน และใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืนนี้เป็นพื้นฐานที่เป็นระบบของปัญหาที่กำหนดโดยการไหลของทรัพยากรทางธรรมชาติที่ไปในการสร้างและการทำงานของระบบโครงสร้างพื้นฐานและผลเชิงลบ ( เช่น ก๊าซเรือนกระจก ) ผลที่ผ่านวงจรชีวิตเต็มรูปแบบของระบบโครงสร้างพื้นฐาน โปรแกรมพื้นที่นี้เน้นการวิเคราะห์ การออกแบบ และการเพิ่มประสิทธิภาพของวิศวกรรมโยธาและสาธารณูปโภคโดยใช้แนวคิดจากทฤษฎี ทฤษฎีระบบ ทฤษฎีการตัดสินใจ ข้อมูล และการออกแบบอย่างยั่งยืน โปรแกรมนี้ยังมุ่งเน้นการเสริมสร้างความยืดหยุ่น และความยั่งยืนของระบบโครงสร้างพื้นฐานที่ผ่านการบูรณาการเทคโนโลยีใหม่ เช่น ตรวจวัดควบคุมอัจฉริยะสมองกลฝังตัว และวัสดุขั้นสูงเทคโนโลยี