El Niño is the warm phase of the El

El Niño is the warm phase of the El Niño Southern Oscillation (commonly called ENSO) and is associated with a band of warm ocean water that develops in the central and east-central equatorial Pacific (between approximately the International Date Line and 120°W), including off the Pacific coast of South America. El Niño Southern Oscillation refers to the cycle of warm and cold temperatures, as measured by sea surface temperature, SST, of the tropical central and eastern Pacific Ocean. El Niño is accompanied by high air pressure in the western Pacific and low air pressure in the eastern Pacific. The cool phase of ENSO is called "La Niña" with SST in the eastern Pacific below average and air pressures high in the eastern and low in western Pacific. The ENSO cycle, both El Niño and La Niña, causes global changes of both temperatures and rainfall.[2][3] Mechanisms that cause the oscillation remain under study.

Developing countries dependent upon agriculture and fishing, particularly those bordering the Pacific Ocean, are the most affected. In Spanish, the capitalized term "El Niño" refers to the Christ child, Jesus (literal translation "The (male) Child"). La Niña, chosen as the 'opposite' of El Niño, literally means "The (female) Child". El Niño was so named because periodic warming in the Pacific near South America is often noticed around Christmas.[4]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เอลนีโญเป็นขั้นตอนที่อบอุ่นของเอลNiñoใต้ความผันผวน (เรียกกันว่า ENSO) และมีความสัมพันธ์กับวงดนตรีของน้ำทะเลที่อบอุ่นที่พัฒนาในภาคกลางและตะวันออกกลางมหาสมุทรแปซิฟิกแถบเส้นศูนย์สูตร (ระหว่างประมาณระหว่างบรรทัดวันและ 120 ° W) รวมทั้งชายฝั่งแปซิฟิกของทวีปอเมริกาใต้ El Niñoใต้ความผันผวนหมายถึงวงจรของอุณหภูมิที่อบอุ่นและเย็นที่วัดจากอุณหภูมิพื้นผิวทะเล SST ของเขตร้อนและภาคกลางภาคตะวันออกของมหาสมุทรแปซิฟิก เอลนีโญจะมาพร้อมกับความดันอากาศสูงความดันอากาศต่ำและแปซิฟิกตะวันตกในภาคตะวันออกของมหาสมุทรแปซิฟิก ในช่วงเย็นของ ENSO เรียกว่า "ลานีญา" กับ SST ในมหาสมุทรแปซิฟิกทางทิศตะวันออกด้านล่างเฉลี่ยและความกดดันอากาศสูงในภาคตะวันออกและต่ำในแปซิฟิกตะวันตก วงจร ENSO ทั้งเอลนีโญและลานีญาทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของโลกทั้งอุณหภูมิและปริมาณน้ำฝน. [2] [3] กลไกที่ก่อให้เกิดความผันผวนยังคงอยู่ภายใต้การศึกษา. การพัฒนาประเทศขึ้นอยู่กับการเกษตรและการประมงโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มีพรมแดนติดกับมหาสมุทรแปซิฟิก จะได้รับผลกระทบมากที่สุด ในภาษาสเปนคำนิยาม "เอลนีโญ" หมายถึงเด็กที่พระคริสต์พระเยซู (แปลตามตัวอักษร "(ชาย) เด็ก") La Niñaรับเลือกให้เป็น 'ตรงข้ามของเอลนีโญ, ความหมายว่า "(หญิง) เด็ก" เอลนีโญได้รับการตั้งชื่อให้เพราะภาวะโลกร้อนเป็นระยะ ๆ ในมหาสมุทรแปซิฟิกใกล้อเมริกาใต้มักจะสังเกตเห็นคริสต์มาส. [4]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

El Ni á o มีระยะอบอุ่นของ El Ni á o ซีกโลกใต้ ( มักเรียกว่าปรากฏการณ์ ) และเกี่ยวข้องกับวงดนตรีของทะเลน้ำอุ่นที่พัฒนาในภาคกลางและตะวันออกกลาง ประเทศแปซิฟิก ( ระหว่างประมาณ 120 องศาและนานาชาติเดทไลน์ W ) รวมทั้งชายฝั่งแปซิฟิกของอเมริกาใต้ El Ni á o ซีกโลกใต้หมายถึงวัฏจักรของอุณหภูมิที่อบอุ่นและเย็นการวัดอุณหภูมิผิวน้ำทะเล - , , เขตร้อนตอนกลางและตะวันออกของมหาสมุทรแปซิฟิก El Ni á o มาพร้อมกับสูงความดันอากาศในมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตกและความดันอากาศต่ำในแปซิฟิกตะวันออก . ช่วงเย็นของปรากฏการณ์ที่เรียกว่า " ลานีญา " กับ SST ในแปซิฟิกตะวันออกด้านล่างเฉลี่ยและความดันอากาศสูงและต่ำในภาคตะวันออกในแถบแปซิฟิค ปรากฏการณ์วงจร ,ทั้ง เอล นิá o และลานีญา สาเหตุการเปลี่ยนแปลงของโลก ทั้งอุณหภูมิและปริมาณน้ำฝน [ 2 ] [ 3 ] กลไกที่ทำให้เกิดความผันผวนอยู่ระหว่างการศึกษา .

การพัฒนาประเทศขึ้นอยู่กับการเกษตร และประมง โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ติดกับมหาสมุทรแปซิฟิก จะได้รับผลกระทบมากที่สุด ในภาษาสเปน , นิยามคําว่า " El Ni á o " หมายถึงเด็กคริสต์ พระเยซู ( แปล " ตามตัวอักษร ( ชาย ) เด็ก " )ลานีญา ถูกเลือกเป็น ' ตรงข้าม ' เอล ni á n , ตามตัวอักษรหมายความว่า " ( หญิง ) เด็ก El Ni á o เป็นชื่อเพราะๆ อุ่นในมหาสมุทรแปซิฟิกใกล้อเมริกาใต้มักจะสังเกตเห็นรอบวันคริสต์มาส [ 5 ]