Written by Natasha Mann (health jou

Written by Natasha Mann (health journalist)


Whether you love sliced beef tomatoes, drizzled with olive oil, or tomato sauce on your linguine pasta – eating tomatoes regularly is good for your heath, as well as your palate.

Here we look at the different health benefits of tomatoes.

Wonder fruit?
Tomatoes are native to South America, but they have been grown and enjoyed in Europe for hundreds of years.

Recently, they have been linked to all kinds of health benefits.

One US study found that eating tomatoes regularly could reduce the risk of men getting prostate cancer.

The glossy red fruits (which actually come in all kinds of colours, including yellow and deep purple) are packed full of vitamins – including vitamins A, C and E.

They also contain flavonoids (natural anti-inflammatories), potassium and other mineral salts.

Tomatoes contain a high volume of water, and they're refreshing in salads on hot days. They're low in calories too, with around 14 kilocalories per 100g – approximately one and a half classic tomatoes, or five to six cherry tomatoes.

Lycopene

Much of the interest in tomatoes has been due to the antioxidant lycopene – which helps to mop up damaging free radicals in the body that can harm our cells.

In fact, people living in the West get 85 per cent of this nutrient from tomatoes.

Lycopene may help to ward against:

prostate cancer
breast cancer
stomach cancer
age-related macular degeneration.
And it could boost the skins ability to protect itself against UV rays.

Some studies have suggested lycopene may play a role in reducing bad cholesterol.

Lycopene is even one of the main ingredients in new 'beauty pills'. A study carried out by the dermatology department at Charite University, in Berlin, discovered a link between lycopene based supplements and smoother, less-wrinkled skin.

Tomatoes should be eaten whole to get the full healthy effect.

'The important thing to remember is that you need the whole of the tomato to get its goodness,' says Dr Thomas Stuttaford, an expert in prostate cancer and vice-president of Prostate UK.

'Lycopene is best when combined with other bioflavonoids in tomatoes, which make the lycopene much more effective,' he says.

Sian Porter, a dietician at the British Dietetic Association, adds, 'It's important to remember that lycopene has to be taken as part of a healthy diet and lifestyle.

'It's not a magic bullet, so you can't drink, smoke and eat saturated fats and say it's OK because I'm eating tomatoes.

'It's best to eat tomatoes as part of a Mediterranean diet, with plenty of fruits and vegetables,' she says.

Which tomatoes?
Ripe, red tomatoes are likely to contain more lycopene than paler, watery ones.

This is because it's the lycopene that gives them their colour.

Gerry Hayman, spokesperson for the British Tomato Growers' Association, has investigated the lycopene content in different varieties.

'Slow-ripening, imported types of tomatoes tend to have lower levels of lycopene,' says Gerry Hayman.

'They have been bred for long-life, and this interferes with the ripening process,' he says.

'The important thing is to enjoy tomatoes – especially when you're trying to encourage children to eat them.

'Small tomatoes – such as baby plum tomatoes, cherry tomatoes and the piccolo type – tend to be sweeter. Ferrari, cocktail tomatoes and Jack Hawkins tomatoes are also good for lycopene,' he says.

Cook your tomatoes to boost the healthy effect

Cooked or heat processed tomatoes contain more lycopene, because cooking helps to release lycopene from the tomato cells.

Lycopene is fat soluble, so it helps to cook it in oil, such as olive oil.

'Eating tomato ketchup and pizza topping counts towards lycopene intake,' says Sian Porter.

'Of course that has to be weighed against additives, such as sugar and salt – and it might be better to consume tomato purée,' she says.

Since cooking reduces vitamin C, however, the British Tomato Growers’ Association suggest eating a range of fresh and cooked tomatoes.

Tomato based sauces can be eaten as a soup, added to pasta, stews, bolognese, tomato-based curries, used as a pizza topping or made into a spicy sauce to top falafels or meatballs.

Fresh tomatoes can be added to salads, sandwiches or as garnishes to a main meal.

'Taste-tastic' recipes
Basic tomato sauce
Start by lightly frying onion and garlic.
Add tomatoes (fresh or tinned), tomato purée, oregano and basil and season.
Cook on a gentle heat until the sauce is deep red and sticks to the back of a spoon.
This can be stored, and often tastes better the next day.

Use as a base for other dishes, such as bolognese, or add chilli for a spicy arrabiata sauce.

For a delicious bruschetta
Chop up ripe, flavoursome fresh tomatoes with garlic, fresh herbs and season.
Brush sliced ciabatta or French bread with olive oil, and toast in the oven.
Top with the tomatoes when done.
Further information
The Tomato Zone website has suggestions for educating children about tomatoes.

Last updated: 03.06.2010

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เขียน โดย Natasha มานน์ (นักข่าวสุขภาพ)ว่าคุณรักหั่นเนื้อมะเขือเทศ น้ำมันมะกอก drizzled หรือซอสมะเขือเทศบนของพาสต้า linguine – กินมะเขือเทศเป็นประจำเหมาะสำหรับสุขภาพของคุณ เป็นโหว่ของคุณที่นี่เราดูที่สุขภาพแตกต่างกันของมะเขือเทศพบผลไม้มะเขือเทศมีพื้นถิ่นของอเมริกาใต้ แต่พวกเขาได้เติบโตขึ้น และเพลิดเพลินในยุโรปหลายร้อยปีล่าสุด พวกเขาได้รับลิงค์เพื่อสุขภาพทุกชนิดหนึ่งสหรัฐฯ ศึกษาพบว่า กินมะเขือเทศเป็นประจำสามารถลดความเสี่ยงของการโรคมะเร็งต่อมลูกหมากของผู้ชายผลไม้สีแดงผิวมัน (ที่จริง มีทุกสี รวมทั้งสีม่วงสีเหลือง และลึก) บรรจุเต็มไปด้วยวิตามินเช่นวิตามินเอ ซีและอีพวกเขายังประกอบด้วย flavonoids (ธรรมชาติ anti-inflammatories), โพแทสเซียม และเกลือแร่อื่น ๆมะเขือเทศประกอบด้วยปริมาณน้ำมาก และพวกเขากำลังสดชื่นในสลัดในวันร้อน พวกเขากำลังต่ำแคลอรี่มากเกินไป กับ kilocalories ประมาณ 14 ต่อ 100 กรัม – ประมาณ 1.30 คลาสสิกมะเขือเทศ หรือมะเขือเทศเชอรี่ 5-6Lycopeneมากน่าสนใจในมะเขือเทศได้เนื่องจากสารต้านอนุมูลอิสระ lycopene – ซึ่งช่วยอุ้มทำลายอนุมูลอิสระในร่างกายซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อเซลล์ของเราในความเป็นจริง คนที่อาศัยอยู่ในตะวันตกได้รับร้อยละ 85 ของสารอาหารนี้จากมะเขือเทศLycopene อาจช่วยผู้ป่วยกับ:มะเร็งต่อมลูกหมากมะเร็งเต้านมมะเร็งกระเพาะอาหารที่เกี่ยวข้องอายุเสื่อม macularและมันสามารถเพิ่มความสามารถประกวดเพื่อป้องกันรังสียูวีบางการศึกษาได้แนะนำ lycopene อาจมีบทบาทในการลดไขมันที่ไม่ดีLycopene เป็นแม้หนึ่งในส่วนผสมหลักในใหม่ 'ความงามยา' การศึกษาที่ดำเนินการ โดยแผนกผิวหนังที่ชาริทมหาวิทยาลัย เบอร์ลิน ค้นพบการเชื่อมโยงระหว่างอาหารเสริม lycopene ที่ใช้และผิวเรียบ รอย ย่นน้อยมะเขือเทศควรรับประทานทั้งหมดจะได้รับผลกระทบทั้งสุขภาพ'สิ่งสำคัญจำเป็นที่คุณต้องการทั้งหมดของมะเขือเทศจะได้รับความความดี กล่าวว่า ดร. Thomas Stuttaford ผู้เชี่ยวชาญในโรคมะเร็งต่อมลูกหมากและรองประธานของ UK ต่อมลูกหมาก'Lycopene สุดเมื่อรวมนอยด์อื่น ๆ ในมะเขือเทศ ซึ่งทำให้ lycopene มากมีประสิทธิภาพมากขึ้น เขากล่าวว่าเซียนกระเป๋า dietician ที่อังกฤษสมาคม Dietetic เพิ่ม, ' เป็นสิ่งสำคัญจำ lycopene ที่มีควรเป็นส่วนหนึ่งของอาหารเพื่อสุขภาพและชีวิต' มันไม่ใช่กระสุนวิเศษ ดังนั้นคุณไม่ดื่ม สูบบุหรี่กินไขมันอิ่มตัว และบอกว่า มันก็โอเค เพราะฉันกำลังกินมะเขือเทศ'ดีที่สุดคือกินมะเขือเทศเป็นส่วนหนึ่งของอาหารเมดิเตอร์เรเนียน ด้วยผลไม้และผัก เธอกล่าวว่ามะเขือเทศใดมะเขือเทศสุก แดงเป็นมี lycopene มากกว่ากว่าคนจาง แฉะทั้งนี้เนื่องจากมี lycopene ที่ทำให้สีของพวกเขาเฮย์แมนเจอร์รี่ โฆษกสำหรับที่อังกฤษมะเขือเทศเกษตรกรของสมาคม ได้ศึกษาเนื้อหา lycopene ในแตกต่างกัน'ช้า-ripening นำเข้าชนิดของมะเขือเทศมักจะ มีระดับต่ำกว่าของ lycopene กล่าวว่า เฮย์แมนเจอร์รี่'พวกเขามี bred ชีวิตยาว และนี้รบกวนการ ripening เขากล่าวว่า"สิ่งที่สำคัญจะเพลิดเพลินกับมะเขือเทศ – โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณกำลังพยายามส่งเสริมให้เด็กรับประทานให้' เล็กมะเขือเทศมะเขือเทศลูกพลัม มะเขือเทศเชอร์รี่ และ ชนิดพิคโคโล่ – มีแนวโน้มจะหวานกว่ากัน เฟอร์รารี ค็อกเทลมะเขือเทศ และมะเขือเทศแจ็คฮอว์กินส์ก็ดี lycopene เขากล่าวว่าปรุงมะเขือเทศเพื่อเพิ่มผลกระทบต่อสุขภาพสุก หรือร้อนที่ประมวลผลมะเขือเทศประกอบด้วย lycopene มากกว่า เพราะอาหารช่วยปล่อย lycopene จากเซลล์มะเขือเทศLycopene เป็นไขมันที่ละลายน้ำได้ จึงช่วยทำอาหารในน้ำมัน น้ำมันมะกอก'กินมะเขือเทศและเติมจำนวนต่อบริโภค lycopene พิซซ่า' กล่าวว่า เซียนกระเป๋า'แน่นอนที่มีการให้น้ำหนักกับวัตถุเจือปน เช่นน้ำตาล และ เกลือ – และมันอาจจะดีกว่าการบริโภคมะเขือเทศ purée เธอกล่าวว่าเนื่องจากอาหารลดวิตามินซี อย่างไรก็ตาม ที่อังกฤษมะเขือเทศเกษตรกรของสมาคมแนะนำช่วงของมะเขือเทศสด และสุกกินมะเขือเทศซอสตามสามารถรับประทานกับน้ำซุป พาสต้า เพิ่ม stews โบโลเนส แกงมะเขือเทศใช้ ใช้เป็น topping พิซซ่า หรือทำเป็นซอสเผ็ดสุด falafels หรือลูกชิ้นสามารถเพิ่มมะเขือเทศสดกับสลัด แซนด์วิช หรือ garnishes กับอาหารมื้อหลักได้สูตร 'รสชาติ-tastic'ซอสมะเขือเทศพื้นฐานเริ่ม โดยเบา ๆ ทอดกระเทียมและหอมใหญ่เพิ่มมะเขือเทศ (สด หรือ tinned), purée มะเขือเทศ ออริกาโน และใบโหระพา และฤดูกาลอาหารความร้อนอ่อนโยนจนกว่าน้ำจิ้มจะมีสีแดง และแท่งไปด้านหลังของช้อนนี้สามารถจัดเก็บ และมักจะรสชาติดีกว่าในวันถัดไปใช้เป็นฐานสำหรับอาหารจานอื่น ๆ โบโลเนส หรือเพิ่มพริกสำหรับซอสเผ็ด arrabiataสำหรับ bruschetta อร่อยสับค่าสุก flavoursome มะเขือเทศสดกับกระเทียม สมุนไพรสด และฤดูกาลแปรง ciabatta หั่นบาง ๆ หรือขนมปังฝรั่งเศสกับน้ำมันมะกอก และขนมปังปิ้งในเตาอบด้านบน มีมะเขือเทศเมื่อทำข้อมูลเพิ่มเติมเว็บไซต์โซนมะเขือเทศมีคำแนะนำสำหรับให้เด็กเกี่ยวกับมะเขือเทศปรับปรุงล่าสุด: 03.06.2010

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เขียนโดยนาตาชาแมนน์ (สุขภาพนักข่าว) ไม่ว่าคุณจะรักหั่นมะเขือเทศเนื้อ drizzled กับน้ำมันมะกอกหรือซอสมะเขือเทศพาสต้าลิงกิวนีของคุณ - การรับประทานมะเขือเทศเป็นประจำเป็นสิ่งที่ดีสำหรับสุขภาพของคุณเช่นเดียวกับเพดานปากของคุณ. ที่นี่เรามองสุขภาพที่แตกต่างกัน ประโยชน์ของมะเขือเทศ. ผลไม้ Wonder? มะเขือเทศมีถิ่นกำเนิดในอเมริกาใต้ แต่พวกเขาได้รับการปลูกและมีความสุขในยุโรปสำหรับหลายร้อยปี. เมื่อเร็ว ๆ นี้พวกเขาได้รับการเชื่อมโยงกับทุกชนิดของประโยชน์ต่อสุขภาพ. หนึ่งศึกษาในสหรัฐอเมริกาพบว่าการกินมะเขือเทศเป็นประจำจะทำได้ ลดความเสี่ยงของคนที่จะเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก. ผลไม้สีแดงมันวาว (ซึ่งมาจริงในทุกชนิดของสีรวมทั้งสีเหลืองและสีม่วงเข้ม) จะถูกบรรจุเต็มของวิตามิน - รวมทั้งวิตามิน A, C และ E อีกทั้งยังมี flavonoids (anti ธรรมชาติ -inflammatories), โพแทสเซียมและเกลือแร่อื่น ๆ . มะเขือเทศมีปริมาณสูงของน้ำและพวกเขากำลังสดชื่นในสลัดในวันที่ร้อน พวกเขากำลังอยู่ในระดับต่ำแคลอรี่มากเกินไปมีประมาณ 14 กิโลแคลอรีต่อ 100 กรัม -. ประมาณหนึ่งและมะเขือเทศคลาสสิกครึ่งหนึ่งหรือ 5-6 มะเขือเทศเชอร์รี่ไลโคปีนที่น่าสนใจมากในมะเขือเทศที่ได้รับเนื่องจากการต้านอนุมูลอิสระไลโคปีน - ซึ่งจะช่วยให้ซับขึ้น . สร้างความเสียหายอนุมูลอิสระในร่างกายที่สามารถเป็นอันตรายต่อเซลล์ของเราในความเป็นจริงคนที่อาศัยอยู่ในเวสต์ได้รับร้อยละ 85 ของสารอาหารนี้จากมะเขือเทศ. ไลโคปีนอาจช่วยปัดกับ: มะเร็งต่อมลูกหมากมะเร็งเต้านมโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร. ที่เกี่ยวข้องกับอายุการเสื่อมสภาพและ มันจะช่วยเพิ่มความสามารถในการกินเพื่อป้องกันตัวเองจากรังสียูวี. การศึกษาบางคนบอกไลโคปีนอาจมีบทบาทสำคัญในการลดคอเลสเตอรอลที่ไม่ดี. ไลโคปีนเป็นแม้กระทั่งหนึ่งในส่วนผสมหลักในใหม่ 'ยาเม็ดงาม' การศึกษาดำเนินการโดยแผนกโรคผิวหนังที่เตมหาวิทยาลัยในเบอร์ลิน, ค้นพบความเชื่อมโยงระหว่างอาหารเสริมตามไลโคปีนและเรียบเนียน, ผิวเหี่ยวย่นน้อยลง. มะเขือเทศควรจะรับประทานทั้งเพื่อให้ได้ผลที่ดีต่อสุขภาพเต็มรูปแบบ. 'สิ่งสำคัญที่ต้องจำไว้คือ คุณจะต้องทั้งมะเขือเทศที่จะได้รับความดีของ 'ดรโทมัส Stuttaford, ผู้เชี่ยวชาญในการรักษามะเร็งต่อมลูกหมากและรองประธานของต่อมลูกหมากในสหราชอาณาจักร. 'ไลโคปีนที่ดีที่สุดคือเมื่อรวมกับ bioflavonoids อื่น ๆ ในมะเขือเทศซึ่งทำให้ไลโคปีนมีประสิทธิภาพมากขึ้น 'เขากล่าวว่า. เซียนพอร์เตอร์นักโภชนาการที่อังกฤษสมาคมโภชนาการเพิ่ม 'มันเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องจำไว้ไลโคปีนที่มีที่จะนำมาเป็นส่วนหนึ่งของอาหารที่ดีต่อสุขภาพและการดำเนินชีวิต. 'มันไม่ได้เป็น bullet มายากลดังนั้นคุณจึงไม่สามารถ ดื่มสูบบุหรี่และกินไขมันอิ่มตัวและบอกว่ามันโอเคเพราะผมกินมะเขือเทศ. 'มันที่ดีที่สุดที่จะกินมะเขือเทศเป็นส่วนหนึ่งของอาหารเมดิเตอร์เรเนียนที่มีมากมายของผักและผลไม้,' เธอบอกว่า. ซึ่งมะเขือเทศ? สุกมะเขือเทศสีแดง แนวโน้มที่จะมีไลโคปีนมากกว่าซีดคนน้ำ. นี้เป็นเพราะมันเป็นไลโคปีนที่ช่วยให้พวกเขาสีของพวกเขา. เจอร์รี่เฮย์แมนโฆษกของเกษตรกรผู้ปลูกมะเขือเทศอังกฤษของสมาคมได้รับการตรวจสอบเนื้อหาของไลโคปีนในสายพันธุ์ที่แตกต่างกัน. 'ช้าสุกนำเข้า ประเภทของมะเขือเทศมีแนวโน้มที่จะมีระดับที่ต่ำกว่าของไลโคปีน '. เจอร์รี่เฮย์แมนกล่าวว่า'พวกเขาได้รับการอบรมเพื่อชีวิตที่ยาวนานและนี้รบกวนกระบวนการสุก,' เขากล่าว. 'สิ่งที่สำคัญคือจะเพลิดเพลินไปกับมะเขือเทศ - โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณ กำลังพยายามที่จะส่งเสริมให้เด็กกินพวกเขา. 'มะเขือเทศขนาดเล็ก - เช่นมะเขือเทศพลัมลูกมะเขือเทศเชอร์รี่และประเภทขลุ่ย - มีแนวโน้มที่จะหวาน เฟอร์รารี, มะเขือเทศค๊อกเทลและมะเขือเทศแจ็คฮอว์กินยังดีสำหรับไลโคปีน 'เขากล่าว. มะเขือเทศปรุงอาหารของคุณเพื่อเพิ่มผลกระทบที่ดีต่อสุขภาพที่ปรุงสุกหรือการประมวลผลมะเขือเทศมีไลโคปีนความร้อนมากขึ้นเพราะการปรุงอาหารที่จะช่วยให้การปล่อยไลโคปีนออกมาจากเซลล์มะเขือเทศ. ไลโคปีนเป็นไขมันที่ละลายน้ำได้ . จึงช่วยในการปรุงเป็นอาหารในน้ำมันเช่นน้ำมันมะกอก'การกินซอสมะเขือเทศและพิซซ่านับเครื่องประดับที่มีต่อปริมาณไลโคปีน' เซียนพอร์เตอร์กล่าวว่า. 'แน่นอนว่าจะต้องมีการชั่งน้ำหนักกับสารเติมแต่งเช่นน้ำตาลและเกลือ - และ มันอาจจะดีกว่าที่จะใช้น้ำซุปข้นมะเขือเทศ 'เธอบอกว่า. ตั้งแต่การปรุงอาหารช่วยลดวิตามินซี แต่เกษตรกรผู้ปลูกมะเขือเทศอังกฤษสมาคมขอแนะนำให้รับประทานอาหารที่มีช่วงของมะเขือเทศสดและสุก. มะเขือเทศซอสตามสามารถรับประทานเป็นซุป, เพิ่มให้กับพาสต้า สตูว์, โบ, แกงมะเขือเทศที่ใช้นำมาใช้เป็นเครื่องประดับพิซซ่าหรือทำในซอสเผ็ดไปข้างบน falafels หรือลูกชิ้น. มะเขือเทศสดสามารถเพิ่มสลัด, แซนวิชหรือเป็นเครื่องปรุงเพื่ออาหารหลัก. 'Taste-tastic' สูตรซอสมะเขือเทศพื้นฐานเริ่มต้นด้วยการหอมเบา ๆ ทอดกระเทียม. เพิ่มมะเขือเทศ (สดหรือบรรจุกระป๋อง) น้ำซุปข้นมะเขือเทศและใบโหระพาออริกาโนและฤดู. คุกบนไฟอ่อนจนซอสอยู่ลึกสีแดงและไม้ที่ด้านหลังของช้อน. นี้สามารถ ถูกเก็บไว้และมักจะมีรสชาติที่ดีกว่าในวันถัดไป. ใช้เป็นฐานสำหรับอาหารอื่น ๆ เช่นโบหรือเพิ่มพริกสำหรับซอส Arrabiata เผ็ด. สำหรับ Bruschetta แสนอร่อยขึ้นสับสุกรสเด็ดมะเขือเทศสดกับกระเทียมสมุนไพรสดและฤดู . . แปรงหั่น ciabatta หรือขนมปังฝรั่งเศสกับน้ำมันมะกอกและขนมปังปิ้งในเตาอบด้านบนมีมะเขือเทศเมื่อดำเนินการเสร็จ. ข้อมูลเพิ่มเติมเว็บไซต์มะเขือเทศโซนมีข้อเสนอแนะสำหรับการให้ความรู้เด็ก ๆ เกี่ยวกับมะเขือเทศ. อัพเดทล่าสุด: 2010/06/03

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เขียนโดย นาตาชา มานน์ ( นักข่าวสุขภาพ )


ไม่ว่าคุณจะรักเนื้อสไลด์มะเขือเทศ , drizzled กับน้ำมันมะกอก หรือ ซอสมะเขือเทศบนพาสต้า พาสต้า–ของคุณกินมะเขือเทศเป็นประจำเป็นสิ่งที่ดีสำหรับสุขภาพของคุณเช่นเดียวกับเพดานปากของคุณ .

เรามาดูที่แตกต่างกันสุขภาพประโยชน์ของมะเขือเทศ

สงสัยว่า ผลไม้
มะเขือเทศพื้นเมืองของอเมริกาใต้แต่พวกเขาได้เติบโตขึ้นและมีความสุขในยุโรปหลายร้อยปี

เมื่อเร็ว ๆนี้ พวกเขาได้ถูกเชื่อมโยงกับทุกประเภทของประโยชน์ต่อสุขภาพ

หนึ่งเราพบว่ารับประทานมะเขือเทศเป็นประจำสามารถลดความเสี่ยงของคนเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก .

มันผลไม้สีแดง ( ซึ่งจริง ๆมาในทุกชนิดของสี รวมทั้งสีเหลืองและสีม่วงเข้ม ) บรรจุเต็มของวิตามิน–รวมถึงวิตามิน A ,C และ E .

ยังประกอบด้วยสารฟลาโวนอยด์ ( ธรรมชาติ anti inflammatories ) , โพแทสเซียมและเกลือแร่ชนิดอื่น ๆ .

มะเขือเทศมีปริมาณสูงของน้ำ และก็สดชื่น สลัดในวันร้อน พวกเขาเป็นแคลอรี่ต่ำเกินไป ประมาณ 14 กิโลแคลอรี่ต่อ 100 กรัม ( ประมาณหนึ่งและครึ่ง คลาสสิค มะเขือเทศ หรือ ห้า ถึง หกมะเขือเทศไลโคปีน

.

มากของความสนใจในมะเขือเทศมีไลโคปีน–เนื่องจากสารต้านอนุมูลอิสระซึ่งช่วยถูพื้นทำลายอนุมูลอิสระในร่างกายที่สามารถเป็นอันตรายต่อเซลล์ของเรา

ในความเป็นจริง ผู้คนที่อาศัยอยู่ในประเทศตะวันตกได้ 85 เปอร์เซ็นต์ของธาตุอาหารนี้จากมะเขือเทศ ไลโคปีนอาจช่วย

:

ประสบการณ์กับมะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งเต้านมมะเร็งกระเพาะ



การเสื่อมสภาพอายุที่เกี่ยวข้องกับและอาจเพิ่มสกินความสามารถในการปกป้องตัวเองจากรังสียูวี .

บางการศึกษาพบไลโคปีนอาจมีบทบาทในการลดคอเลสเตอรอลที่ไม่ดี

ไลโคปีนเป็นหนึ่งในส่วนผสมหลักในใหม่ ' ความงามยา ' การศึกษาที่ดำเนินการโดยแผนกโรคผิวหนังที่ charite มหาวิทยาลัยในเบอร์ลิน , ค้นพบการเชื่อมโยงระหว่างอาหารเสริมไลโคปีนขึ้นและเรียบเนียน ไม่เหี่ยว ผิว

มะเขือเทศ ควรรับประทานทั้งได้รับผลสุขภาพเต็ม

" สิ่งสำคัญที่จะจำที่คุณต้องการทั้งหมดของมะเขือเทศที่จะได้รับความดี ' กล่าวว่า ดร โทมัส stuttaford ผู้เชี่ยวชาญด้านมะเร็งต่อมลูกหมากและรองประธานของต่อมลูกหมาก UK

'lycopene ได้ดีที่สุดเมื่อรวมกับอื่น ๆ bioflavonoids ซึ่งในมะเขือเทศ ให้ไลโคปีนมีประสิทธิภาพมากขึ้น " เขากล่าว .

เซียนพอร์เตอร์โภชนากรที่สมาคมโภชนาการอังกฤษเพิ่ม " มันสำคัญที่ต้องจำว่า ไลโคปีน ต้องนำมาเป็นส่วนหนึ่งของอาหารสุขภาพและวิถีชีวิต

' มันไม่ได้เป็นกระสุนเวทมนตร์ ดังนั้นคุณไม่สามารถดื่ม สูบบุหรี่ และกินไขมันอิ่มตัวและบอกว่าไม่เป็นไร เพราะผมกินมะเขือเทศ

มันเป็นดีที่สุดที่จะกินมะเขือเทศเป็นส่วนหนึ่งของอาหารเมดิเตอร์เรเนียนที่มีมากมายของผักและผลไม้ , ' เธอกล่าว .

ซึ่งมะเขือเทศ
สุก , มะเขือเทศสีแดงมีแนวโน้มที่จะมีมากขึ้นเล็กน้อยกว่า paler , น้ำ . .

เพราะมันเป็นไลโคปีนที่ช่วยให้พวกเขาสี

เจอร์รี่ Horn , โฆษกสำหรับสมาคมผู้ปลูกมะเขือเทศในอังกฤษ ได้ศึกษาปริมาณไลโคปีนในพันธุ์ที่แตกต่างกัน

'slow-ripening นำเข้าประเภทของมะเขือเทศมักจะ ต้องลดระดับของไลโคปีน ' บอกว่าเจอร์รี่ Horn .

มันได้ถูก bred สำหรับชีวิตยาว และแทรกแซงกระบวนการสุก ' เขากล่าว ' .

ที่สำคัญเพลิดเพลินมะเขือเทศ–โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณกำลังพยายามที่จะกระตุ้นให้เด็กกิน

'small มะเขือเทศ–เช่นลูกพลัมมะเขือเทศ , มะเขือเทศเชอร์รี่และ Piccolo ( มักจะเป็นชนิดหวาน . เฟอร์รารี , มะเขือเทศ และ Jack Hawkins มะเขือเทศไลโคปีนแน่ ,' เขาบอกว่า

ปรุงอาหารมะเขือเทศเพื่อเพิ่มผลสุขภาพ
สุกหรือความร้อนแปรรูปมะเขือเทศมีไลโคปีนมากกว่า เพราะอาหารช่วยปลดปล่อยไลโคปีนจากมะเขือเทศ Lycopene เซลล์

จะละลายในไขมัน ดังนั้นจึงช่วยในการปรุงอาหารด้วยน้ำมัน เช่น น้ำมันมะกอก

'eating มะเขือเทศซอสมะเขือเทศ และ พิซซ่า หน้านับต่อปริมาณไลโคพีน , ' กล่าวว่าเซียน

พอทเตอร์' แน่นอนว่ามันต้องหนักกับวัตถุเจือปน เช่น น้ำตาลทราย และเกลือ ) และมันอาจจะดีกว่าที่จะกินมะเขือเทศปั่นé e , ' เธอกล่าว .

ตั้งแต่อาหารลดวิตามิน อย่างไรก็ตาม สมาคมผู้ปลูกมะเขือเทศอังกฤษแนะนำให้กินช่วงสดและสุกมะเขือเทศ

ใช้มะเขือเทศ ซอส สามารถกินเป็นซุปเพิ่มพาสต้าสตูว์หมู มะเขือเทศ ใช้แกงใช้เป็นหน้าพิซซ่า หรือทำเป็นซอสเผ็ดกับเครปด้านบนหรือลูกชิ้น

มะเขือเทศสดสามารถเพิ่มสลัด แซนด์วิช หรือเป็น garnishes กับอาหารหลัก

'taste-tastic ' สูตร

เริ่มพื้นฐาน ซอสมะเขือเทศ โดยค่อย ๆทอด หอม กระเทียม
ใส่มะเขือเทศ ( สดหรือบรรจุกระป๋อง ) , มะเขือเทศ เปอร์ออร์ , ออริกาโนและโหระพาและฤดูกาล
ปรุงอาหารในความร้อนที่อ่อนโยนจนซอสลึกสีแดงและเกาะติดกับด้านหลังของช้อน .
นี้สามารถเก็บไว้และมักจะรสชาติดีในวันถัดไป

ใช้เป็นฐานสำหรับอาหารอื่น เช่น หมู หรือ ใส่ซอสซอสมะเขือเทศกับพริกที่เผ็ด อร่อย Bruschetta


สำหรับ สับสุก flavoursome มะเขือเทศสด กับกระเทียม สมุนไพรสด และฤดูกาล ซอยเซียบัตต้า หรือแปรง
ขนมปังกับน้ำมันมะกอกและขนมปังปิ้งในเตาอบ .
ด้านบนด้วยมะเขือเทศเมื่อเสร็จแล้ว

ข้อมูลเพิ่มเติมเว็บไซต์เขตมะเขือเทศมีข้อเสนอแนะสำหรับการให้เด็กเกี่ยวกับมะเขือเทศ

อัพเดทล่าสุด : 03.06.2010