the resistance of R1 should be much

the resistance of R1 should be much larger,than xc1 at the possible oscillation frequency , of the circuit (the frequency at which MB = 1 ) to minimize the loop phase shift. R1 should also be much smaller then R2 , to keep the voltage gain high for compensation purposes . A simple rule of thumb is to make R1 = R2/20. Division by any convenient factor up ,to 100 might be satisfactory. If the signal source resistance Rs is substantial, it should be considered part of R1. the voltage gain for determining the op-amp compensating components is then Av = r2/(R1+R2).
Resistor R3 is included in the circuit (as always) to equalize the dc Ib Rb voltage
drop at the op-amp input terminals. since R1 is dc open-circuited by the presence of C1 the total resistance in series with the op-amp inverting input terminal is the resistance of R2 .therefore, R3 should equal R2
Example 8-1
design a differentiating circuit to give an output of 5 v when the input changes by 1 v
in a time of 100 us. use an op amp with a bipolar input stage

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ความต้านทานของ R1 ควรมีขนาดใหญ่ กว่า xc1 ที่ความถี่ที่สั่นได้ ของวงจร (ความถี่ที่ MB ซึ่ง = 1) เพื่อลดระยะกะวน R1 ควรเป็น R2 มากแล้วขนาดเล็ก ให้ดันสูงสำหรับค่าตอบแทน ตัวอย่างกฎของหัวแม่มือจะทำให้ R1 = R2/20 หาร ด้วยปัจจัยใด ๆ สะดวก 100 อาจจะพอใจ ถ้าต่อต้านแหล่งสัญญาณ Rs พบ มันควรพิจารณาส่วนของ R1 จากนั้นจะดันในการกำหนดคอมโพเนนต์ compensating op-amp Av = r2/(R1+R2)ตัวต้านทาน R3 จะรวมในวงจร (เช่นเคย) จะป้อนกล่อง dc แรงดัน Ib Rbปล่อยที่เทอร์มินัลเข้า op-amp R1 เป็น dc circuited เปิด โดยสถานะของ C1 ความต้านทานรวมในชุดกับ op-amp สีตรงกันข้ามสถานีสัญญาณมีความต้านทานของ R2 .therefore, R3 ควรเท่ากับ R2ตัวอย่างที่ 8-1ออกแบบวงจร differentiating ให้ output ของ 5 v เมื่ออินพุตเปลี่ยน โดย 1 vในเวลา 100 สหรัฐอเมริกา ใช้ op amp มีขั้นตอนการป้อนไฟที่ไบโพลาร์

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ความต้านทานของ R1 ควรจะมีขนาดใหญ่กว่า xc1 ที่ความถี่เป็นไปได้ของวงจร (ความถี่ที่ MB = 1) เพื่อลดการเปลี่ยนเฟสห่วง R1 ก็ควรจะมีขนาดเล็กมากแล้ว R2 เพื่อให้กำไรแรงดันสูงเพื่อวัตถุประสงค์ในการชดเชย กฎง่ายๆของหัวแม่มือคือการทำให้ R1 = R2 / 20 หารด้วยถึงปัจจัยที่สะดวกใด ๆ 100 อาจจะเป็นที่น่าพอใจ ถ้าแหล่งสัญญาณต้านทานอาร์เอสเป็นอย่างมากก็ควรจะถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของ R1 แรงดันกำไรในการกำหนดองค์ประกอบชดเชยสหกรณ์แอมป์แล้ว Av = r2 / (R1 + R2).
ต้านทาน R3 จะรวมอยู่ในวงจร (เช่นเคย) เท่ากันแรงดันไฟฟ้ากระแสตรง Ib Rb
ลดลงที่ช่องรับสัญญาณสหกรณ์แอมป์ ตั้งแต่ R1 เป็น dc เปิดลัดโดยการปรากฏตัวของ C1 ต้านทานรวมในซีรีส์กับสหกรณ์แอมป์ inverting ขั้วเข้าเป็นความต้านทานของ R2 .therefore ที่ R3 ควรเท่ากับ R2
ตัวอย่าง 8-1
ออกแบบวงจรที่แตกต่างเพื่อให้การส่งออกของ 5 โวลต์เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงการป้อนข้อมูลโดยโวลต์ 1
ในเวลา 100 เรา ใช้แอมป์สหกรณ์ที่มีขั้นตอนการป้อนข้อมูลสองขั้ว

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ความต้านทาน R1 ควรมีขนาดใหญ่มาก มากกว่า xc1 ที่ความถี่การสั่นที่เป็นไปได้ของสัญญาณความถี่ซึ่ง MB = 1 ) การลดห่วง เฟส กะ R1 ก็ควรจะมีขนาดเล็กมากแล้วอาร์ทู เก็บแรงดันได้สูงเพื่อชดเชย กฎง่ายๆของหัวแม่มือคือให้ R1 = R2 / 20 ส่วนปัจจัยโดยสะดวกใด ๆขึ้นถึง 100 อาจจะพอใจถ้าแหล่งสัญญาณต้านทาน RS เป็นรูปธรรม จึงควรถือเป็นส่วนหนึ่งของ R1 . ได้รับการชดเชยแรงดัน OP แอมป์ประกอบแล้ว AV = R2 / ( R1 R2 )
. R3 รวมอยู่ในวงจร ( เช่นเคย ) เกลี่ยวปแรงดันไฟฟ้า DC IB
วางที่ OP แอมป์เข้าเทอร์มินัลตั้งแต่เปิด circuited R1 เป็น DC โดยการแสดงตนของ C1 ความต้านทานรวมในชุดกับ OP แอมป์กลับหัวใส่ขั้วคือความต้านทานของอาร์ทู จึงควรเท่ากับ R2 R3
ตัวอย่าง 8-1
ออกแบบทั้งวงจรให้ output 5 V เมื่อป้อนข้อมูลการเปลี่ยนแปลงโดย 1 v
ในเวลา 100 เรา . ใช้ op amp กับเวทีป้อนข้อมูลไบโพลาร์