ภัยแล้งขยายวงกว้างเข้าขั้นวิกฤต ทำให้พื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศยังไม่มีฝนตกลงมาเพียงพอต่อภาคการเกษตร และเติมน้ำในเขื่อน
สภาพความเป็นอยู่ของชาวบ้านประมงปากนาย อำเภอนาหมื่น จังหวัดน่าน ที่อาศัยอยู่บนแพกลางน้ำ บอกว่า ตอนนี้ได้รับความเดือดร้อนหนัก จากเคยเป็นพื้นที่รับน้ำจากเขื่อนสิริกิติ์ แต่ในขณะนี้ระดับน้ำลดลง จนทำแพเกยตื้นและเสียหายหลายหลัง รวมถึงแพยนต์ที่เดินทางจากปากนายไปยังอำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์ ต้องงดให้บริการมานานกว่า 2 เดือน
เขื่อนสิริกิติ์ยังมีน้ำอยู่ในอ่างกว่า 3,400 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือมีน้ำใช้จริง 559 ล้านลูกบาศก์เมตร ยังคงเพียงพอกับการระบายน้ำเพื่อรักษาระบบนิเวศน์เท่านั้น ขณะที่ชาวบ้านที่ทำประมงกำลังวิตกกังวล เนื่องจากน้ำในเขื่อนลดลงอย่างต่อเนื่้องจนเห็นเกาะแก่ง และบางพื้นที่กลายเป็นทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ไปแล้ว
ขณะที่เขื่อนพระราม 6 จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ลดการน้ำลงจากวันละ 37 ลูกบาศก์เมตร เหลือเพียง 24 ลูกบาศก์เมตร เนื่องจากได้รับผลกระทบจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ที่ลดการระบายน้ำลงสู่พื้นที่ท้ายเขื่อน
เช่นเดียวกับคลองระพีพัฒน์ จังหวัดปทุมธานี ที่วิกฤติระดับน้ำในคลองสูง เพียง 40 เซนติเมตร ล่าสุดต้องการมีตกลงแบ่งพื้นที่ใช้น้ำ โดยอำเภอหนองเสือ มีสิทธิ์สูบน้ำได้ 3 วัน คือ วันศุกร์-อาทิตย์ ส่วนอำเภอคลองหลวง สามารถสูบน้ำได้ตั้งแต่วันจันทร์-พฤหัสบดี
ขณะที่พื้นที่ใต้เขื่อนภูมิพล ชาวนาในพื้นที่อำเภอพรานกระต่าย จังหวัดกำแพงเพชร ต้องระดมเครื่องสูบน้ำกว่า 30 เครื่องสูบน้ำจากอ่างเก็บน้ำปู่พระยาพระร่วง ที่รับน้ำจากคลองชลประทานท่อทองแดง เข้าพื้นที่นาที่กำลังยืนต้น และคาดว่าจะต้องใช้เวลาในการสูบน้ำไม่ต่ำกว่า 5 วัน น้ำจึงจะไปถึงปลายคลอง