Study of vitamin C degradation in a

Study of vitamin C degradation in acerola pulp during ohmic and conventional heat treatment
This work presents a study regarding total vitamin C and ascorbic acid degradation in acerola pulp during thermal treatment by ohmic and conventional heating. For the ohmic heating technology, the ascorbic acid degradation ranged from 3.08 to 10.63%. The applied voltage and the solids content of the pulp significantly influenced the degradation of the compounds. The voltage gradient had a positive effect, i.e., an increase in the voltage gradient lead to an increase in the AA degradation. The total vitamin C degradation ranged from 2.0 to 5.1%. The vitamin C degradation was influenced only by the linear and the quadratic effects of the voltage.

Ohmic heating, when performed with low voltage gradients, exhibited vitamin C and ascorbic acid degradation similar to conventional heating. However, high voltage gradients increased the degradation of both vitamin C and ascorbic acid. This behavior may be explained by the increase of electrochemical reactions when using high voltage gradients, which can adversely affect the ascorbic acid and catalyze the degradation pathways in the presence of oxygen.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ศึกษาของวิตามินซีสลายตัวใน acerola เยื่อระหว่างรักษาความร้อนแบบโอห์มมิค และทั่วไปงานนี้แสดงการศึกษาเกี่ยวกับการลดประสิทธิภาพของกรดแอสคอร์บิคและวิตามินซีรวมใน acerola เยื่อระหว่างรักษาความร้อน โดยความร้อนแบบโอห์มมิค และทั่วไป สำหรับเครื่องทำความร้อนแบบโอห์มมิคเทคโนโลยี ลดกรดแอสคอร์บิคอยู่ในช่วงจาก 3.08% 10.63 แรงดันไฟฟ้าที่ใช้และเนื้อหาของแข็งของเนื้อเยื่ออย่างมากผลการสลายตัวของสารประกอบ ผลบวก เช่น การเพิ่มลูกค้าเป้าหมายไล่ระดับแรงดันไฟฟ้าขึ้นสลายตัว AA ไล่ระดับแรงดันไฟฟ้าได้ ย่อยสลายรวมวิตามินซีที่อยู่ในช่วงจาก 2.0 เป็น 5.1% สร้างวิตามินซีได้รับ โดยการเชิงเส้นและผลกำลังสองของแรงดันไฟฟ้าเท่านั้นแบบโอห์มมิคเล็ก ๆ เมื่อทำ ด้วยแรงดันต่ำไล่ระดับสี จัดแสดงวิตามินซี และกรดแอสคอร์บิคสร้างคล้ายกับเครื่องทำความร้อนทั่วไป อย่างไรก็ตาม ไล่ระดับสีแรงดันสูงเพิ่มการสลายตัวของวิตามินซีและกรดแอสคอร์บิค ลักษณะการทำงานนี้อาจจะอธิบายการเพิ่มขึ้นของปฏิกิริยาไฟฟ้าเคมีเมื่อใช้แรงดันสูงไล่ระดับสี ซึ่งสามารถส่งผลต่อกรดแอสคอร์บิค และสถาบันหลักย่อยสลายในต่อหน้าของออกซิเจน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การศึกษาการย่อยสลายวิตามินซีในเยื่ออะเซโรล่าในระหว่างการรักษาความร้อน ohmic และธรรมดา
งานนี้นำเสนอการศึกษาเกี่ยวกับวิตามินซีรวมและความเสื่อมโทรมของวิตามินซีในเยื่ออะเซโรล่าในระหว่างการรักษาความร้อนด้วยความร้อน ohmic และธรรมดา สำหรับเทคโนโลยีความร้อน ohmic ย่อยสลายวิตามินซีอยู่ในช่วง 3.08-10.63% แรงดันไฟฟ้าที่นำไปใช้และปริมาณของแข็งที่เยื่ออิทธิพลอย่างมีนัยสำคัญการย่อยสลายของสาร ไล่ระดับแรงดันไฟฟ้าที่มีผลกระทบในเชิงบวกคือการเพิ่มขึ้นของการไล่ระดับสีนำแรงดันไฟฟ้าที่จะเพิ่มขึ้นในการย่อยสลาย AA การย่อยสลายวิตามินซีรวมอยู่ในช่วง 2.0-5.1% การย่อยสลายวิตามินซีที่ได้รับอิทธิพลโดยเฉพาะการเชิงเส้นและสมการกำลังสองผลกระทบของแรงดันไฟฟ้า. ร้อนแบบโอห์มมิคเมื่อดำเนินการกับการไล่ระดับสีแรงดันต่ำแสดงวิตามินซีและความเสื่อมโทรมของวิตามินซีที่คล้ายกับความร้อนธรรมดา อย่างไรก็ตามการไล่ระดับสีแรงดันสูงที่เพิ่มขึ้นการย่อยสลายของทั้งวิตามินซีและวิตามินซี ลักษณะการทำงานนี้อาจจะอธิบายได้จากการเพิ่มขึ้นของการเกิดปฏิกิริยาไฟฟ้าเคมีเมื่อใช้การไล่ระดับสีแรงดันสูงซึ่งอาจมีผลต่อวิตามินซีและกระตุ้นการย่อยสลายทางเดินในที่ที่มีออกซิเจน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การศึกษาการย่อยสลายในวิตามินซี Acerola เยื่อระหว่างค่าความร้อนปกติและการรักษา
งานนี้เป็นการศึกษาเกี่ยวกับ รวม วิตามินซี และกรดแอสคอร์บิค การย่อยสลายในการรักษา โดยค่าความร้อนเยื่อระหว่าง Acerola และแบบความร้อน สำหรับเทคโนโลยีความร้อนค่า , การเสื่อมสภาพ กรดแอสคอร์บิกระหว่าง 3.08 กับ 10.63 %ความต่างศักย์ และปริมาณของแข็งของเยื่อมีผลต่อการสลายตัวของสารประกอบ แรงดันไฟฟ้าไล่ระดับได้ผลเป็นบวก คือ การเพิ่มแรงดัน ไล่ระดับ นำไปสู่การเพิ่มขึ้นในการย่อยสลาย AA รวมวิตามิน C สลายตั้งแต่ 2.0 ถึง 5.1%วิตามิน C ที่ได้รับอิทธิพลโดยการเชิงเส้นกำลังสอง และผลของแรงดัน

ค่าความร้อน เมื่อดำเนินการกับการไล่ระดับสีแรงดันต่ำ มีวิตามินซี และกรดแอสคอร์บิกการย่อยสลายคล้ายกับความร้อนปกติ อย่างไรก็ตาม การไล่ระดับสีแรงดันสูงเพิ่มการสลายตัวของวิตามิน C และกรดแอสคอร์บิคพฤติกรรมนี้อาจจะอธิบายได้โดยการเพิ่มขึ้นของปฏิกิริยาไฟฟ้าเคมีเมื่อใช้ไล่แรงดันสูง ซึ่งจะส่งผลกระทบกับกรดแอสคอร์บิกเร่งการย่อยสลายและแนวทางในการปรากฏตัวของออกซิเจน