3.3 ปิโตรเลียมและก๊าซธรรมชาติ สิงคโปร์เป็นศูนย์กลางการกลั่นน้ำมันอันดั การแปล - 3.3 ปิโตรเลียมและก๊าซธรรมชาติ สิงคโปร์เป็นศูนย์กลางการกลั่นน้ำมันอันดั ไทย วิธีการพูด

3.3 ปิโตรเลียมและก๊าซธรรมชาติ สิงคโ

3.3 ปิโตรเลียมและก๊าซธรรมชาติ
สิงคโปร์เป็นศูนย์กลางการกลั่นน้ำมันอันดับ 3 ของโลกรองจาก Houston ในสหรัฐฯ และ Rotterdam ในเนเธอร์แลนด์ สิงคโปร์สามารถกลั่นน้ำมันได้เฉลี่ย 1.3 ล้านบาเรลต่อวัน และรัฐบาลสิงคโปร์คาดหวังว่า สิงคโปร์จะสามารถกลั่นน้ำมันได้ถึง 30 ล้านบาเรล ต่อวันในปี 2573

บริษัทกลั่นน้ำมันที่สำคัญคือ ExxonMobil มีความสามารถในการกลั่นได้สูงสุด 605,000 บาเรล/วัน รองลงมาได้แก่ Royal Dutch Shell 458,000 บาเรล/วัน และ Singapore Petroleum Company (SPC) 273,600 บาเรล/วัน
เป็นที่น่าสังเกตว่าสิงคโปร์ซึ่งไม่มีแหล่งน้ำมันดิบในประเทศเลย แต่สามารถเป็นศูนย์กลางการกลั่นน้ำมันที่สำคัญของโลกได้ ทั้งนี้เนื่องจากความได้เปรียบด้านทำเลที่ตั้ง เพราะสิงคโปร์อยู่บนคาบสมุทรมะละกา ซึ่งคั่นระหว่างมหาสมุทรอินเดียและมหาสมุทรแปซิฟิค นอกจากนี้ ยังมีท่าเรือน้ำลึก จึงเป็นศูนย์กลางของการขนส่งทางทะเล กฎระเบียบที่เอื้ออำนวยต่อการดำเนินธุรกิจ มีการจัด ระบบสาธารณูปโภคที่ดีและแรงงานมีทักษะ จึงทำให้สิงคโปร์กลายเป็นแหล่งค้าขายน้ำมันที่สำคัญ อย่างไรก็ตาม สิงคโปร์ยังต้องเผชิญกับความท้าทายของการเป็นผู้นำด้านการค้าน้ำมันของเอเชียในอนาคต เพราะหลายประเทศ เช่น อินเดีย มาเลเซีย และไทย ได้ก่อสร้างโรงกลั่นน้ำมันแห่งใหม่ เพื่อลดการนำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศรวมทั้งจากสิงคโปร์

สำหรับก๊าซธรรมชาติ สิงคโปร์นำเข้าก๊าซธรรมชาติทั้งหมดจากอินโดนีเซียและมาเลเซีย เพื่อใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้าและปิโตรเคมี ปี 2547 สิงคโปร์ใช้ก๊าซธรรมชาติทั้งสิ้น 273 พันล้านลูกบาศก์ฟุต สูงขึ้นกว่า 6 เท่า เมื่อเทียบกับปี 2545 ซึ่งใช้เพียง 41 พันล้านลูกบาศก์ฟุต เหตุที่การใช้ก๊าซธรรมชาติของสิงคโปร์เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากรัฐบาลส่งเสริมการใช้ก๊าซธรรมชาติแทนเชื้อเพลิงอื่น เพื่อลดการแพร่กระจายของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และซัลเฟอร์ รวมทั้งสร้างความมั่นคงด้านพลังงาน และสนับสนุนให้สิงคโปร์เป็นศูนย์กลางท่อส่งก๊าซของภูมิภาคด้วย

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลสิงคโปร์พยายามลดการพึ่งพาก๊าซธรรมชาติจากอินโดนีเซียและมาเลเซีย โดยหันมาใช้ก๊าซ LNG มากขึ้น เนื่องจากมีหลายประเทศสามารถผลิตได้ นอกจากนี้ LNG ยังมีข้อดีคือราคาค่อนข้างมีเสถียรภาพมากกว่าก๊าซธรรมชาติ เพราะว่าการทำสัญญาซื้อขาย LNG จะเป็นสัญญาระยะยาว แตกต่างจากก๊าซธรรมชาติทั่วไปซึ่งจะมีความสัมพันธ์กับราคาน้ำมัน ทั้งนี้ รัฐบาลมีแผนสร้าง Liquefied Natural Gas Import Terminal ซึ่งคาดว่าจะสำเร็จในปี 2555


0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
3.3 ปิโตรเลียมและก๊าซธรรมชาติ ของโลกรองจากสิงคโปร์เป็นศูนย์กลางการกลั่นน้ำมันอันดับ 3 ฮุสตันในสหรัฐฯ และรอตเตอร์ดัมในเนเธอร์แลนด์สิงคโปร์สามารถกลั่นน้ำมันได้เฉลี่ย 1.3 ล้านบาเรลต่อวันและรัฐบาลสิงคโปร์คาดหวังว่าสิงคโปร์จะสามารถกลั่นน้ำมันได้ถึง 30 ล้านบาเรลต่อวันในปี 2573บริษัทกลั่นน้ำมันที่สำคัญคือเอ็กซอนโมบิลมีความสามารถในการกลั่นได้สูงสุด 605,000 รองลงมาได้แก่บาเรล/วันรอยัลดัตช์เชลล์ 458,000 และบาเรล/วันสิงคโปร์ปิโตรเลียม บริษัท (SPC) 273,600 บาเรล/วันเป็นที่น่าสังเกตว่าสิงคโปร์ซึ่งไม่มีแหล่งน้ำมันดิบในประเทศเลยแต่สามารถเป็นศูนย์กลางการกลั่นน้ำมันที่สำคัญของโลกได้ทั้งนี้เนื่องจากความได้เปรียบด้านทำเลที่ตั้งเพราะสิงคโปร์อยู่บนคาบสมุทรมะละกาซึ่งคั่นระหว่างมหาสมุทรอินเดียและมหาสมุทรแปซิฟิคนอกจากนี้ยังมีท่าเรือน้ำลึกจึงเป็นศูนย์กลางของการขนส่งทางทะเลกฎระเบียบที่เอื้ออำนวยต่อการดำเนินธุรกิจมีการจัดระบบสาธารณูปโภคที่ดีและแรงงานมีทักษะจึงทำให้สิงคโปร์กลายเป็นแหล่งค้าขายน้ำมันที่สำคัญอย่างไรก็ตามสิงคโปร์ยังต้องเผชิญกับความท้าทายของการเป็นผู้นำด้านการค้าน้ำมันของเอเชียในอนาคตเพราะหลายประเทศเช่นอินเดียมาเลเซียและไทยได้ก่อสร้างโรงกลั่นน้ำมันแห่งใหม่เพื่อลดการนำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศรวมทั้งจากสิงคโปร์สำหรับก๊าซธรรมชาติสิงคโปร์นำเข้าก๊าซธรรมชาติทั้งหมดจากอินโดนีเซียและมาเลเซียเพื่อใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้าและปิโตรเคมีปี 2547 สิงคโปร์ใช้ก๊าซธรรมชาติทั้งสิ้น 273 พันล้านลูกบาศก์ฟุตสูงขึ้นกว่า 6 เท่าเมื่อเทียบกับปี 2545 ซึ่งใช้เพียง 41 พันล้านลูกบาศก์ฟุตเหตุที่การใช้ก๊าซธรรมชาติของสิงคโปร์เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วเนื่องจากรัฐบาลส่งเสริมการใช้ก๊าซธรรมชาติแทนเชื้อเพลิงอื่นเพื่อลดการแพร่กระจายของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และซัลเฟอร์รวมทั้งสร้างความมั่นคงด้านพลังงานและสนับสนุนให้สิงคโปร์เป็นศูนย์กลางท่อส่งก๊าซของภูมิภาคด้วย อย่างไรก็ตามรัฐบาลสิงคโปร์พยายามลดการพึ่งพาก๊าซธรรมชาติจากอินโดนีเซียและมาเลเซียโดยหันมาใช้ก๊าซแอลเอ็นมากขึ้นเนื่องจากมีหลายประเทศสามารถผลิตได้นอกจากนี้แอลเอ็นยังมีข้อดีคือราคาค่อนข้างมีเสถียรภาพมากกว่าก๊าซธรรมชาติเพราะว่าการทำสัญญาซื้อขายแอลเอ็นจะเป็นสัญญาระยะยาวแตกต่างจากก๊าซธรรมชาติทั่วไปซึ่งจะมีความสัมพันธ์กับราคาน้ำมันทั้งนี้รัฐบาลมีแผนสร้างหมุนก๊าซธรรมชาตินำเข้าเทอร์มินัลซึ่งคาดว่าจะสำเร็จในปี 2555
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
3.3
3 ของโลกรองจากเมืองฮุสตันในสหรัฐฯและตเตอร์ดัมในเนเธอร์แลนด์ 1.3 ล้านบาเรลต่อวันและรัฐบาลสิงคโปร์คาดหวังว่าสิงคโปร์จะสามารถกลั่นน้ำมันได้ถึง 30 ล้านบาเรลต่อวันในปี 2573 บริษัท กลั่นน้ำมันที่สำคัญคือเอ็กซอนโมบิลมีความสามารถในการกลั่นได้สูงสุด 605,000 บาเรล / วันรองลงมา ได้แก่ รอยัลดัตช์เชลล์ 458,000 บาเรล / วันและสิงคโปร์ปิโตรเลียม จำกัด (SPC) 273600 เพราะสิงคโปร์อยู่บนคาบสมุทรมะละกา นอกจากนี้ยังมีท่าเรือน้ำลึก มีการจัด อย่างไรก็ตาม เพราะหลายประเทศเช่นอินเดียมาเลเซียและไทยได้ก่อสร้างโรงกลั่นน้ำมันแห่งใหม่ ปี 2547 สิงคโปร์ใช้ก๊าซธรรมชาติทั้งสิ้น 273 พันล้านลูกบาศก์ฟุตสูงขึ้นกว่า 6 เท่าเมื่อเทียบกับปี 2545 ซึ่งใช้เพียง 41 พันล้านลูกบาศก์ฟุต รวมทั้งสร้างความมั่นคงด้านพลังงาน โดยหันมาใช้ก๊าซแอลเอ็นจีมากขึ้น นอกจากนี้แอลเอ็นจี เพราะว่าการทำสัญญาซื้อขาย LNG จะเป็นสัญญาระยะยาว ทั้งนี้รัฐบาลมีแผนสร้างเหลวก๊าซธรรมชาตินำเข้าเทอร์ซึ่งคาดว่าจะสำเร็จในปี 2555









การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
3.3 ปิโตรเลียมและก๊าซธรรมชาติ
สิงคโปร์เป็นศูนย์กลางการกลั่นน้ำมันอันดับ 3 ของโลกรองจากฮูสตันในสหรัฐฯและรอตในเนเธอร์แลนด์สิงคโปร์สามารถกลั่นน้ำมันได้เฉลี่ย 13 ล้านบาเรลต่อวันและรัฐบาลสิงคโปร์คาดหวังว่าสิงคโปร์จะสามารถกลั่นน้ำมันได้ถึง 30 ล้านบาเรลต่อวันในปี 2573

บริษัทกลั่นน้ำมันที่สำคัญคือเอ็กซอนโมบิลมีความสามารถในการกลั่นได้สูงสุด 605000 บาเรล / ได้รับเลือกตั้งผ่านกระบวนการประชาธิปไตยของพม่ารองลงมาได้แก่รอยัลดัตช์เชลล์ 458000 บาเรล / ได้รับเลือกตั้งผ่านกระบวนการประชาธิปไตยของพม่าและสิงคโปร์ บริษัท ปิโตรเลียม ( SPC ) 273600 /
บาเรลได้รับเลือกตั้งผ่านกระบวนการประชาธิปไตยของพม่าเป็นที่น่าสังเกตว่าสิงคโปร์ซึ่งไม่มีแหล่งน้ำมันดิบในประเทศเลยแต่สามารถเป็นศูนย์กลางการกลั่นน้ำมันที่สำคัญของโลกได้ทั้งนี้เนื่องจากความได้เปรียบด้านทำเลที่ตั้งเพราะสิงคโปร์อยู่บนคาบสมุทรมะละกานอกจากนี้ยังมีท่าเรือน้ำลึกจึงเป็นศูนย์กลางของการขนส่งทางทะเลกฎระเบียบที่เอื้ออำนวยต่อการดำเนินธุรกิจมีการจัดระบบสาธารณูปโภคที่ดีและแรงงานมีทักษะจึงทำให้สิงคโปร์กลายเป็นแหล่งค้าขายน้ำมันที่สำคัญสิงคโปร์ยังต้องเผชิญกับความท้าทายของการเป็นผู้นำด้านการค้าน้ำมันของเอเชียในอนาคตเพราะหลายประเทศเช่นอินเดียมาเลเซียและไทยได้ก่อสร้างโรงกลั่นน้ำมันแห่งใหม่
สำหรับก๊าซธรรมชาติสิงคโปร์นำเข้าก๊าซธรรมชาติทั้งหมดจากอินโดนีเซียและมาเลเซียเพื่อใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้าและปิโตรเคมี . 2547 สิงคโปร์ใช้ก๊าซธรรมชาติทั้งสิ้น 273 พันล้านลูกบาศก์ฟุตสูงขึ้นกว่า 6 เท่า2545 ซึ่งใช้เพียง 41 พันล้านลูกบาศก์ฟุตเหตุที่การใช้ก๊าซธรรมชาติของสิงคโปร์เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วเนื่องจากรัฐบาลส่งเสริมการใช้ก๊าซธรรมชาติแทนเชื้อเพลิงอื่นรวมทั้งสร้างความมั่นคงด้านพลังงานและสนับสนุนให้สิงคโปร์เป็นศูนย์กลางท่อส่งก๊าซของภูมิภาคด้วย

อย่างไรก็ตามรัฐบาลสิงคโปร์พยายามลดการพึ่งพาก๊าซธรรมชาติจากอินโดนีเซียและมาเลเซียโดยหันมาใช้ก๊าซเนื่องจากมีหลายประเทศสามารถผลิตได้นอกจากนี้ LNG LNG มากขึ้น
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2024 I Love Translation. All reserved.

E-mail: