I think #8 has answered your questi

I think #8 has answered your question the most accurately. It is almost impossible to teach formal English to students who have had no exposure to proper English, either in in spoken or written form. Everything taught in a classroom is undone by the way English is spoken at home and the way it is written by friends and peers. If students are not exposed to proper English while learning to speak, read and write they are unlikely to ever adopt proper grammar as a habit. While there are certainly appropriate times and places for slang and colloquial English, if this is the only type you are regularly exposed to, you see no reason or purpose or use to formal English.

Science shows that very young (preschool age) children have an easier time learning language than as we grow older. The centers of the brain used in language learning are more active and receptive in small children. If children are not exposed to proper English during this time, learning it later is much more difficult, like learning a second language.

If we want to address this issue, it has to be addressed by families and the community working with educators, not by educators alone.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ผมคิดว่า #8 ได้ตอบคำถามของคุณได้อย่างถูกต้องที่สุด เกือบไปสอนภาษาอังกฤษเป็นนักเรียนที่มีแสงไม่เป็นภาษาอังกฤษที่เหมาะสม อย่างใดอย่างหนึ่งในแบบฟอร์มการพูด หรือเขียนได้ ทุกอย่างที่สอนในห้องเรียนถูกยกเลิก โดยวิธีพูดภาษาอังกฤษที่บ้านและวิธีจะเขียน โดยเพื่อนและเพื่อน ถ้านักเรียนจะไม่สัมผัสกับภาษาอังกฤษที่เหมาะสมขณะเรียนพูด อ่าน และเขียนจะไม่เคยนำมาใช้ไวยากรณ์ที่เหมาะสมเป็นนิสัย ในขณะที่มีเวลาแน่นอนที่เหมาะสมและสถานที่สำหรับสแลงและภาษาอังกฤษ ถ้าเป็นเฉพาะคุณเป็นประจำได้เปิดเผย คุณดูไม่มีเหตุผลหรือวัตถุประสงค์ หรือใช้ภาษาอังกฤษอย่างเป็นทางการ วิทยาศาสตร์แสดงที่อายุน้อยมาก (preschool อายุ) เด็กมีความง่ายขึ้นเวลาเรียนภาษากว่าขณะที่เราอายุ ศูนย์กลางของสมองที่ใช้ในการเรียนรู้ภาษาใช้งานมากขึ้น และเปิดกว้างในเด็กเล็ก ถ้าเด็กจะไม่แสดงเป็นภาษาอังกฤษที่เหมาะสมระหว่างนี้ เรียนรู้ในภายหลังได้ยากมาก เช่นเรียนภาษาที่สองถ้าเราต้องการให้ปัญหานี้ มีการครอบครัวและชุมชนที่ทำงานกับนักการศึกษา โดยสรรหาคนเดียวไม่

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ผมคิดว่า # 8 ได้ตอบคำถามของคุณอย่างถูกต้องที่สุด มันเกือบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะสอนภาษาอังกฤษอย่างเป็นทางการให้กับนักเรียนที่มีการสัมผัสกับภาษาอังกฤษที่เหมาะสมไม่ได้ทั้งในรูปแบบการพูดในหรือลายลักษณ์อักษร ทุกสิ่งที่สอนในห้องเรียนจะยกเลิกได้โดยวิธีการพูดภาษาอังกฤษที่บ้านและทางที่ถูกเขียนโดยเพื่อนและเพื่อนร่วมงาน หากนักเรียนไม่ได้สัมผัสกับภาษาอังกฤษที่ถูกต้องในขณะที่การเรียนรู้ที่จะพูดอ่านและเขียนพวกเขาไม่น่าจะเคยนำมาใช้ไวยากรณ์ที่เหมาะสมเป็นนิสัย ในขณะที่มีแน่นอนเวลาที่เหมาะสมและสถานที่สำหรับคำสแลงและภาษาอังกฤษถ้าเป็นชนิดเดียวที่คุณจะได้สัมผัสอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้คุณเห็นไม่มีเหตุผลหรือวัตถุประสงค์หรือใช้ภาษาอังกฤษอย่างเป็นทางการ. วิทยาศาสตร์แสดงให้เห็นว่าเด็กมาก (อายุก่อนวัยเรียน) เด็กมี เวลาการเรียนรู้ภาษาได้ง่ายขึ้นกว่าที่เราโตขึ้น ศูนย์ของสมองที่ใช้ในการเรียนรู้ภาษาที่มีการใช้งานมากขึ้นและเปิดกว้างในเด็กเล็ก หากเด็กไม่ได้สัมผัสกับภาษาอังกฤษที่เหมาะสมในช่วงเวลานี้การเรียนรู้ในภายหลังคือยากมากขึ้นเช่นการเรียนรู้ภาษาที่สอง. หากเราต้องการที่จะแก้ไขปัญหานี้ก็จะต้องมีการแก้ไขโดยครอบครัวและชุมชนทำงานร่วมกับการศึกษาไม่ได้โดย การศึกษาเพียงอย่างเดียว

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ฉันคิดว่า# 8 ได้ตอบคำถามของคุณมากที่สุด ถูกต้อง มันเป็นไปไม่ได้เกือบที่จะสอนภาษาอังกฤษให้กับนักเรียนที่ไม่มีการสัมผัสกับภาษาอังกฤษที่เหมาะสมทั้งในการพูดหรือเขียนแบบ ทุกอย่างที่สอนในชั้นเรียนถูกยกเลิก ด้วยวิธีพูดภาษาอังกฤษที่บ้านและวิธีการเขียนโดยเพื่อนและเพื่อนร่วมงาน . ถ้านักเรียนไม่ได้สัมผัสกับภาษาอังกฤษที่เหมาะสมในขณะที่การเรียนรู้ที่จะพูดอ่านและเขียนพวกเขาจะไม่น่าจะเคยใช้ไวยากรณ์ที่เหมาะสมเป็นนิสัย ในขณะที่มีแน่นอนเวลาที่เหมาะสมและสถานที่สำหรับและแสลงภาษาอังกฤษแบบภาษาพูด ถ้าเป็นชนิดเดียวที่คุณมีเสมอตาก , คุณไม่มีเหตุผลหรือวัตถุประสงค์ หรือใช้ภาษาอังกฤษอย่างเป็นทางการ

วิทยาศาสตร์แสดงให้เห็นว่าเด็กมาก ( วัย ) เด็กมีเวลาง่ายต่อการเรียนรู้ภาษามากกว่า ขณะที่เราเติบโตเก่าศูนย์ของสมองที่ใช้ในการเรียนรู้ภาษาถูกใช้งานมากขึ้น และเปิดกว้างในเด็กเล็ก ถ้าเด็กไม่ได้สัมผัสกับภาษาอังกฤษที่เหมาะสมในช่วงเวลานี้ การเรียนรู้มันเป็นมากขึ้นยาก เหมือนการเรียนรู้ภาษาที่สอง .

ถ้าเราต้องการแก้ไขปัญหานี้ มันต้อง addressed โดยครอบครัวและชุมชนทำงานกับอาจารย์ โดยอาจารย์คนเดียว

.