ณ เมืองแห่งหนึ่ง มีพระราชาและราชินีที่กำลังป่วยหนัก แต่เมืองแห่งนี้มีต การแปล - ณ เมืองแห่งหนึ่ง มีพระราชาและราชินีที่กำลังป่วยหนัก แต่เมืองแห่งนี้มีต ไทย วิธีการพูด

ณ เมืองแห่งหนึ่ง มีพระราชาและราชินี

ณ เมืองแห่งหนึ่ง มีพระราชาและราชินีที่กำลังป่วยหนัก แต่เมืองแห่งนี้มีตำนานของดอกไม้วิเศษดอกหนึ่งที่นานหลายร้อยปีจะบาน ซึ่งละอองเกสรของดอกไม้นี้สามารถรักษาได้ทุกอย่าง พระราชาได้สั่งให้เหล่าทหารไปหาและนำเกสรของดอกไม้นี้มาให้ได้
ดอกไม้นี้ได้บานที่เชิงผาริมมหาสมุทร แต่ดอกไม้นี้ได้ถูกค้นพบโดยหญิงชราคนหนึ่ง
ชื่อว่า “กอเทล”ที่ต้องการจะรักษาความสาวของตนไว้
และได้ซ่อนดอกไม้นี้ไว้เพื่อที่จะได้ใช้ประโยชน์เพียงผู้เดียวโดยการนำตะกร้ามาปิดเอาไว้
และเมื่อเหล่าทหารของพระราชาแห่กันมา ทำให้หญิงชราคนนี้ตกใจปัดเอาตะกร้าใบนั้นตกไป
ทำให้เหล่าทหารค้นเจอและได้ขุดดอกไม้นี้ไปไว้ในวัง
เกสรนี้ได้นำไปถวายให้ราชินีที่กำลังป่วยหนักได้ดื่มทำให้พระนางหายจากโรคร้าย
และหลังจากนั้นไม่นานก็ได้ให้กำเนิดธิดาที่เกิดมาพร้อมกับผมสีทองอร่ามดั่งสีของละอองเกสรดอกไม้วิเศษ
มีนามว่า “ราพันเซล”

เมื่อหญิงชราทราบว่าดอกไม้วิเศษได้ไปอยู่ในเส้นผมของเจ้าหญิงน้อย
ในคืนนั้นจึงทำการลอบเข้าไปในพระราชวังเพื่อทำการตัดผมของราพันเซล
แต่ทว่าเมื่อตัดแล้วทำให้ผมกลับเป็นสีน้ำตาลหมดอิทธิฤทธิ์ไป
ทำให้นางตัดสินใจลักพาตัวเจ้าหญิงไปจากวัง นางได้นำเจ้าหญิงราพันเซลไปซ่อน
และได้ทำการเลี้ยงดูเฉกเช่นลูกในหอคอยสูงในป่าใหญ่ เพื่อหลบซ่อน ไม่ให้เหล่าทหารหาเจอ

หญิงชราได้ใช้อิทธิฤทธิ์จากผมของราพันเซลโดยการขับร้องเพลงเพลงหนึ่ง
จะทำให้ผมของเจ้าหญิงส่องแสงสีทองอร่าม และนางก็สามารถกลับมาเป็นสาวอีกครั้ง
ทางด้านเจ้าหญิงราพันเซลที่ต้องอาศัยอยู่แต่ข้างในหอคอย
ทุกๆปีนางจะได้เห็นโคมไฟลอยฟ้าที่พระราชาและพระราชินี
รวมทั้งเหล่าประชาชนได้ลอยในวันเกิดของนาง
และพระองค์ทั้งสองก็หวังว่าจะได้เจอกับเจ้าหญิงน้อยสักวัน ส่วนราพันเซลก็แอบหวังว่าสักวัน
นางจะได้ออกมาสู่โลกภายนอกและได้ไปดูโคมไฟลอยฟ้าใกล้ๆสักครั้งหนึ่งในชีวิต

เมื่อเวลาล่วงเลยมาประมาณ 15 ปี ณ ใจกลางของเมือง มีโจรเจ้าเล่ห์อยู่ 3
คนคือโจรฝาแฝดหน้าตาเถื่อนๆ และ “ฟลินน์” จอมโจรหน้าหล่อ ทั้งสามมีหมายประกาศจับมากมาย
เป็นที่หมายตัวของตำรวจ ได้ร่วมกันวางแผนที่จะไปขโมยมงกุฎที่ว่ากันว่าเป็นของเจ้าหญิงที่หายไป
ทั้งสามได้ลอบเข้าไปในพระราชวังและขโมยมันออกมาได้ แต่เหล่าทหารก็ไม่พลาดที่จะไล่ตาม
เมื่อวิ่งกันไปถึงในป่า ฟลินน์ก็ได้แอบเอามงกุฎจากโจรแฝดและหนีเข้าไปในป่าลึกแต่ได้นายพลคนหนึ่งพร้อมกับม้าทีแสนฉลาด ชื่อว่า “แม็กซิมัส” ไล่กวดมาติดๆแต่ก็คลาดกัน ฟลินน์ได้พลัดหลงเข้าไปในทางลับแห่งหนึ่ง และได้พบกับหอคอยสูงใหญ่ที่ไม่มีทางขึ้น เขาได้ไปเห็นกอเทล หญิงชราในคราบหญิงสาวที่กลังโรยตัวลงมาจากหอคอย โดยการห้อยตัวลงมากับผมของใครสักคนที่ยาวเอาการ เมื่อเห็นว่ากอเทลได้ออกไปแล้ว เขาก็ได้เรียกคนที่อยู่ข้างบนเช่นเดียวกับที่กอเทลทำ แล้วก็มีผมหย่อนลงมาจริง เขาจึงโหนขึ้นไป โดยที่ราพันเซลไม่ได้รู้ตัวเลยว่าคนที่กำลังขึ้นมานั้นไม่ใช่แม่ของตน!

ด้วยความตกใจราพันเซลได้ทำการเอากระทะฟาดเข้าที่หน้าของฟลินน์ ทำให้เข้าสลบไป
จากนั้นก็จับเขามัดไว้ด้วยผมของเธอเอง เมื่อฟลินน์ฟื้นขึ้นมา ราพันเซลได้ทำหารต่อรองว่าถ้าต้องการการปล่อยตัว ให้พานางเข้าไปเมือง ไปดูโคมไฟลอยฟ้าตามที่นางใฝ่ฝันมาตลอด โดยมีกิ้งก่าคู่ใจชื่อว่า”ปาสคาล” ช่วยต่อรองด้วยอีกแรง(อาจจะพูดได้ว่าช่วยขู่) ด้วยหนทางที่มีไม่มากของจอมโจรหนุ่มจึงทำให้เขาตอบตกลงกับราพันเซลแต่โดยดี

เมื่อได้เริ่มเดินทางไป ฟรินได้พาราพันเซลไปยังผับที่อยู่ในป่าแห่งหนึ่งที่มีพวกโจรป่า และนายพรานที่มีหน้าตาน่ากลัวสุดๆ แต่เมื่อได้พูดคุยกับราพันเซลแล้ว ก็รู้สึกถูกคออย่างน่าประหลาด เนื่องด้วยทุกๆคนมีความใฝ่ฝันในชีวิตเหมือนกัน เหมือนกับที่ราพันเซลมีความใฝ่ฝันว่าอยากไปดูโคมลอยนั่นเอง และทุกคนก็ร่วมกันร้องเพลงมีฝันกันอย่างเพลิดเพลิน แต่โชคไม่ค่อยเข้าข้างนักที่มีพวกทหารและนายพลที่มากับม้าคู่ใจ เขาก็คือแม็กซิมัสนี่เองได้มาเยี่ยมเยือนพวกเขาในผับ แต่ด้วยความใจดีของคนในผับที่เข้าใจความรู้สึกของราพันเซลแล้ว พวกเขาได้บอกทางลับที่มีทางทะลุไปถึงเขื่อนแห่งหนึ่ง แต่ด้วยความแสนรู้ของแม็กซิมัสจึงตามทั้งสองไปได้ทัน และทำการวิ่งไล่จับกันอย่างอลหม่าน จนถึงขั้นทำเขื่อนพังกันเลยทีเดียว ทำให้ฟลินน์และราพันเซลได้ไปติดอยู่ในถ้ำที่มืดมิดและกำลังจะเต็มไปด้วยน้ำ
คิดวิธีที่จะออกมากันอยู่นานจนน้ำท่วมทั้งถ้ำ ราพันเซลได้ร้องเพลงที่นางกอเทลชอบร้องให้ฟังทำให้ผมของนางเรืองแสงเผยให้เห็นทางออกจากถ้ำทำให้รอดไปด้วย ทำให้ฟลินน์ตกใจมาก ครั้งนี้ฟลินน์ได้รับบาดแผลที่มือของเค้า ราพันเซลจึงทำการรักษาให้เขาโดนการนำผมไปพันไว้ที่มือของฟลินน์แล้วร้องเพลง เรื่องนี้ยิ่งทำให้ฟลินน์ตกใจเข้าไปใหญ่ ราพันเซลจึงเล่าให้ฟังถึงชีวิตในหอคอยของตน เย็นวันนั้นทั้งสองได้ตั้งที่พักกันในป่า

ณ หอคอยสูง กอเทลได้กลับมายังหอคอยและทำการเรียกราพันเซลอยู่นานสองนานทำให้สงสัยว่าราพันเซลได้หนีจากนางไปแล้ว เมื่อนางไปขุดประตูที่ได้ทำการปิดตายมานานและขึ้นไปยังหอคอยทำให้รู้ว่าราพันเซลได้หนีไปแล้ว นางได้พบถุงของฟลินน์ที่ใส่มงกุฎเจ้าหญิง นางหวาดวิตกกับเรื่องที่นางจะไม่สามารถใช้พลังวิเศษจากผมของราพันเซลได้อีก ทำให้นางได้ออกตามหานางในป่า บังเอิญได้ไปพบเจอโจรแฝดผู้ที่เคยร่วมปล้นกันฟลินน์ นางได้วางแผนร่วมมือกับโจรทั้งสองโดยนางจะได้ตัวราพันเซลไป และโจรทั้งสองก็จะได้แก้แค้นกับฟลินน์ที่ทรยศพวกเขา

ด้วยความบังเอิญนางโกเทลได้มาพบกับราพันเซล ในขณะที่ฟลินน์กำลังออกมาหาฟืนอยู่ในป่า และได้ทำการต่อรองกับราพันเซลให้กลับไปกับนาง และลือมฟลินน์เสีย และให้เชื่อฟังนางเหมือนเดิม แต่ราพันเซลกลับปฏิเสธ เพราะเชื่อว่าผลินน์รักตนจริง กอเทลจึงมอบมงกุฏเจ้าหญิงให้กับราพันเซล พร้อมทั้งท้าทายว่า หากราพันเซลมั่นใจว่าฟลินน์รักตนจริง ก็จงนำมงกุฏนี้ไปมอบให้ แล้วดูสิว่า ฟลินน์จะทิ้งนางรึเปล่า ก่อนที่จะจากไป และปล่อยราพันเซลไว้กับความลังเลใจ

เช้าวันรุ่งขึ้น ระหว่างการเดินทางพวกเขาได้เจอกับแม็กซิมัสที่พลัดหลงกับเจ้าของของมัน ด้วยความซื่อสัตย์และมุ่งมั่นที่จะจับตัวฟลินน์ จึงจะเข้าไปโจมตีแต่ถูกราพันเซลขวางไว้และทำการเกลี้ยกล่อมจนแม็ก
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
ณเมืองแห่งหนึ่งมีพระราชาและราชินีที่กำลังป่วยหนักแต่เมืองแห่งนี้มีตำนานของดอกไม้วิเศษดอกหนึ่งที่นานหลายร้อยปีจะบานซึ่งละอองเกสรของดอกไม้นี้สามารถรักษาได้ทุกอย่างพระราชาได้สั่งให้เหล่าทหารไปหาและนำเกสรของดอกไม้นี้มาให้ได้ดอกไม้นี้ได้บานที่เชิงผาริมมหาสมุทรแต่ดอกไม้นี้ได้ถูกค้นพบโดยหญิงชราคนหนึ่งที่ต้องการจะรักษาความสาวของตนไว้ชื่อว่า "กอเทล"และได้ซ่อนดอกไม้นี้ไว้เพื่อที่จะได้ใช้ประโยชน์เพียงผู้เดียวโดยการนำตะกร้ามาปิดเอาไว้และเมื่อเหล่าทหารของพระราชาแห่กันมาทำให้หญิงชราคนนี้ตกใจปัดเอาตะกร้าใบนั้นตกไปทำให้เหล่าทหารค้นเจอและได้ขุดดอกไม้นี้ไปไว้ในวังเกสรนี้ได้นำไปถวายให้ราชินีที่กำลังป่วยหนักได้ดื่มทำให้พระนางหายจากโรคร้ายและหลังจากนั้นไม่นานก็ได้ให้กำเนิดธิดาที่เกิดมาพร้อมกับผมสีทองอร่ามดั่งสีของละอองเกสรดอกไม้วิเศษมีนามว่า "ราพันเซล"เมื่อหญิงชราทราบว่าดอกไม้วิเศษได้ไปอยู่ในเส้นผมของเจ้าหญิงน้อยในคืนนั้นจึงทำการลอบเข้าไปในพระราชวังเพื่อทำการตัดผมของราพันเซลแต่ทว่าเมื่อตัดแล้วทำให้ผมกลับเป็นสีน้ำตาลหมดอิทธิฤทธิ์ไปทำให้นางตัดสินใจลักพาตัวเจ้าหญิงไปจากวังนางได้นำเจ้าหญิงราพันเซลไปซ่อนและได้ทำการเลี้ยงดูเฉกเช่นลูกในหอคอยสูงในป่าใหญ่เพื่อหลบซ่อนไม่ให้เหล่าทหารหาเจอหญิงชราได้ใช้อิทธิฤทธิ์จากผมของราพันเซลโดยการขับร้องเพลงเพลงหนึ่งจะทำให้ผมของเจ้าหญิงส่องแสงสีทองอร่ามและนางก็สามารถกลับมาเป็นสาวอีกครั้งทางด้านเจ้าหญิงราพันเซลที่ต้องอาศัยอยู่แต่ข้างในหอคอยทุกๆปีนางจะได้เห็นโคมไฟลอยฟ้าที่พระราชาและพระราชินีรวมทั้งเหล่าประชาชนได้ลอยในวันเกิดของนางและพระองค์ทั้งสองก็หวังว่าจะได้เจอกับเจ้าหญิงน้อยสักวันส่วนราพันเซลก็แอบหวังว่าสักวันนางจะได้ออกมาสู่โลกภายนอกและได้ไปดูโคมไฟลอยฟ้าใกล้ๆสักครั้งหนึ่งในชีวิตเมื่อเวลาล่วงเลยมาประมาณ 15 ปีณใจกลางของเมืองมีโจรเจ้าเล่ห์อยู่ 3คนคือโจรฝาแฝดหน้าตาเถื่อน ๆ และ "ฟลินน์" จอมโจรหน้าหล่อทั้งสามมีหมายประกาศจับมากมายเป็นที่หมายตัวของตำรวจได้ร่วมกันวางแผนที่จะไปขโมยมงกุฎที่ว่ากันว่าเป็นของเจ้าหญิงที่หายไปทั้งสามได้ลอบเข้าไปในพระราชวังและขโมยมันออกมาได้แต่เหล่าทหารก็ไม่พลาดที่จะไล่ตามเมื่อวิ่งกันไปถึงในป่าฟลินน์ก็ได้แอบเอามงกุฎจากโจรแฝดและหนีเข้าไปในป่าลึกแต่ได้นายพลคนหนึ่งพร้อมกับม้าทีแสนฉลาดชื่อว่า "แม็กซิมัส" ไล่กวดมาติดๆแต่ก็คลาดกันฟลินน์ได้พลัดหลงเข้าไปในทางลับแห่งหนึ่งและได้พบกับหอคอยสูงใหญ่ที่ไม่มีทางขึ้นเขาได้ไปเห็นกอเทลหญิงชราในคราบหญิงสาวที่กลังโรยตัวลงมาจากหอคอยโดยการห้อยตัวลงมากับผมของใครสักคนที่ยาวเอาการเมื่อเห็นว่ากอเทลได้ออกไปแล้วเขาก็ได้เรียกคนที่อยู่ข้างบนเช่นเดียวกับที่กอเทลทำแล้วก็มีผมหย่อนลงมาจริงเขาจึงโหนขึ้นไปโดยที่ราพันเซลไม่ได้รู้ตัวเลยว่าคนที่กำลังขึ้นมานั้นไม่ใช่แม่ของตนด้วยความตกใจราพันเซลได้ทำการเอากระทะฟาดเข้าที่หน้าของฟลินน์ทำให้เข้าสลบไปจากนั้นก็จับเขามัดไว้ด้วยผมของเธอเองเมื่อฟลินน์ฟื้นขึ้นมาราพันเซลได้ทำหารต่อรองว่าถ้าต้องการการปล่อยตัวให้พานางเข้าไปเมืองไปดูโคมไฟลอยฟ้าตามที่นางใฝ่ฝันมาตลอดโดยมีกิ้งก่าคู่ใจชื่อว่า "ปาสคาล" ช่วยต่อรองด้วยอีกแรง(อาจจะพูดได้ว่าช่วยขู่)ด้วยหนทางที่มีไม่มากของจอมโจรหนุ่มจึงทำให้เขาตอบตกลงกับราพันเซลแต่โดยดีเมื่อได้เริ่มเดินทางไปฟรินได้พาราพันเซลไปยังผับที่อยู่ในป่าแห่งหนึ่งที่มีพวกโจรป่าและนายพรานที่มีหน้าตาน่ากลัวสุด ๆ แต่เมื่อได้พูดคุยกับราพันเซลแล้วก็รู้สึกถูกคออย่างน่าประหลาดเนื่องด้วยทุกๆคนมีความใฝ่ฝันในชีวิตเหมือนกันเหมือนกับที่ราพันเซลมีความใฝ่ฝันว่าอยากไปดูโคมลอยนั่นเองและทุกคนก็ร่วมกันร้องเพลงมีฝันกันอย่างเพลิดเพลินแต่โชคไม่ค่อยเข้าข้างนักที่มีพวกทหารและนายพลที่มากับม้าคู่ใจเขาก็คือแม็กซิมัสนี่เองได้มาเยี่ยมเยือนพวกเขาในผับแต่ด้วยความใจดีของคนในผับที่เข้าใจความรู้สึกของราพันเซลแล้วพวกเขาได้บอกทางลับที่มีทางทะลุไปถึงเขื่อนแห่งหนึ่งแต่ด้วยความแสนรู้ของแม็กซิมัสจึงตามทั้งสองไปได้ทันและทำการวิ่งไล่จับกันอย่างอลหม่านจนถึงขั้นทำเขื่อนพังกันเลยทีเดียวทำให้ฟลินน์และราพันเซลได้ไปติดอยู่ในถ้ำที่มืดมิดและกำลังจะเต็มไปด้วยน้ำคิดวิธีที่จะออกมากันอยู่นานจนน้ำท่วมทั้งถ้ำราพันเซลได้ร้องเพลงที่นางกอเทลชอบร้องให้ฟังทำให้ผมของนางเรืองแสงเผยให้เห็นทางออกจากถ้ำทำให้รอดไปด้วยทำให้ฟลินน์ตกใจมากครั้งนี้ฟลินน์ได้รับบาดแผลที่มือของเค้าราพันเซลจึงทำการรักษาให้เขาโดนการนำผมไปพันไว้ที่มือของฟลินน์แล้วร้องเพลงเรื่องนี้ยิ่งทำให้ฟลินน์ตกใจเข้าไปใหญ่ราพันเซลจึงเล่าให้ฟังถึงชีวิตในหอคอยของตนเย็นวันนั้นทั้งสองได้ตั้งที่พักกันในป่าณ หอคอยสูง กอเทลได้กลับมายังหอคอยและทำการเรียกราพันเซลอยู่นานสองนานทำให้สงสัยว่าราพันเซลได้หนีจากนางไปแล้ว เมื่อนางไปขุดประตูที่ได้ทำการปิดตายมานานและขึ้นไปยังหอคอยทำให้รู้ว่าราพันเซลได้หนีไปแล้ว นางได้พบถุงของฟลินน์ที่ใส่มงกุฎเจ้าหญิง นางหวาดวิตกกับเรื่องที่นางจะไม่สามารถใช้พลังวิเศษจากผมของราพันเซลได้อีก ทำให้นางได้ออกตามหานางในป่า บังเอิญได้ไปพบเจอโจรแฝดผู้ที่เคยร่วมปล้นกันฟลินน์ นางได้วางแผนร่วมมือกับโจรทั้งสองโดยนางจะได้ตัวราพันเซลไป และโจรทั้งสองก็จะได้แก้แค้นกับฟลินน์ที่ทรยศพวกเขาด้วยความบังเอิญนางโกเทลได้มาพบกับราพันเซลในขณะที่ฟลินน์กำลังออกมาหาฟืนอยู่ในป่าและได้ทำการต่อรองกับราพันเซลให้กลับไปกับนางและลือมฟลินน์เสียและให้เชื่อฟังนางเหมือนเดิมแต่ราพันเซลกลับปฏิเสธเพราะเชื่อว่าผลินน์รักตนจริงกอเทลจึงมอบมงกุฏเจ้าหญิงให้กับราพันเซลพร้อมทั้งท้าทายว่าหากราพันเซลมั่นใจว่าฟลินน์รักตนจริงก็จงนำมงกุฏนี้ไปมอบให้แล้วดูสิว่าฟลินน์จะทิ้งนางรึเปล่าก่อนที่จะจากไปและปล่อยราพันเซลไว้กับความลังเลใจเช้าวันรุ่งขึ้นระหว่างการเดินทางพวกเขาได้เจอกับแม็กซิมัสที่พลัดหลงกับเจ้าของของมันด้วยความซื่อสัตย์และมุ่งมั่นที่จะจับตัวฟลินน์จึงจะเข้าไปโจมตีแต่ถูกราพันเซลขวางไว้และทำการเกลี้ยกล่อมจนแม็ก
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
ณ เมืองแห่งหนึ่ง เพื่อหลบซ่อน 15 ปี ณ ใจกลางของเมืองมีโจรเจ้าเล่ห์อยู่ 3 คนคือโจรฝาแฝดหน้าตาเถื่อน ๆ และ "ฟลินน์" จอมโจรหน้าหล่อ ชื่อว่า "แม็กซิมัส" ไล่กวดมาติดๆ แต่ก็คลาดกัน เขาได้ไปเห็นกอเทล เมื่อเห็นว่ากอเทลได้ออกไปแล้ว แล้วก็มีผมหย่อนลงมาจริงเขาจึงโหนขึ้นไป เมื่อฟลินน์ฟื้นขึ้นมา ให้พานางเข้าไปเมือง โดยมีกิ้งก่าคู่ใจชื่อว่า "ปาสคาล" และนายพรานที่มีหน้าตาน่ากลัวสุด ๆ แต่เมื่อได้พูดคุยกับราพันเซลแล้วก็รู้สึกถูกคออย่างน่าประหลาด และทำการวิ่งไล่จับกันอย่างอลหม่านจนถึงขั้นทำเขื่อนพังกันเลยทีเดียว ทำให้ฟลินน์ตกใจมาก หอคอยสูง ทำให้นางได้ออกตามหานางในป่า และลือมฟลินน์เสียและให้เชื่อฟังนางเหมือนเดิม แต่ราพันเซลกลับปฏิเสธเพราะเชื่อว่าผลินน์รักตนจริง พร้อมทั้งท้าทายว่า ก็จงนำมงกุฏนี้ไปมอบให้แล้วดูสิว่าฟลินน์จะทิ้งนางรึเปล่าก่อนที่จะจากไป







































การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
ณเมืองแห่งหนึ่งมีพระราชาและราชินีที่กำลังป่วยหนักแต่เมืองแห่งนี้มีตำนานของดอกไม้วิเศษดอกหนึ่งที่นานหลายร้อยปีจะบานซึ่งละอองเกสรของดอกไม้นี้สามารถรักษาได้ทุกอย่างดอกไม้นี้ได้บานที่เชิงผาริมมหาสมุทรแต่ดอกไม้นี้ได้ถูกค้นพบโดยหญิงชราคนหนึ่งชื่อว่า " กอเทลที่ต้องการจะรักษาความสาวของตนไว้

"และได้ซ่อนดอกไม้นี้ไว้เพื่อที่จะได้ใช้ประโยชน์เพียงผู้เดียวโดยการนำตะกร้ามาปิดเอาไว้ทำให้หญิงชราคนนี้ตกใจปัดเอาตะกร้าใบนั้นตกไป

และเมื่อเหล่าทหารของพระราชาแห่กันมาทำให้เหล่าทหารค้นเจอและได้ขุดดอกไม้นี้ไปไว้ในวัง

เกสรนี้ได้นำไปถวายให้ราชินีที่กำลังป่วยหนักได้ดื่มทำให้พระนางหายจากโรคร้ายและหลังจากนั้นไม่นานก็ได้ให้กำเนิดธิดาที่เกิดมาพร้อมกับผมสีทองอร่ามดั่งสีของละอองเกสรดอกไม้วิเศษ
มีนามว่า " ราพันเซล "


เมื่อหญิงชราทราบว่าดอกไม้วิเศษได้ไปอยู่ในเส้นผมของเจ้าหญิงน้อยในคืนนั้นจึงทำการลอบเข้าไปในพระราชวังเพื่อทำการตัดผมของราพันเซล


แต่ทว่าเมื่อตัดแล้วทำให้ผมกลับเป็นสีน้ำตาลหมดอิทธิฤทธิ์ไปทำให้นางตัดสินใจลักพาตัวเจ้าหญิงไปจากวังนางได้นำเจ้าหญิงราพันเซลไปซ่อน
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2024 I Love Translation. All reserved.

E-mail: