Abstract There are many island stat

Abstract
There are many island stations that routinely observe sea fog around the Korean peninsula. Historical daytime sea fog data were used to investigate the relationships between sea fog occurrence and its associated environmental factors. The frequency of sea fog occurrence is at its maximum in the east sea in spite of their similar latitude. The value of the air temperature minus the sea surface temperature is highest in all seas in July, when the frequency of sea fog occurrence is at its maximum. The heavy frequency of sea fog occurrence appears at the strong tidal mixing region in the west sea in summer, when the temperature difference between the air and the sea surface is large. Strong tidal currents provide relatively cold surface water at the mixing region in summer. It is clearly shown that the sea fog occurrence depends on dew point temperature (DPT) and sea surface temperature (SST). The frequency of sea fog increases greatly when the DPT is high and the value of DPT minus SST (DPT-SST) is large. A heavy frequency of sea fog of more than 50% appears frequently in cold water regions by strong tidal mixing when DPT is over 12°C and DPT-SST is larger than 2°C in summer.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บทคัดย่อมีสถานีเกาะจำนวนมากที่มักจะสังเกตเห็นทะเลหมอกอยู่รอบ ๆ คาบสมุทรเกาหลี
ข้อมูลกลางวันทะเลหมอกประวัติศาสตร์ถูกนำมาใช้ในการตรวจสอบความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นระหว่างทะเลหมอกและปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวข้อง ความถี่ของการเกิดทะเลหมอกที่สูงสุดในทะเลตะวันออกทั้งๆที่ละติจูดที่คล้ายกันของพวกเขา ค่าของอุณหภูมิอากาศลบอุณหภูมิพื้นผิวทะเลสูงที่สุดในทะเลทั้งหมดในเดือนกรกฎาคมเมื่อความถี่ของทะเลหมอกที่เกิดขึ้นเป็นที่สูงสุด ความถี่ของการเกิดขึ้นหนักทะเลหมอกที่ปรากฏภูมิภาคผสมน้ำขึ้นน้ำลงที่แข็งแกร่งในทะเลทางทิศตะวันตกในช่วงฤดูร้อนเมื่ออุณหภูมิที่แตกต่างระหว่างอากาศและพื้นผิวทะเลที่มีขนาดใหญ่ กระแสน้ำขึ้นน้ำลงที่แข็งแกร่งให้น้ำผิวดินที่ค่อนข้างเย็นในภูมิภาคผสมในช่วงฤดูร้อน มันแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเกิดทะเลหมอกขึ้นอยู่กับอุณหภูมิจุดน้ำค้าง (โยธาธิการ) และอุณหภูมิผิวน้ำทะเล (SST) ความถี่ของทะเลหมอกที่เพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อโยธาธิการอยู่ในระดับสูงและความคุ้มค่าของโยธาธิการลบ SST (DPT-SST) ที่มีขนาดใหญ่ ความถี่หนักของทะเลหมอกกว่า 50% ปรากฏขึ้นบ่อยครั้งในพื้นที่น้ำเย็นโดยการผสมน้ำขึ้นน้ำลงที่แข็งแกร่งเมื่อโยธาธิการเกินกว่า 12 องศาเซลเซียสและโยธาธิการ-SST มีขนาดใหญ่กว่า 2 องศาเซลเซียสในช่วงฤดูร้อน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

นามธรรม
มีหลายเกาะที่สถานีตรวจสังเกต ทะเลหมอก บริเวณคาบสมุทรเกาหลี ทะเลหมอกข้อมูลประวัติศาสตร์กลางวันถูกใช้เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการเกิดทะเลหมอก และปัจจัยแวดล้อมที่เกี่ยวข้อง . ความถี่ของการเกิดเป็นทะเลหมอกที่สูงสุดในทะเลทั้งๆ ที่ละติจูดที่คล้ายคลึงกันของพวกเขาค่าของอุณหภูมิผิวน้ำทะเล อุณหภูมิเป็นลบมากที่สุดในทะเลทั้งหมดในเดือนกรกฎาคม เมื่อความถี่ของการเกิดเป็นทะเลหมอกที่สูงสุดของ ความถี่ของการเกิดทะเลหมอกหนา ปรากฏที่แข็งแรง โดยผสมในภูมิภาคทะเลตะวันตกในฤดูร้อนเมื่ออุณหภูมิแตกต่าง ระหว่างอากาศและพื้นผิวทะเลขนาดใหญ่กระแสคลื่นที่แข็งแรงให้ผิวที่ผสมน้ำที่ค่อนข้างเย็นในภูมิภาคในช่วงฤดูร้อน มันเป็นอย่างชัดเจนแสดงให้เห็นว่าทะเลหมอกที่เกิดขึ้นขึ้นอยู่กับอุณหภูมิที่จุดน้ำค้าง ( dpt ) และอุณหภูมิพื้นผิวทะเล ( SST ) ความถี่ของการเพิ่มขึ้นของทะเลหมอกมากเมื่อ dpt สูงและค่าของ dpt ลบ . SST ( dpt-sst ) ขนาดใหญ่ความหนักของทะเลหมอกมากกว่า 50% จะปรากฏขึ้นบ่อยครั้งในภูมิภาค ด้วยแรงคลื่นน้ำเย็นผสมเมื่อ dpt มากกว่า 12 ° C และ dpt-sst มีขนาดใหญ่กว่า 2 องศา C
ในฤดูร้อน