but are especially widespread in Eu

but are especially widespread in Europe and Japan. Day spas are also quite popular, and offer various personal care treatments, the term is derived from the name of the town of Spa, Belgium, whose name is known back to Roman times, when the location was called Aquae Spadanae, sometimes incorrectly connected to the Latin word “spargere” meaning to scatter, sprinkle or moisten. Since medieval times, illnesses caused by iron deficiency were treated by drinking chalybeate (iron-bearing) spring water (in 1326, the ironmaster Collin le Loup claimed a cure, when the spring was called Espa, a Walloon word for "fountain").

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แต่ได้แพร่หลายโดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุโรปและญี่ปุ่น ริกายังเป็นที่นิยมมาก และบริการต่าง ๆ ส่วนบุคคลดูแลรักษา คำที่มาจากชื่อเมืองสปา เบลเยียม ที่มีชื่อเป็นที่รู้จักไป Roman ครั้ง เมื่อที่ตั้งถูกเรียกว่า Aquae Spadanae บางครั้งไม่ถูกต้องเชื่อมต่อกับคำละติน "spargere" หมายถึง การกระจาย โรย moisten ตั้งแต่ยุคกลาง โรคที่เกิดจากการขาดเหล็กได้รับการรักษา โดยดื่ม chalybeate (เหล็กแบริ่ง) บ่อน้ำ (ใน 1326, ironmaster รับ le Loup อ้างรักษา เมื่อฤดูใบไม้ผลิเรียก Espa คำวัลลูนสำหรับ "น้ำพุ")

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

แต่เป็นที่แพร่หลายโดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุโรปและญี่ปุ่น สปาวันนี้ยังเป็นที่นิยมมากและมีการรักษาการดูแลส่วนบุคคลต่างๆเป็นคำที่มาจากชื่อของเมืองสปาประเทศเบลเยียมซึ่งมีชื่อเป็นที่รู้จักกันกลับไปสมัยโรมันเมื่อสถานที่ที่ถูกเรียก Aquae Spadanae บางครั้งเชื่อมต่อกับไม่ถูกต้อง คำภาษาละติน "spargere" หมายถึงการกระจายโรยหรือทา ตั้งแต่สมัยยุคกลางการเจ็บป่วยที่เกิดจากการขาดธาตุเหล็กได้รับการรักษาโดยการดื่ม CHALYBEATE (เหล็กแบริ่ง) น้ำฤดูใบไม้ผลิ (ใน 1326, เหมืองเหล็ก Collin le Loup อ้างรักษาเมื่อฤดูใบไม้ผลิที่เรียกว่า Espa คำ Walloon สำหรับ "น้ำพุ")

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

แต่โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่แพร่หลายในยุโรปและญี่ปุ่น วันสปายังเป็นที่นิยม และมีการดูแลรักษาส่วนตัวต่างๆ คำที่ได้มาจากชื่อของเมืองสปา ประเทศเบลเยียม ที่มีชื่อเป็นที่รู้จักกลับไปสมัยโรมัน เมื่อสถานที่ที่ถูกเรียกว่า Aquae spadanae บางครั้งไม่ถูกต้องเชื่อมต่อกับคำภาษาละติน " spargere " ความหมายที่จะโปรย , โรยหรือทาตั้งแต่ยุคกลาง โรคที่เกิดจากการขาดธาตุเหล็ก ได้รับการรักษาโดยการดื่ม chalybeate ( แบริ่งเหล็ก ) น้ำแร่ ( 1326 , เหมืองเหล็ก Collin Le Loup อ้างรักษาเมื่อฤดูใบไม้ผลิที่ถูกเรียกว่า Espa Walloon สำหรับคำว่า " น้ำพุ " )