Mangos belong to the genus Mangifer

Mangos belong to the genus Mangifera of the family Anacardiaceae.
The genus Mangifera contains several species
that bear edible fruit. Most of the fruit trees that are commonly
known as mangos belong to the species Mangifera
indica. The other edible Mangifera species generally have
lower quality fruit and are commonly referred to as wild
mangos.
Mango has become naturalized and adapted throughout
the tropics and subtropics. Much of the spread and naturalization
has occurred in conjunction with the spread of
human populations, and as such, the mango plays an important
part in the diet and cuisine of many diverse cultures.
There are over 1000 named mango varieties throughout the
world, which is a testament to their value to humankind.
Mango is a common garden tree throughout the tropics.
When ripe, this delicious dessert fruit is particularly high
in vitamin A. The fruit is also eaten green, processed into
pickles, pulps, jams, and chutneys, and is frozen or dried.
The fruit is also an important source of sustenance for birds,
bats, insects, and mammals.
Although grown widely, mangos prefer a warm, frost-free
climate with a well defined winter dry season. Rain and
high humidity during flowering and fruit development
reduces fruit yields. The tree generally flowers in mid- to
late winter, with fruit maturing in the early to mid-summer
months. Mango trees are usually between 3 and 10 m
(10–33 ft) tall but can reach up to 30 m (100 ft) in some
forest situations. The canopy is evergreen with a generally
spreading habit.The heavy canopy of the mango is a source
of shelter and shade for both animals and humans.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

มะม่วงอยู่ในสกุล Mangifera ของครอบครัว Anacardiaceae.
สกุล Mangifera
มีหลายสายพันธุ์ที่แบกผลไม้ที่กินได้ ส่วนใหญ่ของไม้ผลที่มักจะรู้จักกันเป็นมะม่วงที่อยู่ในสปีชีส์ Mangifera indica ชนิด Mangifera กินอื่น ๆ โดยทั่วไปมีผลไม้ที่มีคุณภาพต่ำกว่าและมักจะถูกเรียกว่าป่ามะม่วง. มะม่วงได้กลายเป็นสัญชาติและปรับตัวทั่วเขตร้อนและ subtropics มากของการแพร่กระจายและสัญชาติที่เกิดขึ้นร่วมกับการแพร่กระจายของประชากรมนุษย์และเป็นเช่นมะม่วงเล่นที่มีความสำคัญส่วนหนึ่งในอาหารและอาหารของวัฒนธรรมที่หลากหลายมาก. มีอยู่มากกว่า 1,000 ชื่อพันธุ์มะม่วงทั่วโลกซึ่งเป็นพิสูจน์ถึงคุณค่าของพวกเขาเพื่อมนุษยชาติ. มะม่วงเป็นต้นไม้สวนร่วมกันตลอดเขตร้อน. เมื่อสุกผลไม้ขนมหวานแสนอร่อยโดยเฉพาะอย่างยิ่งในระดับสูงในวิตามินเอเป็นผลไม้ที่กินยังเขียวแปรรูปเป็นผักดอง, เนื้อแยมและ chutneys, และถูกแช่แข็งหรือแห้ง. ผลไม้ยังเป็นแหล่งสำคัญของการดำรงชีวิตนกค้างคาวแมลงและสัตว์เลี้ยงลูกด้วย. แม้ว่าจะปลูกกันอย่างแพร่หลายมะม่วงชอบอบอุ่นน้ำค้างแข็งฟรีสภาพภูมิอากาศที่มีการกำหนดไว้อย่างดีในช่วงฤดูหนาวฤดูแล้ง ฝนและความชื้นสูงในช่วงออกดอกและการพัฒนาผลไม้จะช่วยลดอัตราผลตอบแทนผลไม้ ต้นไม้ทั่วไปดอกไม้ในช่วงกลางถึงปลายฤดูหนาวที่มีผลไม้สุกในช่วงต้นถึงกลางฤดูร้อนเดือน ต้นมะม่วงที่มักจะมีระหว่างวันที่ 3 และ 10 เมตร(10-33 ฟุต) แต่สามารถเข้าถึงได้ถึง 30 เมตร (100 ฟุต) ในบางสถานการณ์ป่าไม้ หลังคาเป็นป่าดิบที่มีโดยทั่วไปการแพร่กระจาย habit.The หลังคาหนักของมะม่วงเป็นแหล่งที่มาของที่พักอาศัยและเงาทั้งสัตว์และมนุษย์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

มะม่วงเป็นของสกุล 1 ของครอบครัว Anacardiaceae .
สกุล 1 มีหลายสายพันธุ์
หมีกินผลไม้ ที่สุดของไม้ผลที่นิยม
เรียกว่ามะม่วงเป็นของชนิดที่ 1
3 . อื่น ๆที่กินได้ 1 ชนิดโดยทั่วไปมีคุณภาพผลไม้
ล่างและมักเรียกว่าป่า

มะม่วงมะม่วงกลายสัญชาติ และดัดแปลงตลอด
เขตร้อนและ subtropics . มากของการกระจายและสัญชาติ
เกิดขึ้นควบคู่กับการกระจายของ
ประชากรมนุษย์และเช่นมะม่วงเล่นเป็นส่วนสําคัญ
ในอาหารและอาหารของวัฒนธรรมที่หลากหลายมากมาย มีมากกว่า 1000

ชื่อพันธุ์มะม่วงทั่วโลก ซึ่งเป็นการพิสูจน์คุณค่า
เพื่อมนุษยชาติมะม่วง เป็นสวนต้นไม้ปกติทั่วเขตร้อน .
เมื่อสุก ผลไม้หวานอร่อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิตามิน A สูง
ในผลไม้ยังกินสีเขียว แปรรูปเป็นเยื่อ
ดอง แยม และ chutneys และถูกแช่แข็งหรือแห้ง ผลไม้ยังเป็นสำคัญ

สำหรับแหล่งที่มาของอาหารนก ค้างคาว , แมลงและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม
ถึงแม้ว่าปลูกอย่างกว้างขวาง มะม่วงชอบความอบอุ่น
น้ำค้างแข็งฟรีสภาพภูมิอากาศที่มีความชัดเจน ฤดูหนาว ฤดูแล้ง ฝนและความชื้นสูงในช่วงออกดอกและ

ผลการพัฒนาลดผลผลิตผลไม้ ต้นไม้ดอกไม้ในกลางโดยทั่วไป

ปลายฤดูหนาวกับผลไม้สุกในช่วงต้นถึงกลางฤดูร้อน
. ต้นมะม่วงเป็นปกติระหว่าง 3 และ 10 M
( 10 – 33 ฟุต ) สูง แต่สามารถเข้าถึงได้ถึง 30 เมตร ( 100 ฟุต ) ในบาง
สภาพป่า หลังคาเป็นป่าดิบที่มีโดยทั่วไป
การแพร่กระจายเป็นนิสัย หลังคาหนักของมะม่วงเป็นแหล่งที่พักอาศัยและเงา
ทั้งสัตว์และมนุษย์