USE OF SIDE-BY-SIDE BICOMPONENT FIB

USE OF SIDE-BY-SIDE BICOMPONENT FIBERS
Side-by-side fibers are generally used as self-crimping fibers. There are several systems used to obtain a self-crimping fiber. One of them is based on different shrinkage characteristics of each component. All commercially available fibers are of this type. There have been attempts to produce self-crimping fibers based on different electrometric properties of the components; however, this type of self-crimping fiber is not commercially used. Some types of side-by-side fibers crimp spontaneously as the drawing tension is removed and others have "latent "crimp, appearing when certain ambient conditions are obtained. Some literature mentions, "reversible "and "non-reversible" crimp, when reversible crimp can be eliminated as the fiber is immersed in water and reappears when the fiber is dried. This phenomenon is based on swelling characteristics of the components. Several factors are crucial to the fiber curvature development: The difference in the shrinkage between the components, the difference between modulus of the components, the overall cross-sectional fiber shape and individual cross-sectional shapes of each component, and the thickness of the fiber.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การใช้--เคียงข้างเส้นใยเส้นใยข้างโดยทั่วไปใช้เป็นตัวเองจีบเส้นใย มีหลายระบบใช้การรับใยจีบเอง หนึ่งในนั้นอยู่บนลักษณะการหดตัวที่แตกต่างกันของแต่ละส่วนประกอบ เส้นใยที่จำหน่ายทั้งหมดเป็นชนิดนี้ มีความพยายามในการผลิตเส้นใยจีบเองตามคุณสมบัติ electrometric ต่าง ๆ ของคอมโพเนนต์ อย่างไรก็ตาม จีบเองใยประเภทนี้เป็นในเชิงพาณิชย์ใช้งาน บางชนิดของเส้นใยโดยด้านข้างจีบได้ทันทีเป็นความตึงเครียดวาดรูปจะถูกลบออก และอื่น ๆ มี "แฝง"จีบ ปรากฏเมื่อสภาพแวดล้อมได้รับการ วรรณกรรมบางอย่างกล่าวถึง, "กลับ"และ "ไม่ใช่สามารถบอกได้ว่า" จีบ เมื่อสามารถกำจัดจีบกลับเป็นเส้นใยแช่อยู่ในน้ำ และปรากฏเมื่อแห้งเส้นใย ปรากฏการณ์นี้ตามลักษณะของส่วนที่บวม หลายปัจจัยมีความสำคัญต่อการพัฒนาเส้นใยโค้ง: แตกต่างกันในการหดตัวในส่วนประกอบ โมดูลัสของคอม รูปร่างเส้นใยป่วยโดยรวม และแต่ละรูปร่างที่ป่วยของแต่ละส่วนประกอบ และความหนาของเส้นใยแตกต่างกัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การใช้งานของเส้นใย Side-by-SIDE bicomponent
Side-by-ด้านเส้นใยโดยทั่วไปจะใช้เป็นเส้นใยตนเองจีบ มีหลายระบบที่ใช้เพื่อให้ได้เส้นใยตนเองจีบอยู่ หนึ่งในนั้นคือขึ้นอยู่กับลักษณะการหดตัวที่แตกต่างกันของแต่ละองค์ประกอบ ทั้งหมดเส้นใยใช้ได้ในเชิงพาณิชย์เป็นประเภทนี้ มีความพยายามในการผลิตเส้นใยตนเองจีบขึ้นอยู่กับคุณสมบัติที่แตกต่างกัน electrometric ของส่วนประกอบ; แต่ประเภทของเส้นใยที่ตัวเองจีบนี้จะไม่ใช้ในเชิงพาณิชย์ บางชนิดของเส้นใยด้านข้างจีบธรรมชาติเป็นความตึงเครียดการวาดภาพจะถูกลบออกและอื่น ๆ มี "แฝง" จีบปรากฏเมื่อสภาพแวดล้อมบางอย่างที่จะได้รับ วรรณกรรมบางคนกล่าวถึง "พลิกกลับ" และ "ไม่สามารถย้อนกลับ" จีบเมื่อจีบพลิกกลับสามารถตัดออกเป็นเส้นใยจะแช่อยู่ในน้ำและการปรากฏขึ้นอีกครั้งเมื่อเส้นใยจะแห้ง ปรากฏการณ์นี้จะขึ้นอยู่กับลักษณะการบวมของส่วนประกอบ มีหลายปัจจัยที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาเส้นใยโค้ง: ความแตกต่างในการหดตัวระหว่างส่วนประกอบที่แตกต่างระหว่างโมดูลัสของส่วนประกอบที่โดยรวมตัดขวางรูปร่างเส้นใยและแต่ละรูปทรงหน้าตัดของแต่ละองค์ประกอบและความหนาของเส้นใย .

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ใช้คู่กันแบบเส้นใยด้านโดยด้านข้างโดยทั่วไปจะใช้เส้นใยเป็นเส้นใยที่ตนเองจีบ . มีหลายระบบที่ใช้เพื่อให้ได้ตัวเองจีบไฟเบอร์ หนึ่งในนั้นคือการหดตัวที่แตกต่างกันตามลักษณะของแต่ละองค์ประกอบ เส้นใยในเชิงพาณิชย์ทั้งหมดของประเภทนี้ มีความพยายามที่จะผลิตด้วยเส้นใยตามจีบอีเล็กโตรเมตริก คุณสมบัติขององค์ประกอบที่แตกต่างกัน อย่างไรก็ตาม ตนเองจีบไฟเบอร์ชนิดนี้ไม่ใช้ในเชิงพาณิชย์ . บางประเภทของเส้นใยเคียงข้างจีบเองเป็นรูปวาดที่ความตึงเครียดจะถูกลบออกและผู้อื่นได้ " แฝง " จีบ ปรากฏเมื่อสภาวะแวดล้อมบางอย่างจะได้รับ บางวรรณกรรมที่กล่าวถึง " กลับ " และ " ไม่กลับ " จีบได้จีบ เมื่อสามารถตัดออกเป็นไฟเบอร์ จมอยู่ในน้ำ และปรากฏขึ้นเมื่อเส้นใยจะแห้ง ปรากฏการณ์นี้จะขึ้นอยู่กับลักษณะการบวมของส่วนประกอบ หลายปัจจัยมีความสําคัญต่อการพัฒนาเส้นใยโค้ง : ความแตกต่างในการหดตัวระหว่างส่วนประกอบ ความแตกต่างระหว่างค่าของส่วนประกอบ โดยรวมและแต่ละที่มีรูปร่างแบบเส้นใย รูปร่างของแต่ละองค์ประกอบ และความหนาของเส้นใย