claims that academic enquiry about

claims that academic enquiry about rural
tourism dates from the 1950s, making reference to an early publication
by Ager (1958) which describes tourism in Alpine regions and
the advantages it can bring to farmers. Benefits include additional income,
job creation and a reduction in rural depopulation. Subsequent
studies in the 1960s and 1970s focused on positive economic impacts,
although attention was given to socio-cultural and environmental
outcomes. The mounting significance of rural tourism is reflected in
the dedication of a special issue of the Journal of Sustainable Tourism
to the topic in 1994 which was recalled by Sharpley and Roberts
(2004) a decade later. More recently, it has been observed that rural
tourism can be a catalyst for socio-economic development and
regeneration (Sharpley, 2000), especially valuable in places where
traditional agricultural activities are in decline (Cavaco, 1995;
Hoggart, Butler, & Black, 1995). In addition, rural tourism is promoted
as a preferred alternative to mass tourism in some instances

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

อ้างคำถามเชิงวิชาการที่เกี่ยวกับชนบทท่องเที่ยววันจากช่วงทศวรรษ 1950 การอ้างอิงถึงสิ่งพิมพ์เป็นต้นโดยผ้า แบบ (1958) ซึ่งอธิบายถึงการท่องเที่ยวในภูมิภาคอัลไพน์ และข้อดีที่สามารถให้เกษตรกร ประโยชน์มีรายได้เพิ่มเติมสร้างงานและลด depopulation ชนบท ต่อมาการศึกษาในช่วงปี 1960 และทศวรรษ 1970 เน้นผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เป็นบวกแม้ว่าความสนใจ ให้สังคมวัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อมผลลัพธ์ที่ ยึดความสำคัญของการท่องเที่ยวชนบทอยู่เป็นประจำทุ่มเทออกแบบพิเศษในสมุดรายวันของการท่องเที่ยวยั่งยืนหัวข้อในปี 1994 ซึ่งถูกยกเลิก โดย Sharpley และโรเบิตส์(2004) ทศวรรษภายหลัง เมื่อเร็ว ๆ นี้ จะมีการสังเกตที่ชนบทท่องเที่ยวสามารถ catalyst สำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจสังคม และฟื้นฟู (Sharpley, 2000), มีคุณค่าโดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานที่กิจกรรมทางการเกษตรแบบดั้งเดิมจะเสื่อมถอย (Cavaco, 1995Hoggart คน และ ดำ 1995) นอกจากนี้ การส่งเสริมการท่องเที่ยวชนบทเป็นทางเลือกที่ต้องการท่องเที่ยวโดยรวมในบางกรณี

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

อ้างว่าการสอบสวนทางวิชาการเกี่ยวกับชนบทวันท่องเที่ยวจากปี 1950 ทำให้การอ้างอิงถึงสิ่งพิมพ์ต้นโดยAger (1958) ซึ่งอธิบายถึงการท่องเที่ยวในภูมิภาคอัลไพน์และข้อได้เปรียบที่จะสามารถนำมาให้กับเกษตรกร รวมถึงประโยชน์ที่ได้รับรายได้เพิ่มเติม, การสร้างงานและการลดจำนวนประชากรในชนบท ต่อมาการศึกษาในทศวรรษที่ 1960 และ 1970 มุ่งเน้นไปที่ผลกระทบทางเศรษฐกิจในเชิงบวกแม้ว่าความสนใจให้กับสังคมวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อมผล ความสำคัญของการติดตั้งการท่องเที่ยวในชนบทสะท้อนให้เห็นในการอุทิศตนของปัญหาพิเศษของวารสารการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนในหัวข้อนั้นในปี1994 ซึ่งได้รับการเรียกคืนจากชาร์ปและโรเบิร์ต(2004) ทศวรรษต่อมา เมื่อเร็ว ๆ นี้จะได้รับการตั้งข้อสังเกตว่าในชนบทการท่องเที่ยวสามารถเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาสำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมและการฟื้นฟู(ชาร์ป, 2000) โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่มีคุณค่าในสถานที่ที่กิจกรรมทางการเกษตรแบบดั้งเดิมในการลดลง(คาวาโก, 1995; Hoggart บัตเลอร์และสีดำ 1995) นอกจากนี้การท่องเที่ยวในชนบทได้รับการเลื่อนเป็นทางเลือกที่ต้องการท่องเที่ยวมวลในบางกรณี

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

อ้างว่า วิชาการ สอบถามเกี่ยวกับชนบท
การท่องเที่ยววันที่จากปี 1950 , การอ้างอิง
ตีพิมพ์ก่อน โดยอายุ ( 1958 ) ซึ่งอธิบายถึงการท่องเที่ยวในภูมิภาคอัลไพน์และ
ข้อดีมันสามารถช่วยเกษตรกร รวมถึงประโยชน์ที่ได้รับรายได้เพิ่มเติม
การสร้างงาน และการลดจำนวนประชากรในชนบท การศึกษาต่อมาในทศวรรษที่ 1960 และ 1970

เน้นผลกระทบทางเศรษฐกิจในเชิงบวกถึงแม้ว่าความสนใจให้กับสังคมวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม
ผลลัพธ์ การยึดความสำคัญของการท่องเที่ยวชนบทสะท้อน
ทุ่มเทของฉบับพิเศษของวารสาร
การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน เพื่อหัวข้อในปี 1994 ซึ่งถูกเรียกโดยชาร์ปลีย์โรเบิร์ต
( 2004 ) ในทศวรรษต่อมา เมื่อเร็วๆ นี้ มันได้ถูกตรวจสอบว่าชนบท
การท่องเที่ยวสามารถเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาสำหรับการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคม
ฟื้นฟู ( ชาร์ปลีย์ , 2000 ) ที่มีคุณค่าโดยเฉพาะอย่างยิ่งในที่ๆ
กิจกรรมการเกษตรแบบดั้งเดิมในการลดลง ( cavaco , 1995 ;
hoggart พ่อบ้าน& , สีดำ , 1995 ) นอกจากนี้ การท่องเที่ยวชนบทส่งเสริม
เป็นที่ต้องการทางเลือกในการท่องเที่ยวในบางกรณี