Pierson developed path-dependence t

Pierson developed path-dependence theory by adding the concept of "increasing returns". In other words, the probability of taking further steps along the same path increases as the relative benefits of the current activity, compared with other possible options, increase or as the costs of switching to a plausible alternative increase . According to Pierson (2000; 1997), politics is particularly susceptible to this logic because of its collective nature, its complexity and opacity, and the institutional density of politics, political authority and power asymmetries. Three additional characteristics of politics-the absence or weakness of the efficiency-enhancing mechanisms of competition and learning, the short time horizons of political actors, and the strong status quo bias built into political institutions also enhance the appeal of policy inertia. If the lock-in effects are added, the costs of reform or institutional transformation increase significantly; the more solidly the lock-in effects or factors are built into institutions, the less likely is institutional or policy change . These principles of path-dependence theory apply not only to the realm of political institutions and policies, but also to that of cognitive science, ranging from ideologies to the understandings of particular aspects of governments or orientations toward political groups or parties

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ทฤษฎีเส้นทางพึ่งพา Pierson พัฒนา โดยเพิ่มแนวคิดของ "ผลตอบแทนเพิ่มขึ้น" ในคำอื่น ๆ ความน่าเป็นของทำตามขั้นตอนตามแนวเส้นทางเพิ่มเติมเพิ่มเป็นประโยชน์สัมพันธ์กิจกรรมปัจจุบัน เมื่อเทียบกับตัวอื่น ๆ เพิ่ม หรือเพิ่มเป็นต้นทุนของการสลับไปเป็นทางเลือกที่เป็นไปได้ ตาม Pierson (2000; 1997), เมืองจึงไวต่อโดยเฉพาะตรรกะนี้ลักษณะรวม ความซับซ้อนของมัน และความทึบ และสถาบันความหนาแน่นของเมือง หน่วยงานทางการเมือง และอำนาจ asymmetries ลักษณะเพิ่มเติมสามเมืองขาดงานหรือจุดอ่อนของกลไกการเพิ่มประสิทธิภาพในการแข่งขัน และเรียนรู้ ฮอลิซันส์เวลาสั้น ๆ ของนักแสดงทางการเมือง และอคติสภาพแข็งแรงอยู่ในสถาบันทางการเมืองยังเพิ่มอุทธรณ์ของนโยบายความเฉื่อย ถ้ามีเพิ่มลักษณะพิเศษใน ต้นทุนของการปฏิรูปหรือการเปลี่ยนแปลงสถาบันเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ สถานะการล็อคในลักษณะหรือปัจจัยที่อยู่ในสถาบัน มักน้อยเป็นสถาบัน หรือเปลี่ยนแปลงนโยบาย ใช้หลักการของทฤษฎีพึ่งพาเส้นทางเหล่านี้ไม่เพียงแต่ขอบเขตของสถาบันทางการเมืองและนโยบาย แต่ยังที่ของประชานศาสตร์ ตั้งแต่เพื่อเผยแพร่อุดมการณ์เปลี่ยนความเข้าใจเฉพาะด้านของรัฐบาลหรือกลุ่มทางการเมืองหรือพรรคแนว

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เพียร์สันได้พัฒนาทฤษฎีเส้นทางโดยการเพิ่มการพึ่งพาอาศัยแนวคิดของ "ผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้น" ในคำอื่น ๆ น่าจะเป็นของทำตามขั้นตอนต่อไปตามเส้นทางเดียวกันเพิ่มขึ้นเป็นผลประโยชน์ที่ญาติของกิจกรรมปัจจุบันเมื่อเทียบกับตัวเลือกที่เป็นไปได้อื่น ๆ เพิ่มขึ้นหรือเป็นค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนไปสู่​​การเพิ่มทางเลือกที่เป็นไปได้ ตามที่เพียร์สัน (2000; 1997) การเมืองโดยเฉพาะอย่างยิ่งความเสี่ยงที่จะตรรกะนี้เนื่องจากลักษณะร่วมกันของความซับซ้อนและความทึบของตนและความหนาแน่นของสถ​​าบันการเมืองผู้มีอำนาจทางการเมืองและความไม่เท่าเทียมพลังงาน สามลักษณะที่เพิ่มขึ้นของการเมืองที่ขาดหรือความอ่อนแอของกลไกการเสริมสร้างประสิทธิภาพในการแข่งขันและการเรียนรู้ที่ขอบฟ้าเวลาสั้น ๆ ของนักแสดงการเมืองและอคติสถานะที่แข็งแกร่งเดิมสร้างขึ้นในสถาบันทางการเมืองนอกจากนี้ยังเพิ่มความน่าสนใจของความเฉื่อยนโยบาย หากผลกระทบล็อคในมีการเพิ่มค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นของการเปลี่ยนแปลงหรือการปฏิรูปสถาบันอย่างมีนัยสำคัญ; มากขึ้นอย่างสมบูรณ์ล็อคในลักษณะหรือปัจจัยถูกสร้างขึ้นในสถาบันการศึกษาที่มีโอกาสน้อยที่เป็นสถาบันหรือการเปลี่ยนแปลงนโยบาย หลักการเหล่านี้ของทฤษฎีการพึ่งพาเส้นทางใช้ไม่เพียง แต่ไปยังดินแดนของสถ​​าบันทางการเมืองและนโยบาย แต่ยังกับว่าวิทยาศาสตร์ตั้งแต่เจตนารมณ์ที่จะเข้าใจลักษณะเฉพาะของรัฐบาลหรือการหมุนไปยังกลุ่มการเมืองหรืองานเลี้ยง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เพียร์สันได้พัฒนาทฤษฎีการพึ่งพาเส้นทางโดยการเพิ่มแนวคิดของ " การเพิ่มผลตอบแทน " ในคำอื่น ๆ , ความน่าจะเป็นของการขั้นตอนต่อไป รวมทั้งเพิ่มเส้นทางเดียวกับประโยชน์สัมพัทธ์ของกิจกรรมปัจจุบัน เมื่อเทียบกับตัวเลือกที่เป็นไปได้อื่น ๆเพิ่ม หรือเป็นค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนเพิ่มทางเลือกที่เป็นไปได้ ตามเพียร์สัน ( 2000 ; 1997 )การเมืองเป็นเรื่องอ่อนไหวโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับตรรกะนี้ เพราะธรรมชาติของ Collective , ความซับซ้อนและความทึบแสง และสถาบันของการเมือง อำนาจทางการเมืองและอำนาจนั่น . การเมืองขาดหรือความอ่อนแอของประสิทธิภาพการเพิ่มกลไกของการแข่งขันและการเรียนรู้เพิ่มเติมสามลักษณะ เวลาสั้น ๆ ขอบเขตของตัวแสดงทางการเมืองและแข็งแรง สภาพที่เป็นอคติที่สร้างขึ้นในสถาบันการเมืองยังเพิ่มอุทธรณ์ของความเฉื่อยและนโยบาย ถ้าล็อคอินผลจะเพิ่มต้นทุนของการปฏิรูปหรือเพิ่มการเปลี่ยนแปลงสถาบันอย่างมาก ยิ่งสันล็อคในผลหรือปัจจัยสร้างขึ้นในสถาบัน อาจน้อยกว่าที่เป็นสถาบันหรือนโยบายเปลี่ยนหลักการเหล่านี้ของทฤษฎีการพึ่งพาเส้นทางที่ใช้ไม่เพียง แต่ให้ขอบเขตขององค์กรทางการเมืองและนโยบาย แต่ยังที่ของวิทยาศาสตร์ตั้งแต่อุดมการณ์เพื่อความเข้าใจของลักษณะเฉพาะของรัฐบาล หรือกลุ่มการเมือง หรือพรรคการเมืองอื่นต่อ