he first St Mark's was a building n

he first St Mark's was a building next to the Doge's Palace, ordered by the doge in 828, when Venetian merchants stole the supposed relics of Mark the Evangelist from Alexandria, and completed by 832; from the same century dates the first St Mark's Campanile (bell tower). The church was burned in a rebellion in 976, when the populace locked Pietro IV Candiano inside to kill him, and restored or rebuilt in 978. Nothing certain is known of the form of these early churches From perhaps 1063[4] the present basilica was constructed. The consecration is variously recorded as being in 1084-5, 1093 (the date most often taken), 1102 and 1117, probably reflecting a series of consecrations of different parts.[5]


Detail of the gable showing Venice's patron apostle St. Mark with angels. Underneath is a winged lion, the symbol of the saint and of Venice.
In 1094 the supposed body of Saint Mark was rediscovered in a pillar by Vitale Faliero, doge at the time.[6] The building also incorporates a low tower (now housing St Mark’s Treasure), believed by some to have been part of the original Doge's Palace. The Pala d'Oro ordered from Constantinople was installed on the high altar in 1105.[7] In 1106 the church, and especially its mosaics, were damaged by a serious fire in that part of the city; it is not entirely clear whether any surviving mosaics in the interior predate this, though there is some 11th-century work surviving in the main porch.[8] The main features of the present structure were all in place by then, except for the narthex or porch, and the facade.

The basic shape of the church has a mixture of Italian and Byzantine features, notably "the treatment of the eastern arm as the termination of a basilican building with main apse and two side chapels rather than as an equal arm of a truly centralized structure".[9] In the first half of the 13th century the narthex and the new façade were constructed, most of the mosaics were completed and the domes were covered with second much higher domes of lead-covered wood in order to blend in with the Gothic architecture of the redesigned Doge's Palace.—

Later construction[edit]
The basic structure of the building has not been much altered. Its decoration has changed greatly over time, though the overall impression of the interior with a dazzling display of gold ground mosaics on all ceilings and upper walls remains the same. The succeeding centuries, especially the period after the Venetian-led conquest of Constantinople in the Fourth Crusade of 1204 and the fourteenth century, all contributed to its adornment, with many elements being spolia brought in from ancient or Byzantine buildings, such as mosaics, columns, capitals, or friezes.[10] Gradually, the exterior brickwork became covered with marble cladding and carvings, some much older than the building itself, such as the statue of the Four Tetrarchs (below). The latest structural additions include the closing-off of the Baptistery and St Isidor's Chapel (1300s), the carvings on the upper facade and the Sacristy (1400s), and the closing-off of the Zen Chapel (1500s).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เขาแรกเซนต์มาร์คถูกอาคารถัดจากพระราชวัง สั่งซื้อ โดยการโดเกใน 828 เมื่อพ่อค้าเวขโมยปัจจุบันควรทำเครื่องหมายผู้นิพนธ์พระวรสารจากอเล็กซานเด และสมบูรณ์ โดย 832 จากคริสต์ศตวรรษเดียวกันวันแรกเซนต์หมายของ Campanile (หอระฆัง) คริสตจักรถูกเผาในการกบฏใน 976 เมื่อประชาชนล็อก Pietro Candiano IV ภายในฆ่าเขา และการคืนค่า หรือสร้างใน 978 อะไรบางอย่างเป็นที่รู้จักแบบของคริสตจักรเหล่านี้ช่วงจากที 1063 [4] สร้างมหาวิหารปัจจุบัน Consecration ที่ต่างได้รับการบันทึกไว้เป็นกำลังใน 1084-5, 1093 (วันถ่ายบ่อย), 1102 และ 1117 อาจสะท้อนชุด consecrations ของส่วนต่าง ๆ [5]รายละเอียดของช่อฟ้าแสดงอัครทูตผู้มีพระคุณในเวนิสเซนต์มาร์คกับเทวดา ข้างใต้เป็นสิงโตมีปีก สัญลักษณ์ ของเซนต์ และเวนิสใน 1094 ร่างกายควรการเซนต์ถูกค้นพบในเสา โดย Vitale Faliero โดเกในเวลา [6] อาคารยังประกอบด้วยหอต่ำที่ (ตอนนี้อยู่อาศัยสมบัติเซนต์มาร์ค), ความเชื่อ โดยบางที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของพระราชวังธนาคารเดิม D'Oro ปาละที่สั่งจากเปิลถูกติดตั้งบนแท่นสูงใน 1105 [7] ใน 1106 โบสถ์ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งของโมเสคแก้ว เสียหายจากไฟไหม้รุนแรงในส่วนหนึ่งของเมือง ไม่บอกชัดเจนว่าโมเสกใด ๆ รอดตายภายใน predate นี้ มี ชีวิตรอดในระเบียงหลักงานสมัยศตวรรษที่ 11 [8] คุณสมบัติหลักของโครงสร้างอยู่ได้ในที่นั้น ยกเว้นโบสถ์ทึบ หรือระเบียง และพักรูปร่างพื้นฐานของพระศาสนจักรมีส่วนผสมของอิตาลีและไบแซนไทน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "การรักษาแขนตะวันออก เป็นการสิ้นสุดของอาคาร basilican แหกคอกหลักและด้านที่นี่มากกว่าที่ จะ เป็นแขนเท่ากันของโครงสร้างส่วนกลางอย่างแท้จริง" ในครึ่งแรกของศตวรรษที่ 13 โบสถ์ทึบและด้านหน้าใหม่ถูกสร้างขึ้น มีความสมบูรณ์มากที่สุดของกระเบื้องโมเส และโดมถูกปกคลุม ด้วยโดมสูงสองไม้ครอบคลุมเป้าหมายเพื่อผสานสถาปัตยกรรมโกธิคของพระราชวังธนาคารออก —ภายหลังก่อสร้าง [แก้]โครงสร้างพื้นฐานของอาคารเปลี่ยนแปลงมากไม่ถูกต้อง ตกแต่งที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากตลอดเวลา แต่ความประทับใจโดยรวมของการตกแต่งภายในกับการแสดงที่สวยงามของกระเบื้องโมเสกทองพื้นเพดานและผนังด้านบนทั้งหมดเหมือนกัน ประสบความสำเร็จมานานหลายศตวรรษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งระยะหลังพิชิตนำเวติโนเปิลในสงครามครูเสดที่สี่ 1204 และศตวรรษที่สิบสี่ ทุกส่วนของเครื่องประดับ มีองค์ประกอบต่าง ๆ ที่ถูกนำเข้าจากอาคารที่เป็นโบราณ หรือไบแซนไทน์ เช่นโมเสก คอลัมน์ เมืองหลวง หรือ friezes spolia [10] ค่อย ๆ อิฐภายนอกกลายเป็นปกคลุม ด้วยผนังหินอ่อนและแกะสลัก เก่ามากน้อยกว่าตัวอาคาร เช่นรูปปั้นของ Tetrarchs สี่ (ด้านล่าง) เพิ่มโครงสร้างล่าสุดรวมถึงการปิดปิดของหอล้างบาปโบสถ์เซนต์ Isidor (1300s), แกะสลักบนผนังด้านบนและ Sacristy (1400s), และการปิดบัญชีปิดของโบสถ์เซน (หน้า)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ครั้งแรกที่เขาเซนต์มาร์คเป็นอาคารติดกับวังโดได้รับคำสั่งจากผู้พิพากษาใน 828 เมื่อพ่อค้า Venetian ขโมยพระธาตุควรสัญลักษณ์ศาสนาจากซานเดรียและแล้วเสร็จภายใน 832; จากวันที่ศตวรรษที่เดียวกันเป็นครั้งแรกเซนต์มาร์ค Campanile (หอระฆัง) คริสตจักรที่ถูกเผาในการกบฏใน 976 เมื่อประชาชนล็อค Pietro IV Candiano ภายในจะฆ่าเขาและบูรณะหรือสร้างขึ้นมาใหม่ใน 978. ไม่มีอะไรบางอย่างที่เป็นที่รู้จักกันในรูปแบบของคริสตจักรในช่วงต้นเหล่านี้อาจจะเริ่มต้นที่ 1063 [4] มหาวิหารปัจจุบัน สร้าง ถวายจะถูกบันทึกไว้นานัปการที่อยู่ใน 1084-5, 1093 (วันที่ส่วนใหญ่มักจะนำ), 1102 และ 1117 อาจจะสะท้อนให้เห็นถึงชุดของการสถาปนาของชิ้นส่วนที่แตกต่างกัน. [5] รายละเอียดของหน้าบันแสดงผู้มีพระคุณของเวนิสอัครสาวกเซนต์มาร์กกับ ยมทูต ภายใต้เป็นสิงโตมีปีกซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของนักบุญและเวนิส. ใน 1094 ร่างกายควรเซนต์มาร์คถูกค้นพบในเสาโดยไวเท Faliero, Doge ในเวลานั้น. [6] อาคารยังประกอบด้วยหอต่ำ (ตอนนี้ที่อยู่อาศัย เซนต์มาร์คเทรเชอร์) โดยเชื่อว่าบางอย่างที่จะได้เป็นส่วนหนึ่งของเดิมพระราชวัง Doge พาลา d'Oro สั่งซื้อจากคอนสแตนติถูกติดตั้งบนแท่นบูชาใน 1105. [7] 1106 คริสตจักรและโดยเฉพาะกระเบื้องโมเสคของตนได้รับความเสียหายจากไฟไหม้อย่างรุนแรงในส่วนหนึ่งของเมืองที่มิ มันไม่ชัดเจนว่าส่วนใดกระเบื้องโมเสคที่รอดตายในการตกแต่งภายในลงวันที่ก่อนนี้แม้ว่าจะมีบางงานในศตวรรษที่ 11 รอดตายในระเบียงหลัก. [8] คุณสมบัติหลักของโครงสร้างในปัจจุบันทุกคนในสถานที่นั้นยกเว้นทึบ หรือระเบียงและซุ้ม. รูปร่างพื้นฐานของคริสตจักรมีส่วนผสมของคุณสมบัติอิตาลีและไบเซนไทน์สะดุดตา "การรักษาของแขนตะวันออกเป็นสิ้นสุดของอาคาร basilican กับแหกคอกหลักและสองข้างโบสถ์แทนที่จะเป็นแขนที่เท่าเทียมกัน โครงสร้างส่วนกลางอย่างแท้จริง ". [9] ในช่วงครึ่งแรกของศตวรรษที่ 13 ทึบและใบหน้าถูกสร้างขึ้นใหม่ส่วนใหญ่ของโมเสสเสร็จสมบูรณ์และมีโดมถูกปกคลุมไปด้วยสองโดมที่สูงมากของไม้หุ้มตะกั่วในการสั่งซื้อ ผสมผสานกับสถาปัตยกรรมแบบกอธิคของการออกแบบใหม่ Palace.- โดภายหลังก่อสร้าง [แก้ไข] โครงสร้างพื้นฐานของอาคารที่ยังไม่ได้รับการเปลี่ยนแปลงมาก การตกแต่งที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในช่วงเวลาแม้ว่าความประทับใจโดยรวมของการตกแต่งภายในด้วยการแสดงพราวของโมเสคสีทองบนพื้นเพดานและผนังด้านบนยังคงเหมือนเดิม ศตวรรษที่ประสบความสำเร็จโดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงเวลาหลังจากที่พิชิตเวนิสนำของคอนสแตนติในสี่รณรงค์ของ 1204 และศตวรรษที่สิบสี่ทุกส่วนร่วมในการตกแต่งของตนกับองค์ประกอบหลายอย่างเป็น spolia นำเข้ามาจากอาคารโบราณหรือไบเซนไทน์เช่นโมเสค, คอลัมน์ เมืองหลวงหรือสลักเสลา. [10] ค่อยๆก่ออิฐภายนอกกลายเป็นที่หุ้มปกคลุมด้วยหินอ่อนและแกะสลักบางส่วนแก่กว่าตัวอาคารเช่นรูปปั้นของสี่ Tetrarchs (ด้านล่าง) เดอะ ล่าสุดเพิ่มเติมโครงสร้างรวมถึงการปิดออกจากพิธีศีลจุ่มและเซนต์อิซิดอโบสถ์ (1300s) แกะสลักบนซุ้มบนและวะ (1400s) และปิดออกจากโบสถ์เซน (1500s)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เขาเซนต์มาร์คเป็นอาคารถัดไปของดยุกวัง สั่งโดยดยุคใน 828 เมื่อพ่อค้าชาวเวนิส ขโมยน่าจะธาตุของชาวซูดานจาก Alexandria และเสร็จสมบูรณ์โดยคิด จากศตวรรษเดียวกันก่อนวันที่หอระฆังเซนต์มาร์ค ( หอระฆัง ) โบสถ์ถูกเผาในการจลาจลใน 976 เมื่อประชาชนล็อค Pietro 4 candiano ข้างในจะฆ่าเขาและบูรณะหรือสร้างใหม่ใน 978 . ไม่มีอะไรที่แน่นอนเป็นที่รู้จักกันในรูปแบบของคริสตจักรยุคแรกๆ จากบางทีบอก [ 4 ] ปัจจุบันเป็นมหาวิหารที่สร้าง สำหรับการสถาปนาเป็นหลากหลายบันทึกเป็น 1084-5 939 , ( วันที่มากที่สุดและมักจะ ) , 1102 1117 อาจสะท้อนให้เห็นถึงชุดของ consecrations ชิ้นส่วนที่แตกต่างกัน [ 5 ]รายละเอียดหน้าบันแสดงเวนิสของผู้อุปถัมภ์อัครสาวกเซนต์มาร์คกับเทพ ด้านล่างเป็นสิงโตมีปีก เป็นสัญลักษณ์ของนักบุญและเวนิสในร่างของเซนต์มาร์คแล้วควรถูกค้นพบในเสาโดยวิเทล faliero ดอจ , ตลอดเวลา [ 6 ] ตึกยังประกอบด้วยหอน้อย ( ตอนนี้เซนต์ที่อยู่อาศัยของมาร์คสมบัติ ) , เชื่อว่าบางคนที่ได้รับส่วนหนึ่งของต้นฉบับดยุคของพระราชวัง Pala ใหม่สั่งจากคอนสแตนติโนเปิลถูกติดตั้งบนแท่นสูงใน 1105 [ 7 ] ในก็คือโบสถ์ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งของโมเสคที่ได้รับความเสียหายจากไฟไหม้ร้ายแรงในส่วนหนึ่งของเมือง ; มันไม่ได้ทั้งหมดชัดเจนว่ามีการโมเสดภายในเกิดขึ้นก่อนนี้ แม้ว่ามีบางงาน surviving ศตวรรษที่ 11 ในมุขหลัก . [ 8 ] คุณสมบัติหลักของโครงสร้างปัจจุบันอยู่ในสถานที่นั้น ยกเว้น เจน ดาร์เวล หรือซุ้มประตูและซุ้ม .รูปร่างพื้นฐานของโบสถ์มีลักษณะผสมของอิตาลีและไบเซนไทน์ โดยเฉพาะ " การรักษาแขนตะวันออก การสิ้นสุดของอาคาร basilican กับบวกหลักและสองข้างโบสถ์แทนที่จะเป็นแขนเท่ากันอย่างแท้จริงส่วนกลางโครงสร้าง " . [ 9 ] ในช่วงครึ่งแรกของศตวรรษที่ 13 ของท้ายโบสถ์ และ ซึ่งรวมถึง เอฟเอ ADE ใหม่ถูกสร้างขึ้น ส่วนใหญ่ของโมเสคเสร็จและถูกปกคลุมด้วยโดมสองโดมที่สูงมากของตะกั่วหุ้มไม้เพื่อให้กลมกลืนกับสถาปัตยกรรมกอธิคของการออกแบบดยุคของวัง .ภายหลังการก่อสร้าง [ แก้ไข ]พื้นฐาน โครงสร้างของอาคารไม่ได้ถูกมากมีการเปลี่ยนแปลง การตกแต่งมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในช่วงเวลา แต่โดยรวมประทับใจภายในกับพราวแสดงพื้นโมเสคสีทองบนเพดานและผนังตอนบนยังคงเหมือนเดิม ที่ประสบความสำเร็จหลายศตวรรษ โดยเฉพาะช่วงหลัง Venetian LED ชัยชนะแห่งคอนสแตนติโนเปิลในสงครามครูเสดที่สี่ของเกและศตวรรษที่สิบสี่ , ทุกส่วนของเครื่อง มีหลายองค์ประกอบที่ถูก spolia นำมาจากอาคารเก่าแก่หรือไบแซนไทน์เช่นโมเสค , คอลัมน์ , เมืองหลวง , หรือสลักเสลา [ 10 ] ค่อยๆก่ออิฐภายนอกเป็น ครอบคลุมกับการแกะสลักหินอ่อนและ บางคนอายุมากกว่าตัวอาคาร เช่น รูปปั้นทั้งสี่ tetrarchs ( ด้านล่าง ) เพิ่มโครงสร้างล่าสุดรวมถึงการปิดของหอศีลจุ่มและเซนต์อิซิโดร์ เป็นโบสถ์ ( 1280 ) , แกะสลักบนซุ้มบนและห้องเก็บเครื่องพิธี ( 1380 ) และปิดของเซนโบสถ์ ( 1480 )