ประวัติของ “ขนมเค้ก” เค้กเป็นคำที่

ประวัติของ “ขนมเค้ก”

เค้กเป็นคำที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน (เป็นคำที่มาจากไวกิ้งจากเดิมนอร์ส Kaka) และหมายถึงขนมแป้งอบหวานด้วยน้ำตาลหรือน้ำผึ้ง; มัน มีการผสมกับไข่และมักจะ แต่ไม่คงเส้นคงวา, กับนมและไขมัน และมันมีเนื้อมีรูพรุนจากส่วนผสมที่เพิ่มขึ้นในระหว่างการปรุงอาหาร ไม่น่า แปลกใจว่าเขตแดนระหว่างเค้กและขนมปังบิสกิตและขนมปังจะไม่ชัด ต้นกำเนิดของ ทั้งหมดเป็นขนมปังในรูปแบบง่ายที่สุด เป็นเทคนิคสำหรับการอบและการพัฒนาหัว เชื้อและการรับประทานอาหารรูปแบบการเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ถูกมองว่าเดิมเป็น froms ของขนมปังมาให้เห็นเป็นหมวดหมู่ของตัวเองและตั้งชื่อตาม ขนมปังโรมัน บางอย่างอุดมไปด้วยไข่และเนย, จะต้องมีความสอดคล้อง cakelike และเข้าหาจึงเป็นหนึ่งในเขตแดนคลุมเครือเหล่านี้
ยุโรปและสถานที่เช่นทวีปอเมริกาเหนือที่มีอิทธิพลต่อ ยุโรปมีความแข็งแกร่งได้เสมอศูนย์กลางของเค้ก หนึ่งก็อาจจะวาดเส้นมากขึ้น แน่น fourn พื้นที่ที่พูดภาษาอังกฤษ ไม่มีภาษาอื่น ๆ ที่มีคำว่าหมายถึงตรงเช่นเดียวกับภาษาอังกฤษเป็น’เค้ก.’ ทวีปยุโรปและ Torte gateau มักจะมีสัดส่วนที่สูงขึ้นของไข่, เนยและส่วนผสมที่สมบูรณ์เช่นช็อคโกแลตและมักจะยัน rathern ขนมเค้ก towaars กว่า ภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงรายการในยุโรปเช่น Baba และอีสเตอร์ kulich จะแตกต่างกันเช่นเดียวกัน
ประเพณีตะวันตกของเค้กใช้เล็ก ๆ น้อย ๆ ในเอเชีย ในบางประเทศเค้กสไตล์ตะวันตกได้รับการรับรองในระดับเล็กๆ ตัวอย่างเช่นเค้กฟองน้ำเล็ก ๆ เรียกว่า kasutera ในประเทศญี่ปุ่น แต่’ขนมเค้ก’ซึ่งเป็น imporant ในเอเชียมีค่อนข้างแตกต่างจากสิ่งที่ตะวันตกสำหรับตัวอย่างให้ดูขนมไหว้พระจันทร์และเค้กข้าวจากประเทศฟิลิปปินส์
ประวัติของขนมเค้กไปทางยาวกลับ ในหมู่ผู้ที่ยังคงพบว่า ในหมู่บ้านมีทะเลสาบสวิสเซอร์แลนด์เค้กน้ำมันดิบทำจากกำไรจากการบดประมาณ ชุบ, บดอัดและการปรุงบนหินร้อน ขนมเค้กดังกล่าวสามารถถือเป็นรูปแบบของขนมปังไร้ เชื้อที่เป็นสารตั้งต้นของผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของอบที่ทันสมัยจากยุโรป ผู้ รอดชีวิตบางคนที่ทันสมัยของผสมเหล่านี้ยังคงไปด้วย’เค้ก’ชื่อสำหรับการ oatcakes เช่นแม้ว่าเหล่านี้จะ considreed ตอนนี้จะใกล้ชิดกับบิสกิตโดยอาศัยอำนาจของแบนบางรูปร่างของพวกเขาและเนื้อ เปราะ
อียิปต์โบราณเป็นวัฒนธรรมคนแรกที่แสดงหลักฐานของความ สามารถที่แท้จริงใน bakin ทำให้หลายชนิดรวมทั้งบางส่วนขนมปังหวานกับเหลา ชาวกรีกที่มีรูปแบบของขนม เค้กเนยแข็งและชาวโรมันที่พัฒนาขึ้นรุ่นแรกของ fruitcakes กับลูกเกด, ถั่วและผลไม้อื่น ๆ เหล่านี้สิ้นสุดลงในศตวรรษที่ 14 สหราชอาณาจักร Chaucer กล่าวถึงการทำเค้กอันยิ่งใหญ่สำหรับโอกาสพิเศษ หนึ่งได้ถูกทำให้มี 13 กิโลกรัมของแป้งและเนยที่มีอยู่, ครีม, ไข่, เครื่องเทศและน้ำผึ้ง currants
แม่พิมพ์ในรูปแบบของห่วงเค้กหรือกระทะที่ได้รับการ ใช้สำหรับการขึ้นรูปขนมเค้กอย่างน้อยตั้งแต่ช่วงกลางศตวรรษที่ 17 เค้กส่วนใหญ่ถูกกินพร้อมกับแก้วไวน์หวานหรือน้ำชา ที่จัดงานเลี้ยงขนาด ใหญ่, เค้กตกแต่งอย่างประณีตอาจเป็นส่วนหนึ่งของการแสดงผล แต่อาจจะไม่ได้กิน โดยช่วงกลางศตวรรษที่ 19 ฝรั่งเศสได้รวมทั้งที่แยกจากกันแน่นอน”หวาน”ที่ส่วนท้ายของอาหารซึ่งอาจรวม ถึงที่’gateau.’
ระหว่างศตวรรษที่ 19, เทคโนโลยีการผลิตชีวิตเค้กขนมปังได้ง่ายขึ้นมาก สารเคมีที่มีการเพิ่มตัวแทน ไบคาร์บอเนตของโซดานำมาใช้ใน 1840, ตามด้วยผงฟู (ผสมแห้งของไบคาร์บอเนตของโซดากับกรดอ่อน), ยีสต์แทนที่หัวเชื้อให้อำนาจมากขึ้นด้วยความพยายามน้อย การพัฒนาเทคโนโลยี อีกอย่างคือเตาอบ accuate มากขึ้นมีการควบคุมอุณหภูมิ
ในส่วนของตะวันตกเฉียงเหนือทวีปยุโรปและอเมริกาเหนือ เป็นประเพณีทั้งการพัฒนาของอบบ้านมีชีวิตอยู่กับละครใหญ่ของเค้กสูตรที่ พัฒนามาจากวิธีการพื้นฐาน abililty การอบเค้กที่ดีที่ได้เป็นสกิล prized ในหมู่แม่บ้านในช่วงต้นถึงกลางศตวรรษที่ 20 เมื่อหลายครัวเรือนสามารถผลิตได้ง่ายที่แข็งแกร่งกรอก’ตัดและมาใหม่อีก ครั้ง’เค้ก, implying ความอุดมสมบูรณ์และการต้อนรับขับสู้
ถึงแม้ว่าความนิยมของอบบ้านและบทบาทของขนมเค้กในอาหาร ที่มีทั้งการเปลี่ยนแปลงในช่วงศตวรรษที่ 20, เค้กยังคงแพร่หลายเกือบจะในโลกตะวันตก พวกเขาได้เก็บภาพของพวกเขาเป็น’ถือ ว่า’และยังคงรักษาความสำคัญของพวกเขาที่ทำพิธีแต่งงานและวันเกิด

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ประวัติของ "ขนมเค้ก"

และหมายถึงขนมแป้งอบหวานด้วยน้ำตาลหรือน้ำผึ้งเค้กเป็นคำที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน (เป็นคำที่มาจากไวกิ้งจากเดิมนอร์ส Kaka) มันมีการผสมกับไข่และมักจะแต่ไม่คงเส้นคงวา กับนมและไขมันและมันมีเนื้อมีรูพรุนจากส่วนผสมที่เพิ่มขึ้นในระหว่างการปรุงอาหารไม่น่าแปลกใจว่าเขตแดนระหว่างเค้กและขนมปังบิสกิตและขนมปังจะไม่ชัดต้นกำเนิดของทั้งหมดเป็นขนมปังในรูปแบบง่ายที่สุด เชื้อและการรับประทานอาหารรูปแบบการเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ถูกมองว่าเดิมเป็น froms ของขนมปังมาให้เห็นเป็นหมวดหมู่ของตัวเองและตั้งชื่อตามขนมปังโรมันบางอย่างอุดมไปด้วยไข่และเนย จะต้องมีความสอดคล้อง cakelike และเข้าหาจึงเป็นหนึ่งในเขตแดนคลุมเครือเหล่านี้
ยุโรปและสถานที่เช่นทวีปอเมริกาเหนือที่มีอิทธิพลต่อยุโรปมีความแข็งแกร่งได้เสมอศูนย์กลางของเค้กหนึ่งก็อาจจะวาดเส้นมากขึ้นแน่น fourn พื้นที่ที่พูดภาษาอังกฤษไม่มีภาษาอื่นๆ ' ทวีปยุโรปและปีเตอร์พาย gateau มักจะมีสัดส่วนที่สูงขึ้นของไข่ เนยและส่วนผสมที่สมบูรณ์เช่นช็อคโกแลตและมักจะยัน rathern ขนมเค้ก towaars กว่าภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงรายการในยุโรปเช่นบาและอีสเตอร์ kulich จะแตกต่างกันเช่นเดียวกัน
ประเพณีตะวันตกของเค้กใช้เล็กๆ น้อยๆ ในเอเชียในบางประเทศเค้กสไตล์ตะวันตกได้รับการรับรองในระดับเล็ก ๆ ตัวอย่างเช่นเค้กฟองน้ำเล็กๆ เรียกว่า kasutera ในประเทศญี่ปุ่นแต่ 'ขนมเค้ก' ซึ่งเป็น imporant ประวัติของขนมเค้กไปทางยาวกลับในหมู่ผู้ที่ยังคงพบว่าในหมู่บ้านมีทะเลสาบสวิสเซอร์แลนด์เค้กน้ำมันดิบทำจากกำไรจากการบดประมาณชุบ บดอัดและการปรุงบนหินร้อนขนมเค้กดังกล่าวสามารถถือเป็นรูปแบบของขนมปังไร้เชื้อที่เป็นสารตั้งต้นของผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของอบที่ทันสมัยจากยุโรปผู้ oatcakes เช่นแม้ว่าเหล่านี้จะ considreed ตอนนี้จะใกล้ชิดกับบิสกิตโดยอาศัยอำนาจของแบนบางรูปร่างของพวกเขาและเนื้อเปราะ
Bakin ทำให้หลายชนิดรวมทั้งบางส่วนขนมปังหวานกับเหลาชาวกรีกที่มีรูปแบบของขนมเค้กเนยแข็งและชาวโรมันที่พัฒนาขึ้นรุ่นแรกของ fruitcakes สามารถที่แท้จริงในอียิปต์โบราณเป็นวัฒนธรรมคนแรกที่แสดงหลักฐานของความ ถั่วและผลไม้อื่นๆ เหล่านี้สิ้นสุดลงในศตวรรษที่ 14 สหราชอาณาจักร Chaucer กล่าวถึงการทำเค้กอันยิ่งใหญ่สำหรับโอกาสพิเศษหนึ่งได้ถูกทำให้มี 13 กิโลกรัมของแป้งและเนยที่มีอยู่ ครีม ไข่ เครื่องเทศและน้ำผึ้ง currants
แม่พิมพ์ในรูปแบบของห่วงเค้กหรือกระทะที่ได้รับการใช้สำหรับการขึ้นรูปขนมเค้กอย่างน้อยตั้งแต่ช่วงกลางศตวรรษที่ 17 เค้กส่วนใหญ่ถูกกินพร้อมกับแก้วไวน์หวานหรือน้ำชาที่จัดงานเลี้ยงขนาดใหญ่ เค้กตกแต่งอย่างประณีตอาจเป็นส่วนหนึ่งของการแสดงผลแต่อาจจะไม่ได้กินโดยช่วงกลางศตวรรษที่ 19 ฝรั่งเศสได้รวมทั้งที่แยกจากกันแน่นอน "หวาน" ที่ส่วนท้ายของอาหารซึ่งอาจรวมถึงที่ "gateau'
ระหว่างศตวรรษที่ 19 เทคโนโลยีการผลิตชีวิตเค้กขนมปังได้ง่ายขึ้นมากสารเคมีที่มีการเพิ่มตัวแทนไบคาร์บอเนตของโซดานำมาใช้ใน 1840 ตามด้วยผงฟู (ผสมแห้งของไบคาร์บอเนตของโซดากับกรดอ่อน), ยีสต์แทนที่หัวเชื้อให้อำนาจมากขึ้นด้วยความพยายามน้อยการพัฒนาเทคโนโลยีอีกอย่างคือเตาอบ accuate มากขึ้นมีการควบคุมอุณหภูมิ
ในส่วนของตะวันตกเฉียงเหนือทวีปยุโรปและอเมริกาเหนือเป็นประเพณีทั้งการพัฒนาของอบบ้านมีชีวิตอยู่กับละครใหญ่ของเค้กสูตรที่พัฒนามาจากวิธีการพื้นฐาน abililty การอบเค้กที่ดีที่ได้เป็นสกิล prized 20 เมื่อหลายครัวเรือนสามารถผลิตได้ง่ายที่แข็งแกร่งกรอก 'ตัดและมาใหม่อีกครั้ง' เค้ก หน้าที่ความอุดมสมบูรณ์และการต้อนรับขับสู้
ถึงแม้ว่าความนิยมของอบบ้านและบทบาทของขนมเค้กในอาหารที่มีทั้งการเปลี่ยนแปลงในช่วงศตวรรษที่ 20 เค้กยังคงแพร่หลายเกือบจะในโลกตะวันตกพวกเขาได้เก็บภาพของพวกเขาเป็น 'ถือว่า' และยังคงรักษาความสำคัญของพวกเขาที่ทำพิธีแต่งงานและวันเกิด

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ประวัติของ " ขนมเค้ก "

เค้กเป็นคำที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน ( เป็นคำที่มาจากไวกิ้งจากเดิมนอร์ส Kaka ) และหมายถึงขนมแป้งอบหวานด้วยน้ำตาลหรือน้ำผึ้ง ; มันแต่ไม่คงเส้นคงวามีการผสมกับไข่และมักจะ ,กับนมและไขมันและมันมีเนื้อมีรูพรุนจากส่วนผสมที่เพิ่มขึ้นในระหว่างการปรุงอาหารไม่น่าแปลกใจว่าเขตแดนระหว่างเค้กและขนมปังบิสกิตและขนมปังจะไม่ชัดต้นกำเนิดของทั้งหมดเป็นขนมปังในรูปแบบง่ายที่สุดเชื้อและการรับประทานอาหารรูปแบบการเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ถูกมองว่าเดิมเป็นไปจากของขนมปังมาให้เห็นเป็นหมวดหมู่ของตัวเองและตั้งชื่อตามบางอย่างอุดมไปด้วยไข่และเนยขนมปังโรมัน ,จะต้องมีความสอดคล้อง cakelike และเข้าหาจึงเป็นหนึ่งในเขตแดนคลุมเครือเหล่านี้
ยุโรปและสถานที่เช่นทวีปอเมริกาเหนือที่มีอิทธิพลต่อยุโรปมีความแข็งแกร่งได้เสมอศูนย์กลางของเค้กหนึ่งก็อาจจะวาดเส้นมากขึ้นแน่น fourn พื้นที่ที่พูดภาษาอังกฤษไม่มีภาษาอื่นไม่มี' ทวีปยุโรปและมักจะมีสัดส่วนที่สูงขึ้นของไข่ Torte เค้ก ,เนยและส่วนผสมที่สมบูรณ์เช่นช็อคโกแลตและมักจะยัน rathern ขนมเค้ก towaars กว่าภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงรายการในยุโรปเช่นบาบาและอีสเตอร์คุลิชจะแตกต่างกันเช่นเดียวกัน
ประเพณีตะวันตกของเค้กใช้เล็กจะไม่มีน้อยในเอเชียในบางประเทศเค้กสไตล์ตะวันตกได้รับการรับรองในระดับเล็กๆตัวอย่างเช่นเค้กฟองน้ำเล็กจะเรียกว่าคาซูเทรา ในประเทศญี่ปุ่น A ' ขนมเค้ก ' ซึ่งเป็นวิธีประวัติของขนมเค้กไปทางยาวกลับในหมู่ผู้ที่ยังคงพบว่าชุบในหมู่บ้านมีทะเลสาบสวิสเซอร์แลนด์เค้กน้ำมันดิบทำจากกำไรจากการบดประมาณ ,บดอัดและการปรุงบนหินร้อนขนมเค้กดังกล่าวสามารถถือเป็นรูปแบบของขนมปังไร้เชื้อที่เป็นสารตั้งต้นของผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของอบที่ทันสมัยจากยุโรปผู้oatcakes เช่นแม้ว่าเหล่านี้จะ considreed ตอนนี้จะใกล้ชิดกับบิสกิตโดยอาศัยอำนาจของแบนบางรูปร่างของพวกเขาและเนื้อเปราะ
อียิปต์โบราณเป็นวัฒนธรรมคนแรกที่แสดงหลักฐานของความสามารถที่แท้จริงในการคทำให้หลายชนิดรวมทั้งบางส่วนขนมปังหวานกับเหลาชาวกรีกที่มีรูปแบบของขนมเค้กเนยแข็งและชาวโรมันที่พัฒนาขึ้นรุ่นแรกของเค้กผลไม้ถั่วและผลไม้อื่นจะเหล่านี้สิ้นสุดลงในศตวรรษที่ 14 สหราชอาณาจักรชอเซอร์กล่าวถึงการทำเค้กอันยิ่งใหญ่สำหรับโอกาสพิเศษหนึ่งได้ถูกทำให้มี 13 กิโลกรัมของแป้งและเนยที่มีอยู่ครีม , ไข่เครื่องเทศและน้ำผึ้ง currants
, ,แม่พิมพ์ในรูปแบบของห่วงเค้กหรือกระทะที่ได้รับการใช้สำหรับการขึ้นรูปขนมเค้กอย่างน้อยตั้งแต่ช่วงกลางศตวรรษที่ 17 เค้กส่วนใหญ่ถูกกินพร้อมกับแก้วไวน์หวานหรือน้ำชาใหญ่ที่จัดงานเลี้ยงขนาด ,เค้กตกแต่งอย่างประณีตอาจเป็นส่วนหนึ่งของการแสดงผลแต่อาจจะไม่ได้กินโดยช่วงกลางศตวรรษที่ 19 ฝรั่งเศสได้รวมทั้งที่แยกจากกันแน่นอน " หวาน " ที่ส่วนท้ายของอาหารซึ่งอาจรวมถึงที่ 'gateau '
ระหว่างศตวรรษที่ 19เทคโนโลยีการผลิตชีวิตเค้กขนมปังได้ง่ายขึ้นมากสารเคมีที่มีการเพิ่มตัวแทนไบคาร์บอเนตของโซดานำมาใช้ใน 1840 , ตามด้วยผงฟู ( ผสมแห้งของไบคาร์บอเนตของโซดากับกรดอ่อน )ยีสต์แทนที่หัวเชื้อให้อำนาจมากขึ้นด้วยความพยายามน้อยการพัฒนาเทคโนโลยีอีกอย่างคือเตาอบ accuate มากขึ้นมีการควบคุมอุณหภูมิ
ในส่วนของตะวันตกเฉียงเหนือทวีปยุโรปและอเมริกาเหนือเป็นประเพณีทั้งการพัฒนาของอบบ้านมีชีวิตอยู่กับละครใหญ่ของเค้กสูตรที่พัฒนามาจากวิธีการพื้นฐาน abililty การอบเค้กที่ดีที่ได้เป็นสกิล prized20 เมื่อหลายครัวเรือนสามารถผลิตได้ง่ายที่แข็งแกร่งกรอก ' ' เค้กตัดและมาใหม่อีกครั้ง ,หมายถึงความอุดมสมบูรณ์และการต้อนรับขับสู้
ถึงแม้ว่าความนิยมของอบบ้านและบทบาทของขนมเค้กในอาหารที่มีทั้งการเปลี่ยนแปลงในช่วงศตวรรษที่ 20เค้กยังคงแพร่หลายเกือบจะในโลกตะวันตกพวกเขาได้เก็บภาพของพวกเขาเป็น ' ถือว่า ' และยังคงรักษาความสำคัญของพวกเขาที่ทำพิธีแต่งงานและวันเกิด