The main objective of this research

The main objective of this research is to find a test method to obtain a realistic initial setting time value in order
to plan the placing of concrete to prevent formation of cold joints which can affect the performance of the structure.
Mechanical properties (tensile strength and shear strength) at a purposely made cold joint was evaluated by testing
concrete cubes cast in two layers with different time lags between placing of concrete in the two layers. Point of
change of each strength parameter with respect to time lag was identified and corresponding time range was identified
as the initial setting time range. Standard penetration resistance test was also carried out and with the use of
penetration resistance vs. elapsed time graph, corresponding penetration resistance value was also identified.
Although this new method is effective to identify the initial setting time of concrete, it is not possible to use as a field test
since it a time consuming and complicated test. Therefore, an attempt was made to introduce a simple field test method.
Ultrasonic pulse velocity is used to measure properties of hardened concrete, because pulse velocity of a concrete
sample depends on its elastic modulus and density. Since properties of fresh concrete such as elastic modulus changes
with time, the ultrasound pulse velocity was used to monitor the change of stiffness of fresh concrete with time.
Based on the test results of the experimental investigations, it was found that the more realistic initial setting time of
concrete is the onset time of the penetration resistance of mortar measured in the standard penetration test. This was
further verified by a simple qualitative field test where the initial setting time is considered as the latest time that a
vibrating poker can be inserted into the concrete and removed without leaving a significant trace.
1. Introduction
Setting of concrete is identified as the transition of
fresh concrete from liquid phase to solid phase. It is
important to identify this phase change to plan
transporting and placing of concrete.
Current practice of determining initial setting time of
concrete is based on ASTM C 403[1]. According to this
standard, initial setting time is identified based on the
penetration resistance measured on mortar sieved from a
concrete mixture and it is defined as the time taken to
achieve a penetration resistance of 3.5 MPa (See Figure1).
This specified penetration resistance value is an arbitrary
value and initial setting time measured based on this
definition does not seem realistic (i.e. about 4 hrs for
concrete without any set retarders –Figures 17) since in
practice, concrete sets quicker than that time. Therefore
the main objective of this research is to identify a test
method to obtain a realistic value for the initial setting
time of concrete.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วัตถุประสงค์หลักของงานวิจัยนี้คือการ หาวิธีการทดสอบเพื่อขอรับค่าเวลาการตั้งค่าเริ่มต้นเป็นจริงตามลำดับการวางแผนการป้องกันการก่อตัวของรอยต่อเย็นซึ่งสามารถส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของโครงสร้างคอนกรีตคุณสมบัติทางกล (แรงและแรงเฉือน) ที่ร่วมเย็นจงใจทำถูกประเมิน โดยการทดสอบลูกบาศก์คอนกรีตที่หล่อในชั้นสองกับ lags เวลาแตกต่างกันระหว่างการทำคอนกรีตในสองชั้น จุดของระบุการเปลี่ยนแปลงของพารามิเตอร์แต่ละความแรงกับเวลาความล่าช้า และระบุช่วงเวลาที่สอดคล้องกันเป็นช่วงเวลาการตั้งค่าเริ่มต้น ทำการทดสอบความต้านทานมาตรฐานเจาะยังออก และ มีการใช้นอกจากนี้ยังมีระบุความต้านทานการเจาะเทียบกับเวลาที่ผ่านไปกราฟ สอดคล้องกับค่าความต้านทานการเจาะแม้ว่าวิธีการใหม่นี้จะมีผลบังคับใช้เพื่อระบุเวลาการตั้งค่าเริ่มต้นของคอนกรีต ไม่สามารถใช้ตามฟิลด์เพราะมันเป็นเวลานาน และซับซ้อนทดสอบ ดังนั้น มีความพยายามจะแนะนำวิธีทดสอบง่ายฟิลด์ความเร็วชีพจรอัลตราโซนิกใช้วัดคุณสมบัติของคอนกรีตการชุบแข็ง เนื่องจากหมุนความเร็วของคอนกรีตตัวอย่างขึ้นอยู่กับโมดูลัสความยืดหยุ่นและความหนาแน่นของ เนื่องจากคุณสมบัติของคอนกรีตสดเช่นโมดูลัสยืดหยุ่นเปลี่ยนแปลงเวลา ความเร็วชีพจรซาวด์ถูกใช้เพื่อตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงของความแข็งของคอนกรีตสดด้วยเวลาขึ้นอยู่กับผลการทดสอบของการตรวจสอบทดลอง พบว่ายิ่งเวลาตั้งค่าเริ่มต้นของคอนกรีตเป็นเวลาเริ่มมีอาการของความต้านทานการบุกของวัดในการทดสอบมาตรฐานการเจาะปูน นี้ตรวจสอบเพิ่มเติม โดยการทดสอบฟิลด์อย่างเชิงคุณภาพซึ่งพิจารณาเวลาการตั้งค่าเริ่มต้นเป็นเวลาล่าสุดที่มีสั่นสะเทือนโป๊กเกอร์ที่ใส่เข้าไปในคอนกรีต และเอาออกโดยไม่ต้องออกติดตามอย่างมีนัยสำคัญ1. บทนำระบุการตั้งค่าของคอนกรีตเป็นการเปลี่ยนแปลงของคอนกรีตสดจากเฟสของเหลวกับเฟสของแข็ง จึงต้องระบุการเปลี่ยนแปลงขั้นตอนการวางแผนขนส่ง และวางของคอนกรีตปฏิบัติการกำหนดตั้งค่าเริ่มต้นเวลาของปัจจุบันคอนกรีตเป็นไปตาม ASTM C 403 [1] ตามนี้มีระบุมาตรฐาน เริ่มต้นการตั้งค่าเวลาตามวัดความต้านทานการเจาะบนปูน sieved จากการกำหนดเป็นเวลาที่ใช้ในการผสมคอนกรีตและบรรลุความต้านทานการเจาะของบริษัทเอ็มพีเอ 3.5 (ดู Figure1)นี้ระบุค่าความต้านทานการเจาะเป็นการกำหนดค่าและการตั้งค่าเริ่มต้นเวลาที่วัดตามนี้คำจำกัดความไม่ดูเหมือนจริง (เช่นประมาณ 4 ชั่วโมงสำหรับโดย retarders ใด ๆ ตั้งคอนกรีต – ตัวเลข 17) เนื่องจากในแบบฝึกหัด คอนกรีตตั้งเร็วกว่านั้น ดังนั้นวัตถุประสงค์หลักของงานวิจัยนี้คือเพื่อ ระบุการทดสอบวิธีการขอรับค่าจริงสำหรับการตั้งค่าเริ่มต้นเวลาของคอนกรีต

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วัตถุประสงค์หลักของงานวิจัยนี้คือการหาวิธีการทดสอบจะได้รับการตั้งค่าเริ่มต้นเป็นจริงค่าของเวลาในการสั่งซื้อในการวางแผนการวางของคอนกรีตเพื่อป้องกันการก่อตัวของข้อต่อที่หนาวเย็นซึ่งจะมีผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของโครงสร้างที่.
คุณสมบัติทางกล (ความต้านทานแรงดึงและแรงเฉือน ความแข็งแรง)
ที่ร่วมกันทำจงใจเย็นถูกประเมินโดยการทดสอบก้อนคอนกรีตหล่อในสองชั้นที่มีเวลาที่แตกต่างกันล่าช้าระหว่างการวางของคอนกรีตสองชั้น จุดเปลี่ยนพารามิเตอร์ความแข็งแรงของแต่ละส่วนที่เกี่ยวกับความล่าช้าเวลาที่ถูกระบุและช่วงเวลาที่สอดคล้องกันที่ถูกระบุว่าเป็นช่วงเวลาที่ตั้งค่าเริ่มต้น การทดสอบความต้านทานการรุกมาตรฐานก็ยังดำเนินการและมีการใช้ความต้านทานการเจาะกราฟเทียบกับเวลาที่ผ่านไปตรงค่าความต้านทานการรุกยังถูกระบุ. แม้ว่าวิธีการใหม่นี้มีประสิทธิภาพในการระบุเวลาที่ตั้งค่าเริ่มต้นของคอนกรีตมันเป็นไปไม่ได้ที่จะใช้ เป็นสนามทดสอบเพราะมันเป็นเวลานานและการทดสอบที่มีความซับซ้อน ดังนั้นจึงมีความพยายามที่จะแนะนำวิธีการทดสอบภาคสนามที่เรียบง่าย. อัลตราโซนิกความเร็วชีพจรใช้ในการวัดคุณสมบัติของคอนกรีตแข็งเพราะความเร็วชีพจรของคอนกรีตตัวอย่างขึ้นอยู่กับโมดูลัสความยืดหยุ่นและความหนาแน่นของมัน เนื่องจากคุณสมบัติของคอนกรีตสดเช่นการเปลี่ยนแปลงโมดูลัสยืดหยุ่นกับเวลาความเร็วชีพจรอัลตราซาวนด์ที่ใช้ในการตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงของความมั่นคงของคอนกรีตสดกับเวลา. จากผลการทดสอบของการตรวจสอบการทดลองพบว่าการตั้งค่าเริ่มต้นที่สมจริงมากขึ้น เวลาของการที่เป็นรูปธรรมเป็นเวลาที่เริ่มมีอาการของความต้านทานการรุกของปูนที่วัดได้ในการทดสอบมาตรฐานการเจาะ นี้ได้รับการยืนยันต่อไปโดยการทดสอบคุณภาพด้านการง่ายๆที่เวลาการตั้งค่าเริ่มต้นถือเป็นครั้งล่าสุดที่โป๊กเกอร์สั่นสามารถแทรกลงในคอนกรีตและลบออกโดยไม่ทิ้งร่องรอยอย่างมีนัยสำคัญ. 1 การแนะนำการตั้งค่าของคอนกรีตถูกระบุว่าเป็นของการเปลี่ยนแปลงที่เป็นรูปธรรมสดจากเฟสของเหลวของแข็ง มันเป็นสิ่งสำคัญที่จะระบุการเปลี่ยนแปลงขั้นตอนนี้ในการวางแผนการขนส่งและการวางคอนกรีต. ปฏิบัติปัจจุบันของการกำหนดเวลาที่ตั้งค่าเริ่มต้นของคอนกรีตจะขึ้นอยู่กับมาตรฐาน ASTM C 403 [1] ตามนี้มาตรฐานเวลาการตั้งค่าเริ่มต้นจะถูกระบุอยู่บนพื้นฐานของความต้านทานการเจาะวัดปูนร่อนจากส่วนผสมคอนกรีตและมันถูกกำหนดให้เป็นเวลาดำเนินการเพื่อให้บรรลุความต้านทานการรุกของ3.5 เมกะปาสคาล (ดูรูปที่ 1). นี้ค่าความต้านทานการเจาะที่ระบุ พลค่าและเวลาตั้งค่าเริ่มต้นวัดนี้อยู่บนพื้นฐานของความหมายไม่ได้ดูเหมือนจริง(คือประมาณ 4 ชั่วโมงสำหรับคอนกรีตโดยไม่ต้องตั้งค่าใดๆ retarders -Figures 17) เนื่องจากในทางปฏิบัติที่เป็นรูปธรรมชุดเร็วกว่าเวลานั้น ดังนั้นวัตถุประสงค์หลักของงานวิจัยนี้คือการระบุการทดสอบวิธีการที่จะได้รับค่าที่เป็นจริงสำหรับการตั้งค่าเริ่มต้นช่วงเวลาของคอนกรีต

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อหาวิธีการทดสอบเพื่อขอรับมีเหตุผลการตั้งค่าเริ่มต้นค่าเวลาในการสั่งซื้อ
วางแผนวางของคอนกรีตเพื่อป้องกันการก่อตัวของข้อต่อเย็นซึ่งจะมีผลต่อประสิทธิภาพของโครงสร้าง
เชิงกล ( ทนแรงดึงและแรงเฉือนที่จงใจทำให้เย็นร่วมกันประเมินโดยการทดสอบ
โยนก้อนคอนกรีตสองชั้นที่มีเวลาล่าช้าระหว่างการวางคอนกรีตใน 2 ชั้น จุดของการเปลี่ยนแปลงของแต่ละพารามิเตอร์
แรงด้วยความล่าช้าเวลาถูกระบุและช่วงเวลาที่ถูกระบุ
เป็นช่วงการตั้งค่าเวลาเริ่มต้น การทดสอบความต้านทานการเจาะมาตรฐาน ดำเนินการ และมีการใช้
เจาะต้านทานกับกราฟที่เวลาค่าความต้านทานการเจาะที่ยังระบุ .
ถึงแม้ว่าวิธีการใหม่นี้มีประสิทธิภาพเพื่อระบุการตั้งค่าเริ่มต้นของคอนกรีต มันเป็นไปไม่ได้ที่จะใช้เป็นสนามทดสอบ
เพราะมันเสียเวลาและการทดสอบที่ซับซ้อน จึงมีความพยายามที่จะแนะนำวิธีทดสอบง่ายฟิลด์ .
ความเร็วคลื่นอัลตราโซนิกใช้วัดคุณสมบัติของคอนกรีตที่แข็งตัว ,เพราะชีพจรความเร็วของคอนกรีต
ตัวอย่างขึ้นอยู่กับค่าโมดูลัสยืดหยุ่นและความหนาแน่น เนื่องจากคุณสมบัติของคอนกรีตสด เช่น ค่าโมดูลัสยืดหยุ่นเปลี่ยนแปลง
ด้วยเวลา , อัลตราซาวนด์ชีพจรความเร็วที่ใช้ในการตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงของความแข็งแรงของคอนกรีตสด ด้วยเวลา
ขึ้นอยู่กับผลการทดสอบที่ได้จากการทดลองพบว่ามีเหตุผลมากกว่าการตั้งค่าเริ่มต้นของ
คอนกรีต คือ เริ่มเวลาเจาะปูนวัดความต้านทานในโปรแกรมทดสอบมาตรฐาน นี้คือ
เพิ่มเติมตรวจสอบโดยการทดสอบเชิงคุณภาพที่ง่าย ๆที่การตั้งค่าเวลาเริ่มต้นจะถือว่าเป็นครั้งล่าสุดที่
สั่นโป๊กเกอร์สามารถแทรกลงในคอนกรีตและลบออกโดยไม่ทิ้งร่องรอยอย่างมีนัยสำคัญ .
1 บทนำ
การตั้งค่าของคอนกรีตที่ถูกระบุว่าการเปลี่ยนแปลงของ
สดคอนกรีตจากเฟสของเหลวของแข็งเฟส มันเป็นสิ่งสำคัญที่จะระบุขั้นตอนนี้

เปลี่ยนแผน การขนส่ง และการวางคอนกรีต .
ปัจจุบันกำหนดเริ่มต้นการตั้งค่าเวลาของ
คอนกรีตตาม ASTM C 403 [ 1 ] ตามมาตรฐานนี้
, การตั้งค่าเวลาเริ่มต้นการระบุตาม
วัดความต้านทานการเจาะปูนอีกครั้ง จากส่วนผสม
คอนกรีตและมันหมายถึงเวลาที่ถ่าย
บรรลุทะลุต้านทาน 3.5 MPa ( ดู figure1 ) .
นี้ระบุค่าความต้านทานการเจาะเป็นค่าพล
และเวลาการตั้งค่าเริ่มต้นวัดจากคำนิยามนี้
ดูเหมือนมีเหตุผล ( คือประมาณ 4 ชั่วโมงสำหรับ
คอนกรีตโดยไม่ตั้ง retarders –ตัวเลข 17 ) ตั้งแต่ใน
ฝึก , คอนกรีตชุดได้เร็วกว่าเวลาที่ ดังนั้น
วัตถุประสงค์หลักของงานวิจัยนี้ เพื่อศึกษาวิธีการทดสอบ
ได้รับค่ามีเหตุผลสำหรับการตั้งค่าเริ่มต้น

เวลาของคอนกรีต