The term "Dark Ages" originally was

The term "Dark Ages" originally was intended to denote the entire period between the fall of Rome and the Renaissance; the term "Middle Ages" has a similar motivation, implying an intermediate period between Classical Antiquity and the Modern era. In the 19th century scholars began to recognize the accomplishments made during the period, thereby challenging the image of the Middle Ages as a time of darkness and decay.[5] Nowadays the term is not used by scholars to refer to the entire medieval period;[9] when used, it is generally restricted to the Early Middle Ages.[1]

The rise of archaeology and other specialties in the 20th century has shed much light on the period and offered a more nuanced understanding of its positive developments.[13] Other terms of periodization have come to the fore: Late Antiquity, the Early Middle Ages, and the Great Migrations, depending on which aspects of culture are being emphasized. When modern scholarly study of the Middle Ages arose in the 19th century, the term "Dark Ages" was at first kept, with all its critical overtones. On the rare occasions when the term "Dark Ages" is used by historians today, it is intended to be neutral, namely, to express the idea that the events of the period often seem "dark" because of the scarcity of artistic and cultural output,[14] including historical records, when compared with both earlier and later times.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

คำว่า "ยุคมืด" แต่เดิมมีวัตถุประสงค์เพื่อชีพตลอดระยะเวลาระหว่างการล่มสลายของกรุงโรมและ Renaissance คำว่า "ยุคกลาง" มีแรงจูงใจที่คล้ายกัน หน้าที่กลางระยะโบราณคลาสสิกและยุคปัจจุบัน ในศตวรรษที่ 19 นักวิชาการเริ่มรู้จักความสำเร็จระหว่างงวด จึงท้าทายภาพของยุคกลางเป็นเวลาของความมืดและการเสื่อมสลาย [5] ปัจจุบันคำไม่ใช้ โดยนักวิชาการในการอ้างถึงยุคทั้งหมด [9] เมื่อใช้ ถูกจำกัดโดยปกติไปช่วงต้นยุคกลาง [1]การเพิ่มขึ้นของโบราณคดีและอาหารอื่น ๆ ในศตวรรษที่ 20 มีหลั่งน้ำตาแสงในรอบระยะเวลา และนำเสนอความเข้าใจคลี่มากขึ้นของการพัฒนาในเชิงบวก [13] ข้อกำหนดอื่น ๆ ของ periodization มาข้างหน้า: ปลายสมัยโบราณ ยุคกลางตอน และสี จางมาก ขึ้นอยู่กับที่มีการเน้นด้านวัฒนธรรม เมื่อศึกษาวิชาการที่ทันสมัยของยุคกลางที่เกิดขึ้นในศตวรรษที่ 19 ระยะ "ยุคมืด" เป็นครั้งแรกที่เก็บ กับความหวือหวาที่สำคัญทั้งหมด ในโอกาสพิเศษเมื่อคำว่า "ยุคมืด" ถูกใช้ โดยนักประวัติศาสตร์วันนี้ มันมีไว้เป็นกลาง คือ การแสดงความคิดว่า เหตุการณ์ในระยะเวลามักจะดูเหมือน "มืด" เนื่องจากขาดแคลนของศิลปะ และวัฒนธรรม, [14] รวมถึงบันทึกทางประวัติศาสตร์ เมื่อเปรียบเทียบกับเวลาทั้งก่อนหน้า และภายหลัง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

คำว่า "ยุคมืด" แต่เดิมตั้งใจที่จะแสดงว่าตลอดระยะเวลาระหว่างการล่มสลายของกรุงโรมและยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา; คำว่า "ยุคกลาง" มีแรงจูงใจที่คล้ายกันหมายความระยะเวลากลางระหว่างคลาสสิกโบราณและยุคปัจจุบัน ในศตวรรษที่ 19 นักวิชาการเริ่มที่จะตระหนักถึงความสำเร็จที่เกิดขึ้นในช่วงระยะเวลาจึงมีความท้าทายภาพของยุคกลางเป็นเวลาแห่งความมืดและผุ. [5] ปัจจุบันเป็นคำที่ไม่ได้ใช้โดยนักวิชาการที่จะอ้างถึงสมัยยุคกลางทั้งหมด; [9] เมื่อนำมาใช้ก็จะถูก จำกัด โดยทั่วไปต้นยุคกลาง [1].

เพิ่มขึ้นของโบราณคดีและอาหารอื่น ๆ ในศตวรรษที่ 20 ได้หลั่งน้ำตาแสงมาก กับระยะเวลาและเสนอความเข้าใจที่เหมาะสมยิ่งขึ้นของการพัฒนาในเชิงบวก. [13] เงื่อนไขอื่น ๆ ของ periodization ได้มาก่อน: ปลายโบราณต้นยุคกลางและใหญ่ Migrations ซึ่งขึ้นอยู่กับลักษณะของวัฒนธรรมที่มีการเน้นย้ำ เมื่อการศึกษาทางวิชาการที่ทันสมัยของยุคกลางที่เกิดขึ้นในศตวรรษที่ 19 คำว่า "ยุคมืด" เป็นครั้งแรกที่เก็บไว้กับทุกหวือหวาที่สำคัญ ในโอกาสที่หายากเมื่อคำว่า "ยุคมืด" ถูกใช้โดยนักประวัติศาสตร์ในวันนี้ได้มีไว้เพื่อความเป็นกลางคือการแสดงความคิดที่ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นของรอบระยะเวลามักจะดูเหมือน "มืด" เพราะความขาดแคลนของการส่งออกของศิลปะและวัฒนธรรม [14] รวมทั้งการบันทึกทางประวัติศาสตร์เมื่อเทียบกับทั้งก่อนหน้านี้และครั้งต่อมา