Loy Krathong Day is one of the most

Loy Krathong Day is one of the most popular festivals of Thailand celebrated annually on the Full-Moon Day of the Twelfth Lunar Month. It takes place at a time when the weather is fine as the rainy season is over and there is a high water level all over the country.
'Loy' means 'to float' and a 'Krathong' is a lotus-shaped vessel made of banana leaves. The Krathong usually contains a candle, three joss-sticks, some flowers and coins.

In fact, the festival is of Brahmin origin in which people offer thanks to the Goddess of the water. Thus, by moonlight, people light the candles and joss-sticks, make a wish and launch their Krathongs on canals, rivers or even small ponds. It is believed that the Krathongs carry away sins and bad luck, and the wishes that have been made for the new year due to start. Indeed, it is the time to be joyful and happy as the sufferings are floated away.
The festival starts in the evening when there is a full moon in the sky. People of all walks of life carry their Krathongs to the nearby rivers. After lighting candles and joss-sticks and making a wish, they gently place the Krathongs on the water and let them drift away till they go out of sight.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วันลอยกระทงเป็นหนึ่งในเทศกาลที่นิยมมากที่สุดของประเทศไทยฉลองเป็นประจำทุกปีในวันที่พระจันทร์เต็มดวงของเดือนจันทรคติที่สิบสอง มันจะเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่สภาพอากาศจะปรับเป็นฤดูฝนมีมากกว่าและมีระดับน้ำสูงทั่วประเทศ
loy 'หมายถึง' ลอย 'และ' กระทง 'เป็นเรือรูปดอกบัวที่ทำจากใบตอง กระทงมักจะมีเทียนสามธูปดอกและเหรียญ

ในความเป็นจริงงานคือต้นทางพราหมณ์ที่คนให้ขอบคุณเทพเจ้าแห่งน้ำ ดังนั้นโดยแสงจันทร์คนจุดเทียนและธูปให้ความปรารถนาและการเปิดตัวของพวกเขาในกระทงคลองแม่น้ำหรือบ่อขนาดเล็กได้ มีความเชื่อกันว่ากระทงนำไปบาปและความโชคร้ายและความปรารถนาที่ได้รับการทำสำหรับปีใหม่กำลังจะมาถึง แน่นอนมันเป็นเวลาที่จะมีความสุขและมีความสุขกับความทุกข์จะลอยออกไป
เทศกาลจะเริ่มในช่วงเย็นเมื่อมีพระจันทร์เต็มดวงในท้องฟ้า ผู้คนในทุกเดินชีวิตของพวกเขาจะนำกระทงของแม่น้ำในบริเวณใกล้เคียง หลังจากจุดเทียนและธูปและทำให้ความปรารถนาพวกเขาค่อย ๆ วางกระทงในน้ำและปล่อยให้พวกเขาลอยไปจนกว่าพวกเขาจะออกไปจากสายตา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วันลอยกระทงเป็นเทศกาลนิยมมากที่สุดประเทศไทยเฉลิมฉลองทุกปีในวันพระจันทร์เต็มดวงของเดือนจันทรคติ Twelfth หนึ่ง ใช้สถานที่ในเวลาที่อากาศกำลังดีเป็นฤดูฝน และมีระดับน้ำสูงทั่วประเทศ
'ลอย' หมายถึง 'การลอย' และ 'ลอยกระทง' เป็นเรือรูปทรงดอกบัวที่ทำจากใบกล้วย การลอยกระทงจะประกอบด้วยเทียน สามโจสแท่ง ดอกไม้และเหรียญบางอย่าง

ในความเป็นจริง เทศกาลเป็นของพราหมณ์ซึ่งคนนำเสนอขอบคุณเทพเจ้าแห่งท้องน้ำ ดัง แสงจันทร์ คนแสงเทียนและโจสแท่ง ให้ และเปิด Krathongs ของคลอง แม่น้ำ หรือบ่อเล็ก ๆ แม้ เชื่อกันว่า Krathongs ที่เฉี่ยวบาปและโชคไม่ดี และความปรารถนาดีที่ได้ทำในปีใหม่เริ่มต้นครบ แน่นอน ถึงเวลาต้องจอยฟูล และมีความสุขกับทุกข์ที่จะลอยไป
เทศกาลเริ่มในช่วงเย็นเมื่อจันทร์เต็มดวงบนท้องฟ้า คนจากทุกเดินชีวิตดำเนิน Krathongs ของพวกเขาไปแม่น้ำใกล้เคียง หลังจากแสงเทียน และโจสแท่ง และทำความปรารถนา พวกเขาค่อย ๆ วาง Krathongs ในน้ำ และให้ลอยหายไปจนลับตาไป

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

วันลอยกระทง
วันลอยกระทงเป็นหนึ่งในงานเทศกาลได้รับความนิยมอย่างสูงสุดของประเทศไทยมีชื่อเสียงในปี full-moon วันที่สิบสองเดือนยี่ ใช้เวลาเดินทางที่เวลาที่ สภาพ อากาศที่มีความสวยงามเป็นช่วงฤดูฝนที่มีมากกว่าและมีระดับน้ำที่สูงที่ทุกแห่งทั่วประเทศได้
'วันลอยกระทง'หมายถึง'การลอยตัว'และ'ลอยกระทง'ที่มีเรือดอกบัวที่ทำจากใบตอง กระทงที่ปกติแล้วจะมีแสงเทียนสามก็จุดธูป - ไม้แบบหยอดเหรียญและดอกไม้

ในความเป็นจริงงานเทศกาลที่มีแหล่งกำเนิดพราหมณีในที่ซึ่งประชาชนจัดให้บริการด้วยเทพธิดาของน้ำ ดังนั้นด้วยแสงจันทร์คนเบาๆและแสงเทียนก็จุดธูป - กิ่งไม้ที่ทำให้ความหวังที่และการเปิดตัวของกระทงที่คลองแม่น้ำหรือสระน้ำขนาดเล็ก เป็นที่เชื่อได้ว่ากระทงที่พกพาบาปอยู่ห่างออกไปในระยะทางไม่ดีและขอให้โชคดีและความปรารถนาที่ได้มีการทำขึ้นสำหรับปีใหม่เนื่องจากในการเริ่มต้น. จริงๆแล้วมันเป็นเวลาที่จะได้รับและมีความสุขที่ได้รับทุกขเวทนาลอยไป
- ญี่ปุ่นจะเริ่มในช่วงเย็นที่เมื่อมีพระจันทร์เต็มที่ในท้องฟ้า การเดินเที่ยวคนทั้งหมดของชีวิตพกพากระทงของพวกเขาเพื่อแม่น้ำอยู่ในบริเวณใกล้เคียง หลังจากไฟส่องสว่างและแสงเทียนและหม่อมหลวงปุ่มมาลากุล - sticks และทำให้อยากก็ค่อยๆวางกระทงที่บนผืนน้ำและปล่อยให้เขาอยู่ห่างออกไปในระยะทางลอยไปจนกว่าจะออกจากสายพระเนตร