Renewable EnergyThere are many form

Renewable Energy
There are many forms of renewable energy . Most of these renewable energies depend in one way or another on sunlight. Wind and hydroelectric power are the direct result of differential heating of the Earth's surface which leads to air moving about (wind) and precipitation forming as the air is lifted. Solar energy is the direct conversion of sunlight using panels or collectors. Biomass energy is stored sunlight contained in plants. Other renewable energies that do not depend on sunlight are geothermal energy, which is a result of radioactive decay in the crust combined with the original heat of accreting the Earth, and tidal energy, which is a conversion of gravitational energySolar. This form of energy relies on the nuclear fusion power from the core of the Sun. This energy can be collected and converted in a few different ways. The range is from solar water heating with solar collectors or attic cooling with solar attic fans for domestic use to the complex technologies of direct conversion of sunlight to electrical energy using mirrors and boilers or photovoltaic cells. Unfortunately these are currently insufficient to fully power our modern society.

Wind Power. The movement of the atmosphere is driven by differences of temperature at the Earth's surface due to varying temperatures of the Earth's surface when lit by sunlight. Wind energy can be used to pump water or generate electricity, but requires extensive areal coverage to produce significant amounts of energy.

Hydroelectric energy. This form uses the gravitational potential of elevated water that was lifted from the oceans by sunlight. It is not strictly speaking renewable since all reservoirs eventually fill up and require very expensive excavation to become useful again. At this time, most of the available locations for hydroelectric dams are already used in the developed world.

Biomass is the term for energy from plants. Energy in this form is very commonly used throughout the world. Unfortunately the most popular is the burning of trees for cooking and warmth. This process releases copious amounts of carbon dioxide gases into the atmosphere and is a major contributor to unhealthy air in many areas. Some of the more modern forms of biomass energy are methane generation and production of alcohol for automobile fuel and fueling electric power plants.

Hydrogen and fuel cells. These are also not strictly renewable energy resources but are very abundant in availability and are very low in pollution when utilized. Hydrogen can be burned as a fuel, typically in a vehicle, with only water as the combustion product. This clean burning fuel can mean a significant reduction of pollution in cities. Or the hydrogen can be used in fuel cells, which are similar to batteries, to power an electric motor. In either case significant production of hydrogen requires abundant power. Due to the need for energy to produce the initial hydrogen gas, the result is the relocation of pollution from the cities to the power plants. There are several promising methods to produce hydrogen, such as solar power, that may alter this picture drastically.

Geothermal power. Energy left over from the original accretion of the planet and augmented by heat from radioactive decay seeps out slowly everywhere, everyday. In certain areas the geothermal gradient (increase in temperature with depth) is high enough to exploit to generate electricity. This possibility is limited to a few locations on Earth and many technical problems exist that limit its utility. Another form of geothermal energy is Earth energy, a result of the heat storage in the Earth's surface. Soil everywhere tends to stay at a relatively constant temperature, the yearly average, and can be used with heat pumps to heat a building in winter and cool a building in summer. This form of energy can lessen the need for other power to maintain comfortable temperatures in buildings, but cannot be used to produce electricity.

Other forms of energy. Energy from tides, the oceans and hot hydrogen fusion are other forms that can be used to generate electricity. Each of these is discussed in some detail with the final result being that each suffers from one or another significant drawback and cannot be relied upon at this time to solve the upcoming energy crunch.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

พลังงานทดแทนมีหลายรูปแบบของพลังงานทดแทน ของพลังงานหมุนเวียนเหล่านี้ในทางใดทางหนึ่งขึ้นอยู่กับแสงแดด ลมและพลังน้ำมีผลโดยตรงของความร้อนที่แตกต่างของพื้นผิวของโลกซึ่งนำไปสู่อากาศจารี (ลม) และฝนขึ้นเป็นอากาศมีต่อ พลังงานแสงอาทิตย์เป็นการแปลงที่โดยตรงของแสงอาทิตย์โดยใช้แผงหรือสะสม ชีวมวลพลังงานแสงอาทิตย์เก็บไว้ในพืชได้ พลังงานทดแทนอื่น ๆ ที่ไม่ได้ขึ้นอยู่กับแสงแดดเป็นพลังงานความร้อนใต้พิภพ ซึ่งเป็นผลของการผุในตัวของสารกัมมันตรังสีในเปลือกโลกรวมกับความร้อนเดิมของ accreting โลก และพลังงานบ่า ซึ่งเป็นการแปลงพลังงานความโน้มถ่วง แบบฟอร์มนี้พลังงานอาศัยพลังงานนิวเคลียร์ฟิวชันจากแกนของดวงอาทิตย์ พลังงานนี้สามารถรวบรวม และแปลงเป็นกี่วิธี ช่วงที่เป็นจากน้ำร้อน ด้วยพลังงานแสงอาทิตย์สะสมหรือถังห้องใต้หลังคาระบายความร้อน ด้วยพัดลมถังห้องใต้หลังคาพลังงานแสงอาทิตย์สำหรับใช้เทคโนโลยีซับซ้อนของแปลงโดยตรงของแสงอาทิตย์เป็นพลังงานไฟฟ้าโดยใช้กระจก และหม้อไอน้ำ หรือเซลล์แสงอาทิตย์ในประเทศ แต่เหล่านี้อยู่ในปัจจุบันไม่เพียงพอเต็มพลังสังคมทันสมัยพลังงานลม การเคลื่อนไหวของบรรยากาศถูกควบคุม โดยความแตกต่างของอุณหภูมิที่พื้นผิวของโลกเนื่องจากอุณหภูมิที่แตกต่างกันของพื้นผิวโลกเมื่อแสงจากแสงอาทิตย์ พลังงานลมสามารถใช้ในการสูบน้ำ หรือผลิตไฟฟ้า แต่ต้องครอบคลุม areal อย่างละเอียดในการผลิตพลังงานอย่างมีนัยสำคัญจำนวนพลังงาน hydroelectric แบบฟอร์มนี้ใช้ศักยภาพความโน้มถ่วงของน้ำที่ถูกยกสูงขึ้นจากมหาสมุทรการ โดยแสงแดด ไม่พัฒนทดแทนเนื่องจากอ่างเก็บน้ำทั้งหมดก็เต็ม และต้องขุดแพงเป็นประโยชน์อีก ตอนนี้ ส่วนใหญ่ตำแหน่งว่างสำหรับเขื่อน hydroelectric ใช้อยู่แล้วในโลกพัฒนาชีวมวลคือพลังงานจากพืช พลังงานในแบบฟอร์มนี้จะใช้บ่อยมากทั่วโลก แต่นิยมมากที่สุดได้เผาต้นไม้ทำอาหารและความอบอุ่น กระบวนการนี้รุ่น copious จำนวนก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศ และเป็นผู้บริจาคสำคัญอากาศไม่แข็งแรงในหลายพื้นที่ ของชีวมวลพลังงานรูปแบบสมัยใหม่ได้สร้างมีเทนและผลิตแอลกอฮอล์เชื้อเพลิงรถยนต์และไฟฟ้าไฟฟ้า fuelingไฮโดรเจนและเซลล์เชื้อเพลิง เหล่านี้ยังไม่ทรัพยากรพลังงานหมุนเวียนอย่างเคร่งครัด แต่มีชุกชุมมากในความพร้อม และต่ำมากในมลภาวะเมื่อใช้ สามารถเขียนเป็นแบบเชื้อเพลิง โดยทั่วไปในรถ ไฮโดรเจนกับน้ำเป็นผลิตภัณฑ์เผาไหม้ เชื้อเพลิงเผาไหม้นี้สะอาดอาจหมายถึง การลดลงอย่างมีนัยสำคัญของมลภาวะในเมือง หรือไฮโดรเจนที่ใช้ในเซลล์เชื้อเพลิง ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับแบตเตอรี่ พลังมอเตอร์ไฟฟ้า ในกรณีใด สำคัญผลิตไฮโดรเจนต้องใช้พลังงานมากมาย เนื่องจากต้องการพลังงานในการผลิตก๊าซไฮโดรเจนเริ่มต้น ผลคือ ย้ายมลพิษจากในเมืองไปโรงไฟฟ้า มีหลายวิธีที่กำหนดการผลิตไฮโดรเจน เช่นพลังงานแสงอาทิตย์ ที่อาจเปลี่ยนแปลงรูปภาพนี้อย่างรวดเร็วพลังงานความร้อนใต้พิภพ พลังงานที่เหลือจาก accretion เดิมของดาวเคราะห์ และขยาย โดยความร้อนจากการสลายตัวของสารกัมมันตรังสีให้อนุภาค seeps ออกช้าทุก ทุกวัน การไล่ระดับความร้อนใต้พิภพ (ขึ้นกับความลึก) จะไม่สูงพอที่จะใช้ในการผลิตไฟฟ้าในบางพื้นที่ โอกาสนี้จำกัดอยู่ที่ไม่กี่สถานที่บนโลก และปัญหาทางเทคนิคมากมายที่มีอยู่จำกัดของโปรแกรมอรรถประโยชน์ ตัวของพลังงานความร้อนใต้พิภพเป็นพลังงานโลก ผลของการเก็บความร้อนในผิวโลก ดินทุกไปที่อุณหภูมิค่อนข้างคง ค่าเฉลี่ยรายปี และสามารถใช้กับปั๊มความร้อนความร้อนอาคารในช่วงฤดูหนาว และเย็นอาคารในช่วงฤดูร้อน นี้รูปแบบของพลังงานสามารถลดจำเป็นต้องใช้พลังงานอื่น ๆ เพื่อรักษาอุณหภูมิห้องในอาคาร แต่ไม่สามารถใช้ในการผลิตไฟฟ้ารูปแบบอื่น ๆ ของพลังงาน พลังงานจากกระแสน้ำ มหาสมุทร และฟิวชั่นไฮโดรเจนร้อนแบบฟอร์มอื่น ๆ ที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้าได้ แต่ละเหล่านี้จะกล่าวถึงในรายละเอียดบางอย่างกับผลสุดท้ายก็คือ suffers จากอื่น ตั้งแต่หนึ่งคืนเงินอย่างมีนัยสำคัญ และไม่สามารถอาศัยเมื่อครั้งนี้เพื่อแก้ปัญหาวิกฤติด้านพลังงานเกิดขึ้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

พลังงานทดแทน
มีหลายรูปแบบของพลังงานทดแทนเป็น ส่วนใหญ่ของพลังงานทดแทนเหล่านี้ขึ้นในหรืออีกวิธีหนึ่งในแสงแดด ลมและไฟฟ้าพลังน้ำเป็นผลโดยตรงจากความร้อนที่แตกต่างของพื้นผิวโลกซึ่งนำไปสู่การเคลื่อนไหวเกี่ยวกับอากาศ (ลม) และการเร่งรัดการขึ้นรูปเป็นอากาศถูกยกขึ้น พลังงานแสงอาทิตย์เป็นแปลงโดยตรงจากแสงแดดใช้แผงหรือสะสม พลังงานชีวมวลจะถูกเก็บไว้แสงแดดที่มีอยู่ในพืช พลังงานทดแทนอื่น ๆ ที่ไม่ได้ขึ้นอยู่กับแสงแดดเป็นพลังงานความร้อนใต้พิภพซึ่งเป็นผลมาจากการสลายตัวของสารกัมมันตรังสีในเปลือกโลกรวมกับความร้อนที่เพิ่มทวีเดิมของโลกและพลังงานน้ำขึ้นน้ำลงซึ่งเป็นแปลง energySolar แรงโน้มถ่วง รูปแบบของพลังงานนี้ขึ้นอยู่กับพลังงานนิวเคลียร์ฟิวชันจากแกนกลางของดวงอาทิตย์ พลังงานนี้สามารถเก็บรวบรวมและแปลงในรูปแบบที่แตกต่างกันไม่กี่ ช่วงมาจากน้ำร้อนแสงอาทิตย์ที่มีการสะสมพลังงานแสงอาทิตย์หรือห้องใต้หลังคาระบายความร้อนด้วยพัดลมห้องใต้หลังคาพลังงานแสงอาทิตย์สำหรับใช้ในประเทศเพื่อเทคโนโลยีที่ซับซ้อนของการแปลงโดยตรงจากแสงแดดเป็นพลังงานไฟฟ้าโดยใช้กระจกและหม้อไอน้ำหรือเซลล์แสงอาทิตย์ แต่น่าเสียดายที่เหล่านี้มีอยู่ในปัจจุบันไม่เพียงพอที่จะใช้พลังงานอย่างเต็มที่สังคมสมัยใหม่ของเรา. พลังงานลม การเคลื่อนไหวของบรรยากาศที่เป็นแรงผลักดันจากความแตกต่างของอุณหภูมิที่พื้นผิวโลกที่แตกต่างกันเนื่องจากอุณหภูมิของพื้นผิวโลกเมื่อแสงไฟจากแสงแดด พลังงานลมสามารถใช้ในการสูบน้ำหรือผลิตกระแสไฟฟ้า แต่ต้องคุ้มครองขนหัวลุกอย่างกว้างขวางในการผลิตจำนวนมากของพลังงาน. พลังงานพลังน้ำ รูปแบบนี้จะใช้แรงโน้มถ่วงที่มีศักยภาพสูงของน้ำที่ถูกยกขึ้นมาจากมหาสมุทรจากแสงแดด มันไม่ได้เป็นอย่างเคร่งครัดพูดทดแทนตั้งแต่อ่างเก็บน้ำทั้งหมดในที่สุดก็เติมและต้องขุดแพงมากที่จะกลายเป็นที่มีประโยชน์อีกครั้ง ในเวลานี้ส่วนใหญ่ของสถานที่ที่มีอยู่สำหรับการสร้างเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำที่ใช้แล้วในประเทศที่พัฒนาแล้ว. ชีวมวลเป็นคำที่ใช้พลังงานจากพืช พลังงานในรูปแบบนี้เป็นที่นิยมใช้มากทั่วโลก แต่น่าเสียดายที่นิยมมากที่สุดคือการเผาไหม้ของต้นไม้สำหรับการปรุงอาหารและความอบอุ่น กระบวนการนี้ออกปริมาณมากของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศและเป็นผู้สนับสนุนหลักให้กับอากาศที่ไม่แข็งแรงในหลายพื้นที่ บางส่วนของรูปแบบที่ทันสมัยมากขึ้นของพลังงานชีวมวลเป็นก๊าซมีเทนและการผลิตของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นเชื้อเพลิงรถยนต์และเติมน้ำมันโรงไฟฟ้า. ไฮโดรเจนและเซลล์เชื้อเพลิง เหล่านี้ยังไม่ได้ทดแทนแหล่งพลังงานอย่างเคร่งครัด แต่มีความอุดมสมบูรณ์มากในการบริการและอยู่ในระดับต่ำมากในการมลพิษเมื่อใช้ ไฮโดรเจนสามารถเผาเป็นเชื้อเพลิงในยานพาหนะมักจะมีน้ำเป็นผลิตภัณฑ์การเผาไหม้ นี้เชื้อเพลิงเผาไหม้ที่สะอาดอาจจะหมายถึงการลดลงอย่างมีนัยสำคัญของมลพิษในเมือง หรือไฮโดรเจนสามารถนำมาใช้ในเซลล์เชื้อเพลิงซึ่งมีความคล้ายคลึงกับแบตเตอรี่ที่จะใช้พลังงานมอเตอร์ไฟฟ้า ในทั้งสองกรณีการผลิตที่สำคัญของไฮโดรเจนต้องใช้พลังงานที่อุดมสมบูรณ์ เนื่องจากความจำเป็นในการใช้พลังงานในการผลิตก๊าซไฮโดรเจนเริ่มต้นผลที่ได้คือการย้ายถิ่นฐานของมลพิษจากเมืองไปยังโรงไฟฟ้า มีวิธีการหลายสัญญาในการผลิตไฮโดรเจนเช่นพลังงานแสงอาทิตย์ที่อาจปรับเปลี่ยนภาพนี้อย่างมาก. มีอำนาจความร้อนใต้พิภพ พลังงานที่เหลือจากการเพิ่มเดิมของโลกและเติมโดยความร้อนจากการสลายกัมมันตรังสีซึมออกอย่างช้าๆทุกที่ในชีวิตประจำวัน ในบางพื้นที่ลาดความร้อนใต้พิภพ (เพิ่มขึ้นของอุณหภูมิที่มีความลึก) สูงพอที่จะใช้ประโยชน์ในการผลิตไฟฟ้า เป็นไปได้นี้จะถูก จำกัด ไปยังสถานที่ไม่กี่บนโลกและปัญหาทางเทคนิคมากมายที่มีอยู่ที่ขีด จำกัด ของยูทิลิตี้ รูปแบบของพลังงานความร้อนใต้พิภพก็คือพลังงานโลกเป็นผลมาจากการจัดเก็บความร้อนในพื้นผิวโลก ดินทุกที่มีแนวโน้มที่จะอยู่ที่อุณหภูมิค่อนข้างคงที่เฉลี่ยรายปีและสามารถนำมาใช้กับปั๊มความร้อนให้ความร้อนอาคารในฤดูหนาวและเย็นในอาคารในช่วงฤดูร้อน รูปแบบของพลังงานนี้สามารถช่วยลดความจำเป็นในการใช้พลังงานอื่น ๆ เพื่อรักษาอุณหภูมิที่สะดวกสบายในอาคาร แต่ไม่สามารถนำมาใช้ในการผลิตไฟฟ้า. รูปแบบอื่น ๆ ของพลังงาน พลังงานจากกระแสน้ำมหาสมุทรและฟิวชั่นไฮโดรเจนร้อนมีรูปแบบอื่น ๆ ที่สามารถนำมาใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้า แต่ละเหล่านี้จะกล่าวถึงในรายละเอียดบางอย่างที่มีผลสุดท้ายการที่แต่ละคนได้รับความทุกข์จากหนึ่งหรืออีกข้อเสียเปรียบอย่างมีนัยสำคัญและไม่สามารถพึ่งพาได้ในขณะนี้เพื่อแก้ปัญหาวิกฤติพลังงานที่จะเกิดขึ้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

พลังงานทดแทน
มีหลายรูปแบบของพลังงานทดแทน ส่วนใหญ่ของพลังงานเหล่านี้ขึ้นอยู่ในหรืออีกวิธีหนึ่ง ในแสงแดด ลมและไฟฟ้าพลังน้ำเป็นผลโดยตรงของค่าความร้อนของพื้นผิวของโลกซึ่งทำให้อากาศเคลื่อนไหว ( ลม ) และการตกตะกอนของการขึ้นรูปเป็นอากาศยก พลังงานแสงอาทิตย์คือการแปลงโดยตรงของแสงอาทิตย์โดยใช้แผง หรือนักสะสมพลังงานชีวมวลจะถูกเก็บไว้แสงแดดที่มีอยู่ในพืช อื่น ๆพลังงานที่ไม่ได้ขึ้นอยู่กับแสงแดดเป็นพลังงานใต้พิภพ ซึ่งเป็นผลของกัมมันตภาพรังสีสลายตัวในเปลือก บวกกับความร้อนเดิมของ accreting โลกและพลังงานคลื่นซึ่งเป็นแปลงของความโน้มถ่วง energysolar . รูปแบบของพลังงานที่ต้องอาศัยการหลอมนิวเคลียสพลังจากแกนกลางของดวงอาทิตย์พลังงานนี้สามารถรวบรวมและแปลงในวิธีที่แตกต่างกันไม่กี่ ช่วงจากการทำน้ำร้อนพลังงานแสงอาทิตย์สะสมพลังงานแสงอาทิตย์หรือห้องใต้หลังคาด้วยเย็นด้วยพัดลมห้องใต้หลังคาพลังงานแสงอาทิตย์สำหรับใช้ในประเทศที่เทคโนโลยีที่ซับซ้อนของการแปลงโดยตรงของแสงแดดเป็นพลังงานไฟฟ้า การใช้กระจกและหม้อน้ำหรือเซลล์แสงอาทิตย์ . แต่น่าเสียดายที่ในปัจจุบันไม่เพียงพอกับพลังงานเหล่านี้อย่างเต็มที่

สังคมสมัยใหม่ของเราพลังงานลม การเคลื่อนไหวของบรรยากาศจะถูกขับเคลื่อนโดยความแตกต่างของอุณหภูมิที่ผิวโลก เนื่องจากอุณหภูมิของผิวโลกที่สว่างด้วยแสงแดด พลังงานลมสามารถใช้เครื่องสูบน้ำหรือไฟฟ้า แต่ต้องเพิ่มความครอบคลุมกว้างขวางที่จะผลิตปริมาณของพลังงาน พลังงานพลังน้ำ

.แบบฟอร์มนี้ใช้แรงโน้มถ่วงศักยภาพยกระดับน้ำที่ถูกยกขึ้นจากทะเล โดยแสงแดด มันไม่พูดอย่างเคร่งครัดทดแทนตั้งแต่อ่างเก็บน้ำในที่สุดเติมและต้องขุดแพงมากเป็นประโยชน์อีกครั้ง ในเวลานี้ ส่วนใหญ่ของสถานที่ที่สามารถใช้ได้สำหรับพลังน้ำเขื่อนแล้วใช้ในประเทศที่พัฒนาแล้ว .

ชีวมวลเป็นคำสำหรับพลังงานจากพืช พลังงานในรูปแบบนี้มีใช้กันทั่วโลก แต่น่าเสียดายที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือการเผาต้นไม้เพื่ออาหารและความอบอุ่น กระบวนการนี้ออกปริมาณมากของแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศและเป็นผู้สนับสนุนหลักในการ unhealthy อากาศในหลายพื้นที่บางส่วนของรูปแบบที่ทันสมัยมากขึ้นของพลังงานชีวมวลเป็นก๊าซมีเทนผลิตและการผลิตแอลกอฮอล์เชื้อเพลิงรถยนต์และเชื้อเพลิง ไฟฟ้า

ไฮโดรเจนและเซลล์เชื้อเพลิง . เหล่านี้ยังไม่เคร่งครัด แต่พลังงานทรัพยากรอุดมสมบูรณ์มากในความพร้อมและต่ำมากในมลภาวะ เมื่อใช้ ไฮโดรเจนจะถูกเผาเป็นเชื้อเพลิง โดยทั่วไปในรถมีเพียงน้ำเป็นผลิตภัณฑ์การเผาไหม้ นี้การเผาไหม้เชื้อเพลิงสะอาดสามารถหมายถึงการมลพิษในเมือง หรือไฮโดรเจนสามารถใช้ในเซลล์เชื้อเพลิง ซึ่งคล้ายกับ แบตเตอรี่พลังงานมอเตอร์ไฟฟ้า . ในทั้งสองกรณี ) การผลิตไฮโดรเจนต้องใช้พลังงานมากมาย เนื่องจากความต้องการพลังงานเพื่อผลิตก๊าซไฮโดรเจนเริ่มต้นผลที่ได้คือการย้ายมลพิษจากเมืองไปยังโรงไฟฟ้า มีหลายวิธีที่มีแนวโน้มที่จะผลิตไฮโดรเจน เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ ที่อาจปรับเปลี่ยนภาพนี้อย่างมาก

ใต้พิภพพลังงาน พลังงานที่เหลือจากการก่อตัวของดาวเคราะห์และปริซึมต้นฉบับโดยความร้อนจากการสลายกัมมันตรังสีไหลออกช้า ทุกที่ ทุกวันในพื้นที่ลาดใต้พิภพหนึ่ง ( เพิ่มอุณหภูมิกับความลึก ) สูงพอที่จะใช้ประโยชน์ในการผลิตกระแสไฟฟ้า โอกาสนี้ จำกัดอยู่เพียงไม่กี่แห่งบนโลก และปัญหาทางด้านเทคนิคมากมายที่มีอยู่จำกัดของสาธารณูปโภค อีกหนึ่งรูปแบบของพลังงานความร้อนใต้พิภพ คือ พลังงานโลก , ผลของการเก็บความร้อนของผิวโลกดินทุกแห่งจึงอยู่ที่อุณหภูมิค่อนข้างคงที่โดยเฉลี่ยต่อปี และสามารถใช้ร่วมกับปั๊มความร้อนความร้อนอาคารในฤดูหนาวและเย็นอาคารในฤดูร้อน รูปแบบของพลังงานที่สามารถช่วยลดความต้องการพลังงานอื่น ๆเพื่อรักษาอุณหภูมิในอาคารสะดวกสบาย แต่ไม่สามารถใช้เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า

รูปแบบอื่น ๆของพลังงาน พลังงานจากกระแสมหาสมุทรและฟิวชั่นไฮโดรเจนร้อนมีรูปแบบอื่น ๆที่สามารถใช้ในการสร้างกระแสไฟฟ้า แต่ละเหล่านี้จะกล่าวถึงในรายละเอียดบางส่วนด้วย สุดท้ายผลที่แต่ละคนได้รับความทุกข์จากหนึ่งหรือข้อเสียเปรียบที่สำคัญอื่น และไม่สามารถอาศัยในเวลานี้เพื่อแก้วิกฤติพลังงานที่จะเกิดขึ้น