Here's how it works:1. Each target

Here's how it works:
1. Each target segment has a price-sensitivity curve with four key price points.
i. Too expensive: the price at which the segment considers the backpack so expensive that
they would not consider buying it.
ii. Too cheap: the price at which the segment considers the price so low that the quality can't
be very good, and also will not buy it.
iii. Expensive/high side: the price at which the segment feels a backpack is starting to get
expensive; not out of the question, but requires thought.
iv. Cheap/good value: the price at which the segment considers a backpack a great buy.
2. Each segment will score a backpack's price based on a curve developed from these points, and
that Price Score will be used in the buy calculation (see appendix.)
3. The four points can be adjusted to create luxury or low-cost (highly price-sensitive) buyers. For
a luxury buyer, the “too cheap” price point is relatively high because the buyer wants to pay a
higher price, and will also be looking for luxury attributes and features.
We chose this model because rather than just saying lower is better, we thought that the idea of having
levels where a price could be subjectively seen along a gradient as too cheap or too expensive was
interesting. We borrowed this idea from the Van Westendorp Price Sensitivity Meter approach that
companies could use to determine a price that meets their strategy.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

นี่คือวิธีการทำงาน:1. แต่ละกลุ่มเป้าหมายมีเส้นโค้งราคาไว ด้วยราคาสำคัญโฟร์i. มาก: ที่เซ็กเมนต์พิจารณาเป้คุ้มราคาที่พวกเขาจะพิจารณาการซื้อครั้งที่สองเกินประหยัด: ราคาที่เซ็กเมนต์พิจารณาราคาต่ำสุดดังนั้นคุณภาพไม่จะดีมาก และยัง จะไม่ซื้อiii. Expensive/สูง ด้าน: ราคาที่เซ็กเมนต์รู้สึกกระเป๋าสะพายหลังเริ่มที่จะได้รับแพง แต่ต้องคิดไม่ออกถามiv ถูกทำเล: ราคาที่เซ็กเมนต์พิจารณาเป้การซื้อมากขึ้น2. แต่ละกลุ่มจะทำราคาของกระเป๋าสะพายหลังตามเส้นโค้งพัฒนาจากจุดเหล่านี้ และที่จะใช้ในการคำนวณซื้อราคาคะแนน (ดูภาคผนวก)3.โฟร์สามารถปรับสร้างหรูหราหรือผู้ซื้อต้นทุนต่ำ (สูงราคาลับ) สำหรับผู้ซื้อหรู ราคา "ถูกเกินไป" จุดอยู่ค่อนข้างสูง เพราะผู้ซื้อต้องชำระเป็นสูงราคา และจะยังมองหาคุณลักษณะหรูและคุณลักษณะเราเลือกรุ่นนี้เพราะ แทนที่เพียงว่าต่ำกว่า เรามีความแตกต่างของการมีความคิดระดับที่ราคาสามารถ subjectively เห็นได้ตามไล่เป็นประหยัดเกินไป หรือมีราคาแพงเกินไปน่าสนใจ เรายืมความคิดนี้จากแวน Westendorp ราคาไวเมตรเข้าที่บริษัทสามารถใช้เพื่อกำหนดราคาที่เป็นไปตามกลยุทธ์ของพวกเขา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

นี่คือวิธีการทำงาน:
1 กลุ่มเป้าหมายแต่ละคนมีเส้นโค้งราคาไวกับจุดราคาที่สำคัญสี่.
ฉัน ราคาแพงเกินไป: ราคาที่ส่วนพิจารณากระเป๋าเป้สะพายหลังจึงมีราคาแพงว่า
. พวกเขาจะไม่พิจารณาซื้อมัน
ii เกินไปถูก: ราคาที่ส่วนพิจารณาราคาให้ต่ำที่มีคุณภาพไม่สามารถ
. จะดีมากและยังจะไม่ซื้อมัน
iii ราคาแพง / ด้านสูง: ราคาที่ส่วนรู้สึกกระเป๋าเป้สะพายหลังเริ่มที่จะได้รับ
ราคาแพง ไม่ได้ออกจากคำถาม แต่ต้องใช้ความคิด.
iv ราคาถูก / คุ้มค่าสมราคาที่ส่วนพิจารณากระเป๋าเป้สะพายหลังซื้อที่ดี.
2 แต่ละส่วนจะได้คะแนนราคากระเป๋าเป้สะพายหลังของขึ้นอยู่กับเส้นโค้งการพัฒนาจากจุดเหล่านี้และ
ราคาคะแนนที่จะใช้ในการคำนวณซื้อ (ดูภาคผนวก.)
3 สี่จุดสามารถปรับได้เพื่อสร้างความหรูหราหรือต้นทุนต่ำ (สูงราคาที่สำคัญ) ผู้ซื้อ สำหรับ
ผู้ซื้อหรูหรา "ถูกเกินไป" จุดราคาค่อนข้างสูงเนื่องจากผู้ซื้อต้องการที่จะจ่าย
ราคาที่สูงขึ้นและยังจะมองหาคุณลักษณะที่หรูหราและคุณสมบัติ.
เราเลือกแบบนี้เพราะแทนที่จะบอกว่าเพียงแค่ลดลงจะดีกว่าเรา คิดว่าแนวคิดของการมี
ระดับที่ราคาอาจจะเห็นจิตใจพร้อมลาดเป็นถูกเกินไปหรือแพงเกินไปเป็น
ที่น่าสนใจ เรายืมความคิดนี้มาจากรถตู้ Westendorp ราคาความไว Meter วิธีการที่
บริษัท สามารถใช้ในการกำหนดราคาที่ตรงกับกลยุทธ์ของพวกเขา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

นี่คือวิธีการทำงาน :
1 แต่ละกลุ่มมีเป้าหมายราคาไวโค้งกับสี่จุดราคากุญแจ
. แพงเกินไป : ราคาที่กลุ่มจะพิจารณาเป้แพงมากว่าพวกเขาจะไม่พิจารณาซื้อมัน
.
2 ราคาถูกด้วย : ราคาที่กลุ่มจะพิจารณาราคาต่ำมาก คุณภาพไม่
จะดีมาก และก็จะไม่ซื้อ แพง /
3 ด้านสูง :ราคาที่กลุ่มรู้สึกเป้เริ่มที่จะได้รับ
แพง ไม่ออกจากคำถาม แต่ต้องคิดว่า .
4 ราคาถูก / ดีค่า : ราคาที่กลุ่มเห็นว่าเป้ซื้อที่ดี .
2 แต่ละกลุ่มจะได้คะแนนราคาของกระเป๋าเป้สะพายหลังตามโค้งพัฒนาจากจุดเหล่านี้และ
คะแนนราคาจะใช้ในการซื้อ ( ดูภาคผนวก )
34 จุด สามารถปรับระดับได้เพื่อสร้างความหรูหราหรือราคา ( ราคาที่ความไวสูง ) ผู้ซื้อ สำหรับ
ผู้ซื้อที่หรูหรา , " ราคาถูก " ชี้ราคาค่อนข้างสูงเพราะผู้ซื้อต้องจ่าย
ราคาสูงกว่า และจะยังสามารถมองหาคุณสมบัติที่หรูหราและคุณสมบัติ .
เราเลือกรุ่นนี้เพราะแทนที่จะพูดต่ำๆ จะดีขึ้น เราคิดว่าความคิดของการมี
ระดับที่สามารถเห็นได้ตามราคา อย่างการไล่ระดับสีเป็นราคาถูกเกินไปหรือแพงเกินไปคือ
น่าสนใจ เรายืมความคิดจากแวนเวสเตนดอร์ปราคาไวเมตรวิธีการ
บริษัทสามารถใช้เพื่อตรวจสอบราคาที่สอดคล้องกับกลยุทธ์ของพวกเขา