In the wake of "tearing down" the B

In the wake of "tearing down" the Berlin Wall, the
process of neo-liberal economic globalization entered into a new phase
provoking discussions on the meaning of globalization that contains
stark value judgments. The incipient liberalization created considerable
interest among the Indian urban middle classes and confident
industrialists. However, a contrasting trend soon became evident in the
emergence of movements protesting against economic globalization and
giving new momentum to the defense of local uniqueness and perceived
threat to national identity. The Indian intellectual movement
introducing "glocalization" (though not necessarily) provides an example
in "hybridity" to testify that economic globalization has always been
influenced by an amicable cultural norm that has, throughout ages, been
an important mechanism in universalizing particularism as well as the
particularization of universalism. Today, economic globalization takes a
standardized consumer culture in contrast to both the Hindu scriptural
ill-defined economic value systems and neo-Marxist stoic view, which
opposes international trade, commerce, and multinational finance.
Whereas for the neo-Marxists in India, anti-globalization is a war on
wealth, for the nationalists and religious Hindu revivalists,
globalization is an attack on swadeshi economic self-reliance, believed
to be a spiritual corrective. My study raises and verifies three
interconnected issues: First, what have been the cultural urges in
ancient and medieval eras in promoting globalization? How do they differ
from the current trends? Second, what has been the extent and direction
of culture in accelerating global trade links? Last, what are the
results of globalization, especially in making poverty worse than before
in poverty-stricken modern India?

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในการปลุกของการ "ฉีกขาดลง" กำแพงเบอร์ลิน การกระบวนการโลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจเสรีนิยมใหม่เข้าสู่ระยะใหม่ฟอเร็กซ์สนทนาเกี่ยวกับความหมายของโลกาภิวัตน์ที่ประกอบด้วยคำพิพากษาค่าสิ้นเชิง เปิดเสรี incipient สร้างมากสนใจใน หมู่ชนชั้นกลางเมืองอินเดีย และมั่นใจนัก อย่างไรก็ตาม แนวโน้มบริการจนกลายเป็นในการเกิดขึ้นของการเคลื่อนไหวประท้วงต่อต้านโลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจ และทำให้โมเมนตัมใหม่เพื่อป้องกันของเอกลักษณ์ท้องถิ่น และการรับรู้ภัยคุกคามต่อเอกลักษณ์ของประเทศ การเคลื่อนไหวทางปัญญาที่อินเดียแนะนำ "glocalization" (แต่ไม่จำเป็น) ตัวอย่างใน "hybridity" เบิกความ ว่าโลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจได้เสมอรับอิทธิพลจากวัฒนธรรมปกติเป็นมิตรที่ ตลอดวัยกลไกที่สำคัญใน universalizing particularism ตลอดจนparticularization ของลัทธิ วันนี้ โลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจจะมีวัฒนธรรมผู้บริโภคมาตรฐานตรงข้ามทั้งฮินดูว่าระบบเศรษฐกิจค่า ill-defined และ neo Marxist ใจดู ที่opposes พาณิชย์ และการเงินข้ามชาติขณะที่นีโอ-Marxists ในอินเดีย anti-globalization เป็นสงครามในมั่งคั่ง nationalists และศาสนาฮินดู revivalistsโลกาภิวัตน์เป็นการโจมตี swadeshi เศรษฐกิจพึ่งพาตนเอง ความเชื่อการแก้ไขทางจิตวิญญาณได้ ศึกษาเพิ่ม และตรวจสอบสามเข้าใจปัญหา: ครั้งแรก สิ่งที่ได้รับการวัฒนธรรมขอก่อนส่งกลับในโบราณ และยุคกลางช่วงในการส่งเสริมโดยรวม วิธีทำก็แตกต่างกันจากแนวโน้มปัจจุบันหรือไม่ สอง อะไรมีขอบเขตและทิศทางวัฒนธรรมในการเร่งเชื่อมโยงการค้าโลกหรือไม่ สุดท้าย มีการผลของโลกาภิวัตน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการทำให้ความยากจนแย่กว่าก่อนในอินเดียสมัยนี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในการปลุกของ "ฉีกลง" กำแพงเบอร์ลิน,
กระบวนการของโลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจเสรีนิยมใหม่ป้อนเข้าสู่เฟสใหม่
กระตุ้นการอภิปรายเกี่ยวกับความหมายของโลกาภิวัตน์ที่มี
การตัดสินค่าสิ้นเชิง การเปิดเสรีเริ่มแรกที่สร้างขึ้นเป็นจำนวนมาก
ที่สนใจในหมู่ชนชั้นกลางในเมืองอินเดียและมีความมั่นใจ
อุตสาหกรรม อย่างไรก็ตามแนวโน้มตัดกันเร็ว ๆ นี้ก็เห็นได้ชัดใน
การเกิดขึ้นของการเคลื่อนไหวต่อต้านโลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจและ
ให้โมเมนตัมใหม่ในการป้องกันของเอกลักษณ์ในท้องถิ่นและการรับรู้
ภัยคุกคามต่อเอกลักษณ์ประจำชาติ การเคลื่อนไหวทางปัญญาอินเดีย
แนะนำ "glocalization" (แต่ไม่จำเป็นต้อง) ให้ตัวอย่างเช่น
ใน "hybridity" เพื่อเป็นพยานว่าโลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจได้เสมอ
อิทธิพลจากบรรทัดฐานทางวัฒนธรรมที่เป็นมิตรที่มีตลอดทุกเพศทุกวัยได้
เป็นกลไกสำคัญในการเป็นสากล particularism เช่นเดียวกับ
particularization ของสากล วันนี้จะใช้เวลาโลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจ
วัฒนธรรมของผู้บริโภคที่ได้มาตรฐานในทางตรงกันข้ามกับทั้งฮินดูคัมภีร์
ป่วยกำหนดค่าระบบเศรษฐกิจและนีโอมาร์กซ์วิวอดทนซึ่ง
ตรงข้ามกับการค้าระหว่างประเทศการค้าและการเงินข้ามชาติ.
ในขณะที่สำหรับนีโอ Marxists ในอินเดียต่อต้าน โลกาภิวัตน์เป็นสงครามกับ
ความมั่งคั่งสำหรับเจ็บแค้นและฟื้นฟูศาสนาฮินดูศาสนา
โลกาภิวัตน์คือการโจมตีในทางเศรษฐกิจ swadeshi พึ่งตนเองเชื่อว่า
จะเป็นจิตวิญญาณที่ถูกต้อง การศึกษาของฉันยกสามและตรวจสอบ
ปัญหาการเชื่อมต่อครั้งแรกสิ่งที่ได้รับการเรียกร้องทางวัฒนธรรมใน
ยุคโบราณและยุคกลางในการส่งเสริมโลกาภิวัตน์? พวกเขามีความแตกต่างอย่างไร
จากแนวโน้มในปัจจุบัน? ประการที่สองสิ่งที่ได้รับในขอบเขตและทิศทาง
ของวัฒนธรรมในการเร่งเชื่อมโยงการค้าทั่วโลกหรือไม่ ที่ผ่านมาสิ่งที่เป็น
ผลของโลกาภิวัตน์โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการแก้ไขปัญหาความยากจนเลวร้ายยิ่งกว่าก่อนที่จะ
อยู่ในความยากจนข้นแค้นอินเดียสมัยใหม่?

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในการปลุกของ " รื้อถอน " กำแพง เบอร์ลิน ,
กระบวนการของนีโอเสรีนิยมโลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจเข้าสู่เฟสใหม่
ยั่ว การอภิปรายเกี่ยวกับความหมายของโลกาภิวัตน์ที่ประกอบด้วย
ตัดสินคุณค่า สตาร์ค การสร้างความสนใจมาก
เริ่มแรกของอินเดียในเมืองชั้นกลางและนักอุตสาหกรรมมั่นใจ

อย่างไรก็ตาม แนวโน้มที่ตัดกันเร็วเป็นประจักษ์ใน
วิวัฒนาการของการเคลื่อนไหวประท้วงต่อต้านโลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจและ
ให้โมเมนตัมใหม่เพื่อป้องกันเอกลักษณ์ท้องถิ่นและการรับรู้
คุกคามเอกลักษณ์แห่งชาติ อินเดียทางปัญญาเคลื่อนไหว
แนะนำ " glocalization " ( แต่ไม่เสมอไป ) มีตัวอย่าง
" Hybridity " เบิกความว่า โลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจได้เสมอ
อิทธิพลโดยรักใคร่กันทางวัฒนธรรมบรรทัดฐานที่มีตลอดอายุ ถูก
เป็นกลไกที่สำคัญใน universalizing ทำให้เฉพาะเจาะจงเช่นเดียวกับ
particularization ของ universalism . วันนี้ โลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจใช้เวลา
วัฒนธรรมบริโภคมาตรฐานในทางตรงกันข้ามกับทั้ง ฮินดู คัมภีร์
ป่วยกำหนดมูลค่าทางเศรษฐกิจและระบบนีโอมาร์กซิสต์ stoic มุมมองซึ่ง
ต่อต้านการค้าระหว่างประเทศ การค้า และการเงินข้ามชาติ
ขณะที่นีโอสาธารณรัฐอินเดียในอินเดียต่อต้านโลกาภิวัตน์เป็นสงครามบน
ความมั่งคั่งสำหรับพวกชาตินิยมฮินดู และ revivalists ศาสนา
โลกาภิวัตน์คือการโจมตีในการพึ่งตนเองทางเศรษฐกิจ swadeshi เชื่อ
เป็นฝ่ายแก้ไข ฉันศึกษาเพิ่มและตรวจสอบ 3
เชื่อมโยงปัญหาแรกที่ได้รับแรงกระตุ้นทางวัฒนธรรมใน
โบราณและยุคกลางยุคในการส่งเสริมโลกาภิวัตน์ ?