Findings of this study further sugg

Findings of this study further suggested that the association between autistic-like social deficits and behavioral problems in school was especially stronger in boys than in girls, regardless of age. If the function of engaging in disruptive behaviors, as Reese and colleagues (2005) suggested, is to gain or maintain access to items with which individuals with ASDs engage in repetitive behaviors, it seems reasonable to argue that individuals who show more stereotyped interests and behaviors may be more likely to display co-occurring disruptive behaviors. Indeed, past studies suggested that boys with ASDs tend to have higher rates of restricted or repetitive behaviors than girls with ASDs across developmental periods from early childhood (Lord, Schopler, & Revicki, 1982) to late childhood, adolescence, and early adulthood (McLennan et al., 1993). Our finding that younger boys (Grades 1–4) showed more restricted behaviors/interests than their female counterparts also partially supports this notion. Therefore, we have reasons to believe that boys with autistic traits may be more likely than girls with autistic traits to engage in disruptive behaviors as a way to gain or maintain their repetitive or restricted behaviors/interests. Another possible explanation for this finding may be due to gender differences in aggressive behaviors. Specifically, it is welldocumented that boys typically enact more direct aggression than girls (Card et al., 2008). As such, it is plausible that relative to girls with autistic-like social impairment, boys with such impairment may be more likely to express their frustration facing social challenges by acting out or engaging in aggressive behaviors. However, because little is known regarding gender differences in aggression or disruptive behaviors among children and adolescents with autistic traits in the general population, future empirical research is needed to test this notion and validate our finding.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ผลการวิจัยนี้ศึกษาเพิ่มเติมแนะนำว่า ความสัมพันธ์ระหว่าง autistic เหมือน deficits สังคมและปัญหาพฤติกรรมในโรงเรียนแข็งแกร่งโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กผู้ชายมากกว่าในผู้หญิง โดยไม่คำนึงถึงอายุ ถ้าฟังก์ชันของเสน่ห์ในพฤติกรรมขวัญ เป็นรูปและเพื่อนร่วมงาน (2005) แนะนำจะได้รับ หรือรักษาการเข้าถึงรายการที่บุคคลที่ มี ASDs ต่อสู้ในพฤติกรรมซ้ำ ดูเหมือนว่าเหมาะสมที่จะโต้เถียงว่า ผู้แสดงมาก stereotyped สนใจและพฤติกรรมอาจมีแนวโน้มจะแสดงพฤติกรรมความร่วมมือเกิดขึ้นขวัญ จริง ศึกษาผ่านมาแนะนำว่า เด็กผู้ชายกับ ASDs มักจะ มีพฤติกรรมซ้ำ ๆ หรือจำกัดอัตราสูงมากกว่าเด็กหญิงโดย ASDs ข้ามรอบระยะเวลาที่พัฒนาจากปฐมวัย (&พระ Schopler, Revicki 1982) ถึงปลายวัยเด็ก วัยรุ่น และต้นวุฒิ (McLennan et al., 1993) finding เราว่า เด็กผู้ชายอายุน้อยกว่า (เกรด 1-4) พบเพิ่มเติมจำกัดพฤติกรรม/สนใจกว่าคู่ของพวกเขาหญิงบางส่วนยังสนับสนุนความคิดนี้ ดังนั้น เรามีเหตุผลที่จะเชื่อว่า เด็กผู้ชาย มีลักษณะ autistic อาจยิ่งกว่าหญิงมี autistic ลักษณะการต่อสู้เป็นวิธีการได้รับ หรือรักษาความซ้ำ หรือจำกัดพฤติกรรม/สนใจในพฤติกรรมขวัญ คำอธิบายที่เป็นไปได้อื่น finding นี้อาจจะเนื่องจากความแตกต่างของเพศในพฤติกรรมความก้าวร้าว Specifically welldocumented ที่ว่า เด็กผู้ชายรุกรานโดยตรงยิ่งกว่าผู้หญิง (บัตร et al., 2008) โดยทั่วไปจะแสดงออกได้ เช่น มันจะเป็นไปได้ที่สัมพันธ์กับผู้หญิงด้วยผลสังคมเหมือน autistic ชายกับผลดังกล่าวอาจมีแนวโน้มในการแสดงเสียงของพวกเขาเผชิญกับความท้าทายสังคม โดยแสดงออกในพฤติกรรมความก้าวร้าว อย่างไรก็ตาม เนื่องจากน้อยทราบเกี่ยวกับความแตกต่างเพศในการรุกรานหรือพฤติกรรมขวัญในหมู่เด็กและวัยรุ่นมีลักษณะ autistic ในประชากรทั่วไป ผลวิจัยในอนาคตเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อทดสอบความคิดนี้ และตรวจสอบของเรา finding

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ผลการศึกษานี้ชี้ให้เห็นว่าต่อไปความสัมพันธ์ระหว่าง Cits ไฟหมกหมุ่นเหมือนเดอสังคมและปัญหาพฤติกรรมในโรงเรียนโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่แข็งแกร่งในเด็กผู้ชายมากกว่าในผู้หญิงไม่คำนึงถึงอายุ หากการทำงานของการมีส่วนร่วมในพฤติกรรมการทำลายเป็นรีสและเพื่อนร่วมงาน (2005) ชี้ให้เห็นคือการได้รับหรือรักษาเข้าถึงรายการที่บุคคลที่มี ASDs ส่วนร่วมในพฤติกรรมซ้ำ ๆ ก็ดูเหมือนว่าเหมาะสมที่จะเถียงว่าผู้ที่แสดงความสนใจตายตัวมากขึ้นและพฤติกรรม อาจจะมีแนวโน้มที่จะแสดงพฤติกรรมก่อกวนร่วมที่เกิดขึ้น อันที่จริงการศึกษาที่ผ่านมาชี้ให้เห็นว่าเด็กผู้ชายที่มี ASDs มักจะมีราคาที่สูงขึ้นของการ จำกัด หรือพฤติกรรมซ้ำ ๆ กว่าสาวที่มี ASDs ตลอดช่วงเวลาการพัฒนาจากวัยเด็ก (ลอร์ด, Schopler และ Revicki, 1982) ไปในวัยเด็กในช่วงปลายวัยรุ่นและวัยผู้ใหญ่ตอนต้น (McLennan et al., 1993) Nding ไฟของเราที่น้องชาย (เกรด 1-4) แสดงให้เห็นว่าพฤติกรรมที่ถูก จำกัด มากขึ้น / สนใจกว่าคู่หญิงของพวกเขายังสนับสนุนความคิดนี้บางส่วน ดังนั้นเราจึงมีเหตุผลที่จะเชื่อว่าเด็กผู้ชายที่มีลักษณะหมกหมุ่นอาจจะเป็นไปได้มากกว่าสาวที่มีลักษณะหมกหมุ่นจะมีส่วนร่วมในพฤติกรรมที่ทำลายเป็นวิธีที่จะได้รับหรือรักษาพฤติกรรมซ้ำ ๆ หรือ จำกัด / ผลประโยชน์ของพวกเขา อีกคำอธิบายที่เป็นไปได้สำหรับ Nding ไฟนี้อาจจะเป็นเพราะความแตกต่างทางเพศในพฤติกรรมก้าวร้าว เองโดยไฟ speci จะ welldocumented ว่าชายมักจะตราก้าวร้าวโดยตรงมากกว่าหญิง (บัตร et al., 2008) เช่นนี้มันเป็นไปได้ว่ามีความสัมพันธ์กับสาวที่มีความเพ้อฝันเหมือนการด้อยค่าทางสังคมของเด็กที่มีความบกพร่องดังกล่าวอาจจะมีแนวโน้มที่จะแสดงความไม่พอใจของพวกเขาต้องเผชิญกับความท้าทายทางสังคมโดยทำหน้าที่หรือมีส่วนร่วมในพฤติกรรมที่ก้าวร้าว แต่เนื่องจากไม่ค่อยมีใครรู้จักเกี่ยวกับความแตกต่างทางเพศในการรุกรานหรือพฤติกรรมก่อกวนในหมู่เด็กและวัยรุ่นที่มีลักษณะหมกหมุ่นในประชากรทั่วไป, การวิจัยเชิงประจักษ์ในอนาคตเป็นสิ่งจำเป็นที่จะทดสอบความคิดนี้และตรวจสอบ Nding ไฟของเรา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

จากการศึกษาเพิ่มเติมพบว่า ความสัมพันธ์ระหว่างเด็กชอบสังคม de จึง CITS และปัญหาพฤติกรรมในโรงเรียนโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่แข็งแกร่งในเด็กผู้ชายมากกว่าผู้หญิง โดยไม่คำนึงถึงอายุ ถ้าฟังก์ชันของการมีส่วนร่วมในพฤติกรรมก่อกวน เหมือนรีสและเพื่อนร่วมงาน ( 2005 ) แนะนำ คือการ เพิ่ม หรือ รักษาการเข้าถึงรายการที่บุคคลที่มี asds มีส่วนร่วมในพฤติกรรมซ้ำซากมันดูเหมือนว่าเหมาะสมที่จะโต้แย้งว่า บุคคลที่แสดงความสนใจที่ตายตัว และพฤติกรรมที่อาจจะมีแนวโน้มที่จะแสดง CO ที่เกิดขึ้นพฤติกรรมก้าวร้าว แน่นอน ที่ผ่านมาการศึกษาชี้ให้เห็นว่าผู้ชายที่มี asds มักจะมีอัตราที่สูงขึ้นของต้องห้ามหรือพฤติกรรมซ้ำมากกว่าผู้หญิงกับ asds พัฒนาการช่วงข้ามจากวัยเด็ก ( พระเจ้า schopler & revicki , ,1982 ) ในวัยเด็กตอนปลาย วัยรุ่น และวัยผู้ใหญ่ตอนต้น ( เมิ่กเคลเนิ่น et al . , 1993 ) เราจึงหาที่น้องชาย ( เกรด 1 – 4 ) มีพฤติกรรม ความสนใจจำกัดกว่า counterparts ของหญิงบางส่วนยังสนับสนุนความคิดนี้ ดังนั้นเรามีเหตุผลที่จะเชื่อว่าเด็กที่มีลักษณะออทิสติกอาจจะมากกว่าผู้หญิงที่มีลักษณะออทิสติกมีส่วนร่วมในพฤติกรรมก่อกวนเป็นวิธีที่จะได้รับหรือรักษาซ้ำ หรือถูกจำกัดพฤติกรรม / ความสนใจ อีกคำอธิบายที่เป็นไปได้สำหรับนี้จึงหาอาจจะเกิดจากความแตกต่างระหว่างเพศในพฤติกรรมก้าวร้าว ประเภทคอลลี่จึง ,มันเป็น welldocumented ที่ผู้ชายมักจะทำระยำตำบอนมากกว่าเด็กผู้หญิง ( บัตร et al . , 2008 ) เช่น นี่เชื่อได้ว่าญาติผู้หญิงกับเด็ก เช่น เด็กที่มีความบกพร่องทางสังคม อาจมีแนวโน้มที่จะแสดงความคับข้องใจของพวกเขาเผชิญกับความท้าทายทางสังคมโดยการกระทำหรือมีส่วนร่วมในพฤติกรรมที่ก้าวร้าว อย่างไรก็ตามเพราะเป็นที่รู้จักกันเพียงเล็กน้อยเกี่ยวกับความแตกต่างระหว่างเพศในพฤติกรรมการรุกรานหรือก่อกวนในหมู่เด็กและวัยรุ่นออทิสติกคุณลักษณะในประชากรทั่วไป , การวิจัยเชิงประจักษ์ในอนาคตควรทดสอบความคิดนี้และตรวจสอบของเราจึงหา .