The original armory building was co

The original armory building was completed in 1876 as an armory for Kaiser Wilhelm I.[4] The Arsenal main building in the center of Dresden's Albert City served as an armory for roughly twenty years, until it was transformed into a museum in 1897. Since then, the main building of the arsenal has housed the Royal Arsenal Collection, the Royal Saxon Army Museum, and in 1923 became the Saxon Army Museum. After 1938, the museum became the Army Museum of the Wehrmacht, and in 1972 the Army Museum of the GDR.[5] Seven months before the reunification of Germany, the museum was renamed the Military History Museum in Dresden.[6]

On February 13 and 14, 1945, British bomber planes commenced an air attack against Dresden, creating a vast firestorm below.[7] During the first phase, 244 Lancaster bombers dropped high explosive and incendiary bombs aimed at the center of the city.[8] American B-17 bombers followed the next morning, to destroy the city's railroad marshaling yards.[7] While much of the city was in ruins, the Bundeswehr's main military museum and most of the other military buildings in the Albertstadt survived the bombing of Dresden because of its location on the city's outskirts.[4] The building withstood World War II attacks on Germany and continued to be used as a military museum until it was closed in 1989. It re-opened again in 2011 and provided a new way of presenting military history. The exhibition concept and design was developed by HG Merz.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

อาคาร armory เดิมเสร็จสมบูรณ์ใน 1876 เป็น armory เป็นสำหรับอาร์เซนอนิคมวิลเฮล์ม I. [4] armory เป็นอาคารหลักของ Dresden อัลเบิร์ตแห่งเสิร์ฟประมาณยี่สิบปี จนกว่าจะถูกเปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์ใน 1897 ตั้งแต่นั้น อาคารหลักของอาร์เซนอลมีห้องพักที่รอยัลอาร์เซนอลชุด พิพิธภัณฑ์กองทัพราชแซก และพี่กลายเป็น พิพิธภัณฑ์ กองทัพ แซก หลังจากค.ศ. 1938 พิพิธภัณฑ์กลายเป็น พิพิธภัณฑ์ กองทัพ Wehrmacht และในพิพิธภัณฑ์ทหารของ GDR[5] เจ็ดเดือนก่อนพักเยอรมนี พิพิธภัณฑ์ถูกเปลี่ยนชื่อพิพิธภัณฑ์ทหารใน Dresden[6]กุมภาพันธ์ 13 และ 14, 1945 เครื่องบินเครื่องบินทิ้งระเบิดที่อังกฤษเริ่มโจมตีอากาศ Dresden สร้างเจอร์มากมายที่ด้านล่าง[7] ในช่วงระยะแรก ระเบิดพลีชีพแลน 244 หลุดสูงระเบิดและระเบิดไม่สงบศูนย์กลางของเมือง[8] ระเบิดพลีชีพ B-17 อเมริกันตามตอนเช้าถัดไป การทำลายรถไฟแห่ง marshaling หลา[7] ในขณะที่มากของเมืองได้พัง พิพิธภัณฑ์ทหารหลักของ Bundeswehr และอาคารส่วนใหญ่อื่น ๆ ทหารใน Albertstadt รอดชีวิตระเบิดเดรสเดนเนื่องจากตั้งอยู่บนชานของเมือง[4] อาคารการโจมตีในสงครามโลกครั้งที่สองในประเทศเยอรมนีอย่างนั้น และอย่างต่อเนื่องเพื่อใช้เป็นพิพิธภัณฑ์ทหารจนกว่าจะถูกปิดในปี 1989 เปิดใหม่อีกครั้งในปี 2554 และให้แนวทางใหม่ของการนำเสนอประวัติศาสตร์การทหาร แนวคิดนิทรรศการและการออกแบบเป็นพัฒนา โดย HG Merz

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

อาคารคลังแสงต้นฉบับเสร็จสมบูรณ์ในปี 1876 ในฐานะที่เป็นอาวุธสำหรับ Kaiser Wilhelm I. [4] อาคารหลักอาร์เซนอลในใจกลางของอัลเบิร์ของเมืองเดรสเดนทำหน้าที่เป็นคลังแสงประมาณยี่สิบปีจนกว่ามันจะถูกเปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์ในปี 1897 ตั้งแต่ แล้วอาคารหลักของอาร์เซนอลยังเป็นที่ตั้งของรอยัลอาร์เซนอลเก็บ, พิพิธภัณฑ์กองทัพแซกซอนรอยัลและในปี 1923 กลายเป็นพิพิธภัณฑ์กองทัพแซกซอน หลังจากที่ปี 1938 กลายเป็นพิพิธภัณฑ์พิพิธภัณฑ์กองทัพ Wehrmacht และในปี 1972 พิพิธภัณฑ์กองทัพของ GDR. [5] เจ็ดเดือนก่อนที่จะรวมเยอรมนี, พิพิธภัณฑ์ถูกเปลี่ยนชื่อเป็นพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์การทหารในเดรสเดิน. [6] กุมภาพันธ์ 13 และ 14, 1945 เครื่องบินทิ้งระเบิดของอังกฤษเริ่มการโจมตีทางอากาศกับเดรสเดน, การสร้างเปลวไฟขนาดใหญ่ด้านล่าง. [7] ในช่วงแรก, 244 เครื่องบินทิ้งระเบิดแลงคาสเตอร์ทิ้งระเบิดระเบิดและก่อความไม่สงบสูงมุ่งเป้าไปที่ใจกลางเมือง. [8] อเมริกันทิ้งระเบิด B-17 ตามมาเช้าวันรุ่งขึ้นจะทำลายเมืองรถไฟหลา marshaling. [7] ขณะที่มากของเมืองอยู่ในซากปรักหักพังพิพิธภัณฑ์ทหาร Bundeswehr หลักของและส่วนใหญ่ของอาคารทางทหารอื่น ๆ ใน Albertstadt รอดชีวิตจากการทิ้งระเบิดของเดรสเดน เพราะทำเลที่ตั้งอยู่ในเขตชานเมืองของเมือง. [4] อาคารทนโลกโจมตีสงครามโลกครั้งที่สองกับเยอรมนีและยังคงถูกนำมาใช้เป็นพิพิธภัณฑ์ทหารจนกว่ามันจะถูกปิดลงในปี 1989 มันเปิดใหม่อีกครั้งในปี 2011 และให้เป็นวิธีใหม่ของ การนำเสนอประวัติศาสตร์การทหาร แนวคิดการจัดนิทรรศการและการออกแบบที่ได้รับการพัฒนาโดย HG Merz

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

อาคารคลังแสงเดิมแล้วเสร็จในปี 1876 เป็นคลังแสงสำหรับ Kaiser Wilhelm I . [ 4 ] อาร์เซน่อล อาคารหลักในศูนย์ของเมืองเดรสเดนอัลเบิร์ต ทำหน้าที่เป็นคลังแสงประมาณยี่สิบปี จนกระทั่งมันถูกเปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์ในปี 1897 ตั้งแต่นั้นมา อาคารหลักของ อาร์เซน่อล ได้เก็บคอลเลกชัน อาร์เซน่อล รอยัลพิพิธภัณฑ์กองทัพในราชและใน ค.ศ. 1923 กลายเป็นพิพิธภัณฑ์กองทัพแซ็กซอน หลังจาก 1938 , พิพิธภัณฑ์เป็นพิพิธภัณฑ์แห่งกองทัพ และในปี พ.ศ. 2515 กองทัพบกพิพิธภัณฑ์ GDR [ 5 ] 7 เดือน ก่อนการรวมชาติเยอรมัน พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ทหารได้เปลี่ยนชื่อเป็น พิพิธภัณฑ์เดรสเดน [ 6 ]

ที่ 13 กุมภาพันธ์ และ 14 , 1945 เครื่องบินเครื่องบินทิ้งระเบิดของอังกฤษเริ่ม เป็นอากาศ การโจมตีในการสร้างมาก เปลวไฟด้านล่าง[ 7 ] ในช่วง 1 , 244 แลงคาสเตอร์ระเบิดหล่นสูงระเบิดและวัตถุระเบิดระเบิดมุ่งเป้าไปที่ศูนย์กลางของเมือง . [ 8 ] อเมริกัน B-17 ระเบิดตามมาในเช้าวันถัดไป เพื่อทำลายเมืองรถไฟรอบระยะเวลาหลา [ 7 ] ในขณะที่มากของเมืองถูกทำลายพิพิธภัณฑ์ ; พิพิธภัณฑ์ทหารเป็นหลักและส่วนใหญ่ของอาคารทหารอื่น ๆ ใน albertstadt รอดจากการทิ้งระเบิดเดรสเดน เพราะตำแหน่งของมันในเขตชานเมืองของเมือง [ 4 ] อาคารคงตัวสงครามโลกครั้งที่สองโจมตีเยอรมนี และต่อไปจะใช้เป็นพิพิธภัณฑ์ทหาร จนกว่ามันจะปิดใน 1989 ก็จะเปิดอีกครั้งในปี 2011 และให้วิธีการใหม่ของการนำเสนอประวัติศาสตร์การทหารนิทรรศการแนวคิดและการออกแบบพัฒนาโดย HG เมิร์ส .