Nature of the work[edit]See also: P

Nature of the work[edit]
See also: Pharmacy
Historically, the fundamental role of pharmacists as a healthcare practitioner was to check and distribute drugs to doctors for medication that had been prescribed to patients. In more modern times, pharmacists advise patients and health care providers on the selection, dosages, interactions, and side effects of medications, and act as a learned intermediary between a prescriber and a patient. Pharmacists monitor the health and progress of patients to ensure the safe and effective use of medication. Pharmacists may practice compounding; however, many medicines are now produced by pharmaceutical companies in a standard dosage and drug delivery form. In some jurisdictions, pharmacists have prescriptive authority to either independently prescribe under their own authority or in collaboration with a primary care physician through an agreed upon protocol.[5]
Increased numbers of drug therapies, ageing but more knowledgeable and demanding populations, and deficiencies in other areas of the health care system seem to be driving increased demand for the clinical counselling skills of the pharmacist.[1] One of the most important roles that pharmacists are currently taking on is one of pharmaceutical care.[6]Pharmaceutical care involves taking direct responsibility for patients and their disease states, medications, and management of each to improve outcomes. Pharmaceutical care has many benefits that may include but are not limited to: decreased medication errors; increased patient compliance in medication regimen; better chronic disease state management, including hypertension and other cardiovascular disease risk factors;[7] strong pharmacist–patient relationship; and decreased long-term costs of medical care.
Pharmacists are often the first point-of-contact for patients with health inquiries. Thus pharmacists have a significant role in assessing medication management in patients, and inreferring patients to physicians. These roles may include, but are not limited to:
• clinical medication management, including reviewing and monitoring of medication regimens
• assessment of patients with undiagnosed or diagnosed conditions, and ascertaining clinical medication management needs
• specialized monitoring of disease states, such as dosing drugs in kidney and liver failure
• compounding medicines
• providing pharmaceutical information
• providing patients with health monitoring and advice, including advice and treatment of common ailments and disease states
• supervising pharmacy technicians and other staff
• oversight of dispensing medicines on prescription
• provision of non-prescription or over-the-counter drugs
• education and counseling for patients and other health care providers on optimal use of medicines (e.g., proper use, avoidance of overmedication)
• referrals to other health professionals if necessary
• pharmacokinetic evaluation
• promoting public health by administering immunizations

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ธรรมชาติของการทำงาน [แก้]ดู: เภสัชศาสตร์อดีต บทบาทพื้นฐานของเภสัชกรเป็นผู้ประกอบการดูแลสุขภาพคือการ ตรวจสอบ และแจกจ่ายยาแพทย์ที่มีการกำหนดให้ผู้ป่วย ในครั้งสมัยใหม่ เภสัชกรแนะนำผู้ป่วยและผู้เลือก โด โต้ตอบ และผลข้างเคียงของยา และทำหน้าที่เป็นตัวกลางรู้ prescriber ในระหว่างผู้ป่วย เภสัชกรตรวจสอบสุขภาพและความก้าวหน้าของผู้ป่วยเพื่อให้ใช้ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพของยา เภสัชกรอาจฝึกผสม อย่างไรก็ตาม ยาหลายตอนนี้ผลิต โดยบริษัทยาในรูปแบบจัดส่งมาตรฐานการให้ยาและสารเสพติด ในบางประเทศ เภสัชกรมีอำนาจเหมาะกับทั้งกำหนดได้อย่างอิสระภาย ใต้อำนาจของตนเอง หรือร่วมกับแพทย์ดูแลหลักผ่านตกลงกันตามโพรโทคอลการ [5]การเพิ่มขึ้นของยารักษา อายุแต่เพิ่มเติมความรู้ และประชากร และข้อบกพร่องในพื้นที่อื่น ๆ ของระบบการดูแลสุขภาพดูเหมือนจะ สามารถขับความต้องการเพิ่มทักษะการให้คำปรึกษาทางคลินิกของเภสัชกร [1] หนึ่งในหน้าที่สำคัญที่เภสัชกรรับประทานบนเป็นยาดูแลอย่างใดอย่างหนึ่ง [6] การดูแลยาที่เกี่ยวข้องกับการรับผิดชอบโดยตรงต่อผู้ป่วย และอเมริกาโรค ยา และการจัดการของแต่ละการปรับปรุงผล การดูแลยามีประโยชน์มากมายที่อาจรวมถึง แต่ไม่จำกัด: ลดข้อผิดพลาดในการใช้ยา ตามผู้ป่วยเพิ่มขึ้นในระบบการปกครองยา โรคเรื้อรังสถานะการจัดการดีขึ้น ความดันโลหิตสูงและปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ โรคหัวใจ [7] ความสัมพันธ์เภสัชกรผู้ป่วยดี และลดต้นทุนระยะยาวของการรักษาพยาบาลเภสัชกรมักมีการแรกจุดติดต่อสำหรับผู้ป่วยที่มีคำถามสุขภาพ ดังนั้น เภสัชกรมีบทบาทสำคัญในการประเมินการบริหารยาในผู้ป่วย ผู้ป่วย inreferring แพทย์ บทบาทเหล่านี้อาจรวมถึง แต่ไม่จำกัด:•คลินิกยาจัดการ รวมถึงทบทวน และตรวจสอบกิจกรรมยา•การประเมินผู้ป่วยที่มี undiagnosed หรือวินิจฉัย และความต้องการการจัดการทางคลินิกยา ascertaining•ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบโรคอเมริกา เช่นยาเสพติดในไตและตับวาย•ผสมยา•ให้ข้อมูลยา•ให้ผู้ป่วย มีการตรวจสอบสุขภาพและคำแนะนำ คำแนะนำและรักษาโรคทั่วไปและโรคอเมริกา•กำกับดูแลยาช่างและพนักงานอื่น ๆ•ดูแลการทำงานของการจ่ายยาตามใบสั่งแพทย์•เตรียมยาไม่ใช่ยา หรือยาเสพติด•การศึกษาและให้คำปรึกษาสำหรับผู้ป่วยและผู้ให้บริการสุขภาพอื่น ๆ ในการใช้ที่เหมาะสมของยา (เช่น ใช้อย่างเหมาะสม หลีกเลี่ยง overmedication)•แหล่งอ้างอิงให้ผู้เชี่ยวชาญสุขภาพอื่น ๆ ถ้าจำเป็น•ประเมิน pharmacokinetic•ส่งเสริมสุขภาพของประชาชน โดยจัดการฉีด

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ธรรมชาติของการทำงาน [แก้ไข]
ดูเพิ่มเติม: ร้านขายยา
ในอดีตบทบาทพื้นฐานของเภสัชกรเป็นผู้ประกอบการด้านการดูแลสุขภาพคือการตรวจสอบและจัดจำหน่ายยาเสพติดให้แพทย์สำหรับการใช้ยาที่ได้รับการกำหนดให้ผู้ป่วย ในยุคปัจจุบันมากขึ้นเภสัชกรแนะนำให้ผู้ป่วยและผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพกับการเลือกโดปฏิสัมพันธ์และผลข้างเคียงของยาและทำหน้าที่เป็นตัวกลางเรียนรู้ระหว่างยาและผู้ป่วย เภสัชกรตรวจสอบสุขภาพและความคืบหน้าของผู้ป่วยเพื่อให้แน่ใจว่าการใช้งานที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพของยา เภสัชกรอาจปฏิบัติประนอม; แต่ยาหลายประเภทที่มีการผลิตในขณะนี้โดย บริษัท ยาในปริมาณและการส่งมอบยาเสพติดรูปแบบมาตรฐาน ในบางเขตอำนาจศาลเภสัชกรมีอำนาจกำหนดให้ทั้งอิสระกำหนดภายใต้อำนาจของตัวเองหรือในความร่วมมือกับแพทย์ดูแลหลักผ่านการตกลงกันโปรโตคอล. [5]
ตัวเลขที่เพิ่มขึ้นของการบำบัดยาเสพติดริ้วรอย แต่ความรู้มากขึ้นและความต้องการของประชากรและข้อบกพร่องในการ พื้นที่อื่น ๆ ของระบบการดูแลสุขภาพดูเหมือนจะขับรถความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับทักษะการให้คำปรึกษาทางคลินิกของเภสัชกร. [1] หนึ่งในบทบาทที่สำคัญที่สุดที่เภสัชกรขณะนี้มีการเกี่ยวกับการเป็นหนึ่งในการบริบาลทางเภสัชกรรม. [6] การบริบาลทางเภสัชกรรมเกี่ยวข้องกับการ รับผิดชอบโดยตรงสำหรับผู้ป่วยและโรคของพวกเขา, ยา, และการจัดการของแต่ละคนในการปรับปรุงผลการ การบริบาลทางเภสัชกรรมมีประโยชน์มากมายที่อาจรวมถึง แต่ไม่ จำกัด เฉพาะ: ข้อผิดพลาดลดลงยา; ที่เพิ่มขึ้นของผู้ป่วยในการปฏิบัติตามระบบการปกครองยา; การจัดการที่ดีเรื้อรังโรครัฐรวมทั้งความดันโลหิตสูงและปัจจัยเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือดอื่น ๆ [7] ความสัมพันธ์เภสัชกรผู้ป่วยที่แข็งแกร่ง; และลดลงค่าใช้จ่ายในระยะยาวของการดูแลทางการแพทย์.
เภสัชกรมักจะเป็นคนแรกที่จุดของการติดต่อสำหรับผู้ป่วยที่มีการสอบถามข้อมูลสุขภาพ ดังนั้นเภสัชกรมีบทบาทสำคัญในการประเมินการจัดการยาในผู้ป่วยและผู้ป่วยที่จะ inreferring แพทย์ บทบาทเหล่านี้อาจรวมถึง แต่ไม่ จำกัด เฉพาะ:
•การจัดการยาคลินิกรวมทั้งการตรวจสอบและการตรวจสอบของยายา
•การประเมินของผู้ป่วยที่มีเงื่อนไขการวินิจฉัยหรือการวินิจฉัยและการสืบหาการจัดการยาคลินิกความต้องการ
การตรวจสอบ•เฉพาะของโรคเช่นยายาเสพติด ในไตและตับวาย
•ยาประนอม
•ให้ข้อมูลยา
•การให้บริการผู้ป่วยที่มีการตรวจสอบสุขภาพและให้คำแนะนำรวมทั้งให้คำแนะนำและการรักษาโรคทั่วไปและโรค
•กำกับดูแลการช่างร้านขายยาและอื่น ๆ ที่พนักงาน
•การกำกับดูแลของยาจ่ายยา
•บทบัญญัติของที่ไม่ใช่ ใบสั่งยาหรือมากกว่าที่เคาน์เตอร์ยาเสพติด
•การศึกษาและการให้คำปรึกษาสำหรับผู้ป่วยและผู้ให้บริการดูแลสุขภาพอื่น ๆ ในการใช้งานที่ดีที่สุดของยา (เช่นการใช้ที่เหมาะสมหลีกเลี่ยงการ overmedication)
อ้างอิง•ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพอื่น ๆ หากจำเป็น
•การประเมินผลทางเภสัชจลนศาสตร์
•การส่งเสริมสุขภาพของประชาชนโดย การบริหารการฉีดวัคซีน