has taken place in recent decades,

has taken place in recent decades, a growing number of patients are cared for at home by relatives. These care- givers spend a significant amount of time and energy in caring for their loved ones, despite the large emotional burden and the impact on their personal goals [3–12]. Given these consequences, it is not surprising that care- givers have a significantly increased risk of becoming overloaded [7, 12–14], which can severely impair their quality of life, potentially leading to withdrawal from caregiving.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ได้เกิดขึ้นในทศวรรษที่ผ่านมาล่าสุด จำนวนที่เพิ่มขึ้นของผู้ป่วยมีอุปการะที่บ้าน โดยญาติ Givers ดูแลเหล่านี้ใช้จ่ายเงินอย่างมีนัยสำคัญของเวลาและพลังงานในการดูแลรักของพวกเขา แม้มีภาระทางอารมณ์และผลกระทบต่อเป้าหมายส่วนบุคคล [3-12] ได้รับผลกระทบเหล่านี้ มันไม่ได้น่าแปลกใจว่า givers ดูแลมีความเสี่ยงเพิ่มมากขึ้นเป็นโอเวอร์โหลด [7, 12-14], ที่รุนแรงสามารถทำคุณภาพของชีวิต อาจนำไปถอนเงินจาก caregiving

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เกิดขึ้นในทศวรรษที่ผ่านมาตัวเลขการเติบโตของผู้ป่วยได้รับการดูแลที่บ้านญาติ ผู้ให้ระมัดระวังการใช้จ่ายเหล่านี้เป็นจำนวนมากของเวลาและพลังงานในการดูแลคนที่รักของพวกเขาแม้จะมีภาระทางอารมณ์ขนาดใหญ่และมีผลกระทบต่อเป้าหมายส่วนตัวของพวกเขา [3-12] ได้รับผลกระทบเหล่านี้ก็ไม่น่าแปลกใจที่ผู้ให้ระมัดระวังมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญของการเป็นมากเกินไป [7, 12-14] ซึ่งรุนแรงสามารถทำให้เสียคุณภาพชีวิตของพวกเขาอาจนำไปสู่​​การถอนตัวออกจากการดูแล

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

มีสถานที่ในทศวรรษที่ผ่านมา ตัวเลขการเติบโตของ ผู้ป่วยจะได้รับการดูแลที่บ้านโดยญาติ การดูแลสุขภาพ - การใช้จ่ายจำนวนมากของเวลาและพลังงานในการดูแลคนรักของพวกเขา , แม้จะมีขนาดใหญ่ภาระทางอารมณ์ และผลกระทบต่อเป้าหมายส่วนบุคคลของพวกเขา– 12 [ 3 ] ได้รับผลกระทบเหล่านี้มันไม่น่าแปลกใจที่ดูแล - สุขภาพมีความเสี่ยงมากขึ้นกลายเป็นเพียบ [ 7 , 12 - 14 ] ซึ่งอย่างรุนแรงสามารถทำให้เสียคุณภาพชีวิต อาจนำไปสู่การถอนตัวออกจากการดูแล .