Baseline characteristics of patient

Baseline characteristics of patients and catheters
were described by group. The primary analysis was by
intention to treat, including all patients (and all
catheters) in their ran domised group. First, we
calculated relative incidence rates of phlebitis and
absolute rate diff erences per 100 catheters and per
100 patients, and we then used two-sided Fisher’s exact
test to assess equivalence in risk between groups.
Second, we calculated hazard rates per 1000 catheter
hours, with 95% CI, with a Cox proportional hazards
model (assumptions were checked) to sum marise the
eff ect of intervention per patient (includ ing all catheters
per patient). Finally, we used Kaplan-Meier survival
curves to compare rates of time until fi rst phlebitis per
patient between groups.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ลักษณะพื้นฐานของผู้ป่วยและหลอดสวน
ถูกอธิบายโดยกลุ่ม การวิเคราะห์หลักคือโดย
ความตั้งใจในการรักษารวมทั้งผู้ป่วยทั้งหมด (และทุก
สายสวน) ในวิ่ง domised กลุ่มของพวกเขา อันดับแรกเรา
คำนวณอัตราอุบัติการณ์ญาติของหนาวสั่นและ
ต่างอัตราแน่นอน erences ต่อ 100 สายสวนและต่อ
100 ผู้ป่วยและจากนั้นเราจะใช้ที่แน่นอนสองด้านฟิชเชอร์
การทดสอบเพื่อประเมินความเท่าเทียมกันในระหว่างกลุ่มความเสี่ยง
ประการที่สองเราคำนวณอัตราอันตรายต่อ 1000 สายสวน
ชั่วโมง กับ 95% CI, กับ Cox อันตรายสัดส่วน
รูปแบบ (ข้อสมมติฐานการตรวจสอบ) เพื่อสรุปผล Marise
EFF ect ของการแทรกแซงต่อผู้ป่วย (includ ไอเอ็นจีหลอดสวนทั้งหมด
ต่อผู้ป่วย) สุดท้ายเราใช้ Kaplan-Meier รอด
โค้งไปเปรียบเทียบอัตราของเวลาจนกว่าไฟแรกหนาวสั่นต่อ
ผู้ป่วยระหว่างกลุ่ม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

คุณลักษณะพื้นฐานของผู้ป่วยและหลอดสวน
ถูกก่อตั้งโดยกลุ่ม การวิเคราะห์เบื้องต้นโดย
ความตั้งใจที่จะรักษา ได้แก่ ผู้ป่วยทุกคน ( และทุก
catheters ) ในการรัน domised กลุ่ม แรกเรา
คำนวณเทียบอุบัติการณ์ของโรคหลอดเลือดดำอักเสบและ
เท่ากันแน่นอน Diff erences ต่อ 100 catheters และต่อ
100 ผู้ป่วย และเราก็ใช้สองแน่นอน
ฟิชเชอร์การทดสอบเพื่อประเมินค่าความเสี่ยงระหว่างกลุ่ม
ที่สอง เราคำนวณอัตราต่อ 1 , 000 ชั่วโมงอันตรายสายสวน
, 95% CI , กับนางแบบ Cox สัดส่วนอันตราย
( สมมติฐานตรวจสอบ ) รวม marise
เอฟ ect ของการแทรกแซงต่อผู้ป่วย ( includ ไอเอ็นจีทั้งหมด catheters
ต่อผู้ป่วย ) เราก็ใช้แคปไมเออร์รอด
เส้นโค้งเพื่อเปรียบเทียบอัตราของเวลาจนถึง RST fi Phlebitis ต่อ
ผู้ป่วยระหว่างกลุ่ม